เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์24ก.ย.-นายกฯควบ‘มท.1’
โปรดเกล้าฯครม.อนุทิน
‘หนู’ยันกรองเข้มก่อนทูลเกล้าฯ
ร่างแถลงนโยบายเสร็จแล้ว99%
รอเคาะวันแถลง/คาดใช้เวลา2วัน
‘วันนอร์’เล็งหารือร่วม‘วิป3ฝ่าย’
โปรดเกล้าฯ “ครม.อนุทิน” รองนายกฯ 6 คน “พิพัฒน์-โสภณ-บวรศักดิ์-เอกนิติ-ธรรมนัส-สุชาติ” ส่วน “พัฒนา” นั่ง รมว.สธ.ตำแหน่งเดียว นายกฯนำครม.ใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ 24 กันยายนนี้ ทำเนียบรัฐบาลเตรียมพร้อมห้องทำงาน ปธ.รัฐสภาแจงแถลงนโยบายไม่ทัน 25-26 กันยายน ต้องรอรบ.ประสานมา-คุยวิป 3 ฝ่ายเคาะวัน-เวลา “โฆษกภูมิใจไทย” ชี้บรรจุระเบียบวาระต้องแจ้งล่วงหน้า 5 วัน คาดอาจเป็นช่วงสิ้นเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม “ปชน.” ตั้งธง 4 ประเด็นนำทีมชำแหละ “รัฐบาลหนู”ย้ำจุดยืนตรวจสอบทุกรัฐบาลเหมือนกัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 กันยายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า
ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายน 2568 แล้วนั้น บัดนี้นายอนุทินได้เลือกสรรผู้สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โปรดเกล้าฯครม.ใหม่36คน42เก้าอี้
นายภราดร ปริศนานันทกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต เป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นรมว.กลาโหม พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็นรมช.กลาโหม นายวรภัค ธันยาวงษ์ เป็น รมช.คลัง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็น รมว.ต่างประเทศ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอัครา พรหมเผ่า เป็น รมช.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
‘พล.ต.ต.รุทธพล’นั่งรมว.ยุติธรรม
นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช เป็น รมช.คมนาคม นายไชยชนก ชิดชอบ เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็น รมว.พลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็น รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย อีกตำแหน่งหนึ่ง นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมช.มหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เป็น รมช.มหาดไทย นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย พลตำรวจตรีรุทธพล เนาวรัตน์ เป็น รมว.ยุติธรรม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เป็น รมว.แรงงาน นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรมว.วัฒนธรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นายองอาจ วงษ์ประยูร เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.สาธารณสุข นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เป็น รมช.สาธารณสุข นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็น รมว.งอุตสาหกรรม จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ เป็น รมช.อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ภายหลังการโปรดเกล้าฯ นายกฯจะนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ในวันพุธที่ 24ก.ย.เวลา 14.00น.
‘อนุทิน’นำเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ24ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทำเนียบรัฐบาล ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะนำครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 18.00 น.วันที่ 24 ก.ย.ทั้งนี้ ได้นัดครม.ที่ทำเนียบฯ เวลา 14.00น.เพื่อถ่ายรูปเดี่ยวสำหรับติดบัตร ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี และตรวจ ATK ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี จากนั้นเวลา15.30น.ถ่ายภาพหมู่ ภายในตึกสันติไมตรี และเวลา 16.00 น. ออกเดินทางจากตึกสันติไมตรี ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน และภายหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ฃ
ขณะเดียวกัน ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรี เวลา 10.00น.เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสถานที่ โดยนำป้ายที่จอดรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกฯและรองนายกฯ รวม 6คนและตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ มาติดตั้งประจำที่โรงจอดรถด้านข้างตึกบัญชาการ2 ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้เข้าสำรวจห้องทำงานของรองนายกฯและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ตึกบัญชาการ ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้าแม่บ้านได้ทำความสะอาดขัดล้างบันไดด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วย
รมต.ป้ายแดงเริ่มเข้าจับจองห้องทำงาน
จากนั้นในช่วงบ่าย คณะทำงานของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็เข้ามาดูห้องทำงาน
ขณะที่ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ห้องทำงานประจำตำแหน่งเป็นไปตามการจัดสรรของทางทำเนียบรัฐบาล แต่จะส่งคณะทำงานมาดูใน 1-2 วันนี้ ส่วนนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะส่งทีมงานมาดูห้องทำงานภายหลังมีการแถลงนโยบายต่อสภา ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม ตึกบัญชาการ 1 จะเป็นที่ทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งรวมกันทั้งหมดมี 10 ตำแหน่ง โดยห้องทำงานทั้งหมด จะอยู่ในชั้น2-4
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า วันเดียวกันนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางมาที่ตึกบัญชาการ เพื่ออำลาข้าราชการทำเนียบฯ และข้าราชการกระทรวงพลังงานด้วย
รอคุยวิป3ฝ่ายเคาะวันแถลงนโยบาย
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้วว่า ต้องรอรัฐบาลแจ้งมาที่สภาฯว่าพร้อมจะแถลงนโยบายช่วงไหน จากนั้นวิป 3 ฝ่าย จะประชุมเพื่อกำหนดวันและเวลา ซึ่งตนติดตามอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล ซึ่งการแถลงนโยบายจะต้องดำเนินการหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 25-26ก.ย.ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ยัง ต้องรอรัฐบาลพร้อม และแจ้งต่อสภาฯว่าจะแถลงนโยบายช่วงไหน ซึ่งมีกรอบระยะเวลาอยู่แล้ว ว่าหลังถวายสัตย์ปฏิญาณจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่เกิน 15 วัน แต่ยืนยันว่าทางสภาจะรีบดำเนินการให้โดยเร็ว
ภท.แจงแถลงนโยบาย25ก.ย.ไม่จริง
ด้านน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่รัฐบาลเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ไม่จริง เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา กำหนดว่าการบรรจุวาระจะต้องแจ้งล่วงหน้า 5 วัน ดังนั้น หากนับจากวันที่ 24ก.น. คาดว่าจะแถลงนโยบายได้วันที่ 29-30ก.ย. หรือช่วง 30ก.ย. - 1ต.ค. โดยวิป 3 ฝ่ายจะมีการหารือวันที่ 25 - 26 ก.ย.นี้ ซึ่งจะได้ข้อสรุปว่าจะแถลงนโยบายรัฐบาลวันใด
‘คุณหญิงกัลยา’ลาออกสมาชิกปชป.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 10.00น.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เดินทางเข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่พรรคประชาธิปัตย์ หลังยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลการลาออกว่า เพื่อไปตามหาความฝันที่พรรคประชาธิปัตย์เคยมอบให้ในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเรื่องน้ำเพื่อเกษตรกรที่ยั่งยืนเพราะเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้จะนำพาประเทศได้ซึ่งเป็นเรื่องที่สานต่อจากพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าทำไมถึงทำความฝันนี้ต่อที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า เวลาของตนน้อยลงแล้ว อยู่ได้อีกไม่กี่ปี รู้สึกตัวเองไม่ค่อยมีประโยชน์ จึงต้องทำตัวให้มีประโยชน์ อย่างไรก็ตามตนรักและเคารพพรรคประชาธิปัตย์ มาตลอด 25ปี ไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้ตนได้เข้าไปลานายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคแล้ว ซึ่งนายชวนอวยพรให้ประสบความสำเร็จ
“กราบขอบพระคุณท่านชวน ท่านบัญญัติท่านจุรินทร์ ท่านอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคที่เราอยู่ด้วย รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสและสนับสนุนส่งเสริมให้ได้ทำสิ่งที่มีความเชื่อมาโดยตลอดและเป็นสิ่งที่ดีงามแก่ประเทศชาติ แม้ตอนนี้ถดถอยลงไปมากแล้ว น่าจะเป็นโอกาสที่น่าจะใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการศึกษาและเรื่องน้ำ มาแก้ วิกฤตของประเทศชาติ” คุณหญิงกัลยา กล่าว
ตามความฝันซบพรรคไทยก้าวใหม่
เมื่อถามว่าจุดอ่อนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ควรปรับปรุงในขณะนี้คืออะไร คุณหญิงกัลยากล่าวว่า พรรคคงต้องคิดอะไรใหม่ๆ และคนรุ่นใหม่มาทำให้ก้าวหน้าทันสมัย เพราะทุกๆพรรคมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราก็ผ่านความยากลำบาก ดีและไม่ดีเป็นฝ่ายค้านเป็นรัฐบาล มานานก็เป็นประสบการณ์เยอะถ้าคนรุ่นใหม่เข้ามา ซึ่งตนยังสนับสนุนการทำงานเพื่อประเทศชาติอยู่ตลอดเวลา โดยตั้งใจไว้ว่าชีวิตที่เหลือจะทำเพื่อประเทศชาติและเยาวชนของชาติ เมื่อถามย้ำว่า จะไปอยู่พรรคเดียวกับ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่พรรคไทยก้าวใหม่ หรือไม่ คุณหญิงกัลยา ยอมรับว่าคุยกันพักใหญ่แล้วและรู้สึกว่าพรรคของนายสุชัชวีร์เป็นหลักเป็นฐานขึ้นแล้ว ซึ่งจะมีการเปิดตัวพรรคในเร็วๆ นี้ โดยที่ทำการพรรคอยู่ย่านรัชดาภิเษก ส่วนจะทันการเลือกตั้งในการเลือกตั้งอีก 4 เดือนข้างหน้าหรือไม่ต้องถาม นายสุชัชวีร์ แต่ตนเห็นความคืบหน้าและเชื่อว่าจะทัน ส่วนบุคคลจะเข้ามาร่วมกันทำงานในพรรคนั้นต้องให้ นายสุชัชวีร์ บอกอีกครั้ง เพราะต้องการรวบรวมคนในประเทศทุกๆ กลุ่มที่เห็นความสำคัญกับการศึกษามาร่วมแรงร่วมใจพาประเทศพ้นวิกฤต
ปชน.ลุยตรวจสอบ4ประเด็นใหญ่
นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย บทบาทการทำหน้าที่ของพรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้านจะเริ่มต้นตรวจสอบรัฐบาลอย่างไร ว่า บทบาทของพรรคประชาชนทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งเวทีแรกที่เป็นเวทีสำคัญในการตรวจสอบรัฐบาลเฉพาะกิจชุดนี้ คือเวทีการอภิปรายเรื่องคำแถลงนโยบาย โดยทางพรรคประชาชนมีการตั้งทีม และเตรียมผู้อภิปรายในระดับหนึ่งแล้ว แบ่งเป็น 4หมวดหมู่ ได้แก่ 1.การตรวจสอบและติดตามการรักษาสัญญา ตามเงื่อนไข MOA และตรวจสอบกรอบเวลาการทำงานของรัฐบาลตามเงื่อนไข 4เดือน รวมถึงรายละเอียดแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2. เดินหน้าตรวจสอบประเด็นที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ทั้งกรณีฮั้วสว.และที่ดินเขากระโดง ซึ่งขณะนี้มีทีมที่ถูกตั้งขึ้นมานำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมอภิปรายในเรื่องดังกล่าว
จับตานโยบาย-ประโยชน์ทับซ้อน
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า 3.ตรวจสอบนโยบายเฉพาะหน้าที่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะผลักดัน ทำให้คุณภาพชีวิตและปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ทั้งเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างโครงการคนละครึ่งที่มีการแย้มออกมาจะมีเงื่อนไขอย่างไรที่จะสามารถเพิ่มการบริโภคได้จริง ไม่ใช่เป็นการย้ายการบริโภค จากร้านค้าที่อยู่นอกโครงการมาอยู่ในโครงการเท่านั้น รวมไปถึงการป้องกันไม่ให้มีการใช้งบประมาณปี 69 เพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง หรือตนเอง ที่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและประชาชน และ 4.ตรวจสอบความเหมาะสมของรายชื่อครม.ที่ประกาศมา และเมื่อดูจากรายชื่อแล้วก็เป็นไปตามโผ ซึ่งมีทั้งรายชื่อใหม่ที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น กรณีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นอดีตตำรวจในจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ในทีมหรือภายใต้การบังคับบัญชาของอดีตตำรวจท่านหนึ่งที่เป็นสว.อยู่ และถูกตั้งคำถามคดีฮั้วสว.อยู่ และมีหลายรายชื่อที่เป็นชื่อเดิม เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เรายังคงตั้งคำถามถึงความเหมาะสมเรื่องคุณสมบัติ และศักยภาพในการทำงาน
เขากระโดง-ฮั้วสว.ไม่รอดสายตา
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องกัญชาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในหมวดหมู่ที่ 2 ที่สังคมตั้งข้อครหานอกจากเรื่องเขากระโดงกับฮั้ว สว.แล้ว ก็คงจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่สังคมตั้งคำถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน ทั้งจุดยืนเรื่องนโยบายกัญชาและคดีการเมือง ซึ่งภายหลังจากนายอนุทิน เป็นนายกฯ หลายคนมีความกังวลเพราะจะเห็นว่ามีประชาชนหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับการประกันตัว รวมถึงการดำเนินคดีและจำคุกที่มีโทษสูง 10-20 ปี เป็นหลายประเด็นที่ต้องจับตาดูว่าท่าทีของรัฐบาลใหม่จะเป็นเช่นไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี