‘อนุทิน’ฟิตจัดลุยน้ำท่วมอ่างทอง
4เดือนทำเต็มที่!
อ้อนขอกำลังใจชาวบ้าน
พร้อมยุบสภาตามสัญญา
พท.เคาะ4ขุนพลปากจัด
ชำแหละนโยบายรัฐบาล

นายกฯอนุทิน ประเดิมลุยจังหวัดอ่างทองตรวจพื้นที่อุทกภัย อ้อนขอกำลังใจชาวบ้านยัน 4 เดือนทำงานเต็มที่พร้อมยุบสภาตามสัญญา ขณะที่เพื่อไทยเคาะ 4 ขุนพลฝีปากกล้า “สุทิน-จาตุรนต์-จุลพันธ์-ชลน่าน” ทัพหน้าชำแหละ “นโยบายรัฐบาล “หนู 1” พุ่งเป้า “คุณสมบัติ” คนเป็นรัฐมนตรี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยภริยา น.ส. ธนนนท์ นิรามิษ เดินทางด้วยรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน ภษ 9559กรุงเทพมหานครถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อ่างทอง จ.อ่างทอง

โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย นายสุรเชษ นิ่มสกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอยุธยา พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีตสส.สุพรรณบุรี บรรดานักการเมืองท้องถิ่น และประชาชน รอให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ถือเป็นการลงพื้นที่จังหวัดอ่างทองครั้งแรกของนายอนุทินภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯนายกฯและคณะรัฐมนตรี โดยการลงพื้นที่ในวันเดียวกันนี้ เป็นการลงพื้นที่ในนามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

จากนั้นทีมสโมสรฟุตบอลอ่างทองมอบโปสเตอร์ภาพให้นายภราดรในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งมีข้อความว่า “Happy Birthday”ต่อมา นายสมศักดิ์ นำครอบครัวมอบพวงมาลัย แสดงความยินดีกับนายอนุทินที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

อ้อนชาวอ่างทองเลือกสส.เป็นรมต.

จากนั้นนายอนุทินกล่าวพบปะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตอนหนึ่งว่าสวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวอ่างทองที่เคารพรัก วันนี้เรามีแขกผู้ใหญ่มาร่วมในงานวันคล้ายวันเกิดของนายภราดร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ผู้ใหญ่ท่านแรกที่ตนเคารพนับ ถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานการเมือง คือ นายจองชัยหรืออาจองชัย ท่านมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี คนที่สองนายนิกร ท่านเปรียบเสมือนพี่ชายที่เคารพรักกันมานาน เป็นครม.อยู่ด้วยกันเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ท่านเป็น รมช.คมนาคม ตนเป็น รมช.สาธารณสุข เราทำงานด้วยกันคบหากันมานานและยังมีนางสมทรง และพล.ต.ท.คำรณวิทย์และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองปัจจุบันนี้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี

นายอนุทิน กล่าวต่อว่าพี่น้องชาวอ่างทองอยากให้ผู้ว่าฯอยู่กับเราไหมตบมือให้ไปถึงกระทรวงมหาดไทยให้คืนความเป็นธรรมด้วย ตนก็ปรบมือด้วยเชียร์ๆเขาพิจารณา เรายังแต่งตั้งใครไม่ได้และพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)แฟนเก่าตน กำนัน และผู้ใหญ่บ้านมากันครบทุกคนมาที่นี่เพื่อมาแสดงความรักและแสดงความยินดี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายภราดร ที่นี่ไม่มีรัฐมนตรีแบด มีแต่ไอ้แบด เหมือนเดิมเราเลือกเขามาทำงาน ไม่ได้เลือกให้เป็นเจ้าคนนาย คนเลือกให้ไปทำงาน ทั้งแบด(ภราดร)ทั้งแชมป์ (นายกรวีร์) ไปเป็นผู้แทนของพี่น้องชาวอ่างทองทุกคน

ไม่ลืมคนอ่างให้ทองของขวัญที่มีค่า

นายอนุทินกล่าวว่าในการทำงานตัวตนมายืนอยู่บนเวทีที่จังหวัดอ่างทองแห่งนี้ตั้งแต่ยังเป็นวุ้นทางการเมืองยังเป็นรมช.สาธารณสุขตนก็มาเติบโตมาตามลำดับพี่น้องชาวจังหวัดอ่างทองก็ให้โอกาสกับตนอยู่เสมอให้โอกาสที่ดีที่สุดกับตน คือ ให้นายสมศักดิ์ ให้นายภราดร และนายกรวีร์ มาอยู่ในพรรคภูมิใจไทยนี่คือของขวัญที่มีค่า ที่ได้มาจากพี่น้องชาวอ่างทอง ทำให้ตนไม่สามารถที่จะลืมจังหวัดอ่างทองได้ ทุกครั้งเมื่อมีภารกิจ หรือกิจกรรมใดๆของจังหวัดอ่างทองไม่เชิญตนก็ต้องมา เพราะมีความรู้สึกว่าสิ่งที่ทำเพื่อพี่น้องชาวจังหวัดอ่างทองทำไว้เยอะมาก ทั้งการทำงานทางการเมืองของตน ตนดูแนวทางรุ่นพี่คือนายสมศักดิ์ บุคลิกเหมือนกัน ต่างกันแค่ส่วนสูงเท่านั้น ที่เหลือเหมือนกันหมด ไปไหนยิ้มทั้งวัน ถึงแม้ว่าจะมีความเครียดความกังวล แต่ว่าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส

ขอให้มั่นใจลุยบริหารจัดการน้ำ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เรามั่นใจว่าเราทำสิ่งที่เป็นคุณงาม ความดีตลอดเวลาเรามีพี่น้องประชาชนอยู่ข้างหลังตลอดเวลา ทุกอย่างที่อยู่ในนายสมศักดิ์หรือพี่ตือของตน ซึมซับมาทำให้ตนเจริญเติบโตในทางการเมืองมาโดยตลอด เหนือสิ่งอื่นใด เหนือตำแหน่งทางการเมือง เรามีตำแหน่ง เพราะเราได้เป็นผู้แทนของราษฎรพี่น้องประชาชนอยากให้เราได้ไปทำหน้าที่ การงานเรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือใช้ตำแหน่งตรงนั้นทำคุณประโยชน์ตอบแทนพระคุณของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด เท่าที่ความสามารถเรามี ก็ขอให้ความมั่นใจตรงนี้ เดี๋ยวตนจะไปดูน้ำท่วมที่จังหวัดอ่างทองที่ เราได้แก้ปัญหามาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ตนเป็น รมว.มหาดไทย 2 ปีก่อนที่จะพักร้อนไป 2 เดือนไปที่จังหวัดอ่างทองดูน้ำท่วมปีแรกท่วมเกือบมิดหัว เราวางแผนกับผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ปีนี้น้ำค่อยๆลดลงมาทราบมาว่าปริมาณน้ำถ้าเทียบกับปีที่แล้วน้อยลงกว่าปีที่แล้วเยอะแต่เราก็ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ต้องเตรียมในเรื่องของการดูแลพี่น้องประชาชน ดูแลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ

แย้ม‘ภราดร‘คุมสำนักงบประมาณ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่าวันนี้พี่น้องชาวอ่างทองได้รัฐมนตรีมา 1 คนแล้ว ก็คือนายภราดร และตนมั่นใจว่าเดี๋ยวก็ได้เห็นนายกรวีร์เป็นรัฐมนตรี หรือตำแหน่งสำคัญในระบบการเมืองของประเทศไทยก็ไม่พ้นเช่นกัน สิ่งที่ทั้ง 2พี่น้องได้ให้ความมั่นใจในการทำหน้าที่ เขาเป็นลูกนายสมศักดิ์ แต่ความสามารถของเขามาจากดีเอ็นเอความขยัน มาจากความทุ่มเทมา จากความมั่นใจที่เขามั่นใจว่ามีพี่น้องชาวอ่างทองอยู่ข้างหลังเขาตลอดเวลา เขาถึงทุ่มเทสุดชีวิต สุดซอย ทำให้ในช่วงที่พรรคภูมิใจไทย มีบทบาทในทางการเมือง เราก็ต้องมีตำแหน่งในทางการเมือง เพื่อให้เขาไปทำหน้าทีให้กับประเทศชาติให้มากที่สุด

วันนี้ต้องขออนุญาตชาวอ่างทองทิ้งนายกรวีร์ให้ทำงานให้ชาวอ่างทองให้เต็มที่ แต่ขอเอานายภราดรไปทำทุกอย่างให้กับประเทศให้กับคนไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตนวางแผนอยู่ในหัวให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว หลายคนบอกตนว่าไม่ให้ไปกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ก็เพราะนายภราดรต้องอยู่กับตนในฐานะนายกรัฐมนตรี 24 ชั่วโมง ตนไปที่ไหน นายภราดรต้องไปด้วย เพราะจะให้นายภราดรกำกับดูแลสำนักงบประมาณ งบประมาณของประเทศไทยผ่านแล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 3.78 ล้านล้านบาท เพื่อกลั่นกรองให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

ลั่นทำงานเต็มที่สุด4เดือนยุบสภาแน่

นายอนุทนกล่าวอีกว่านี่คือสิ่งความสำคัญ สิ่งที่ตนเห็นพี่น้องชาวอ่างทองไว้ใจนายภราดร และตนจะไม่ไว้ใจได้อย่างไรถูกหรือไม่ ตนมั่นใจว่านายภราดร จะไม่ทำให้คะแนนและพี่น้องชาวอ่างทองหรือความไว้วางใจและความมั่นใจที่มอบให้ ตนรับรองได้ว่าเขาจะต้องทำงานให้กับชาวอ่างทองจะให้กับคนไทยทุกคนจากนี้ไปขอให้ให้ความมั่นใจว่า ตนจะทำหน้าที่ ให้ดีที่สุด ไม่ว่ากี่วัน กี่เดือน เราไม่คิดว่า เราจะทำแล้วหมดไป เป็นนายกฯแล้วจบ เป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง อีก 4 เดือนยุบสภาแน่นอน ไม่ต้อง 4 เดือนเราทำเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเลือกพวกเรากลับมารับใช้พี่น้องประชาชนอีก เพราะฉะนั้นขอให้ท่านได้มีความมั่นใจว่า 4 เดือนนี้เป็น 4 เดือนที่เราจะทำงานกันอย่างเต็มที่สุดความสามารถ และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดเท่าที่เราจะทำได้

อวยพรเบิร์ธเดย์ภราดรครบ46ปี

“วันนี้นายภราดรอายุครบ 46 กำลังวังชาดี ไม่เด็กเกินไป ไม่แก่เกินไป เขาเรียกพลังงานมีแรงจูงใจอย่างเต็มที่ ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดี วันนี้เห็นความเหมาะสม วันนี้นายภราดรอายุ 46 ปี เราไม่มีอะไรมอบให้เขานอกจากกำลังใจ“นายอนุทินกล่าว

จากนั้นนายอนุทิน กล่าวอวยพรวันคล้ายวันเกิดนายภราดรว่าขอให้รัฐมนตรีภราดรมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นขวัญใจพี่น้องชาวอ่างทองและสามารถทำผลประโยชน์ให้กับประเทศไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาพรแค่นี้พอ ก่อนนำร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และอวยพรวันเกิด

เป็นบทกลอน“โชคดี สุขสันต์วันเกิด สิ่งประเสริฐใด หวัง ตั้งใจให้ได้สม ดังฝันใฝ่ จิตแจ่มใส ทุกวัน ทุกคืนให้ร่ำรวย เงินทอง ยศศักดิ์ ให้คนรัก มากมี ดาษดื่น ทำสิ่งใดจงลุล่วง ราบรื่นอายุยืน ปลอดโรคปลอดภัย” ตนก๊อปปี้เขามา ทั้งนี้ บทกลอนดังกล่าว เป็นเพลงลูกกรุงชื่อเพลง“พรวันเกิด”ของธานินทร์ อินทรเทพ

จากนั้นนายภราดรกล่าวขอบคุณนายกฯที่อวยพรวันเกิดซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นโดยนายอนุทิน เดินจับมือทักทายประชาชนพร้อมถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง

ระหว่างที่นายอนุทินเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ห้อยพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ซึ่งนายอนุทินให้ความสนใจเดินเข้าไปจับ พร้อมสอบถามว่าใช่พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ใช่หรือไม่ พร้อมชมว่า สวย

ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่อุทกภัย

เวลา 11.00 น.ที่ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นายอนุทิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัย โดยนายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าฯอ่างทองบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่าปัจจุบันมีการปล่อยน้ำ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าโดยการปล่อยน้ำมีผลกระทบท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่คลองโผงเผง อ.ป่าโมก ต.บางจัก ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ ปัจจุบันอ่างทอง ประสบปัญหาทั้งหมด 4 อำเภอ 22 ตำบล 74 หมู่บ้าน 1,025 ครัวเรือน ขณะที่นายอนุทินได้สอบถามถึงเงินช่วยเหลือของทางรัฐบาล ซึ่งผู้ว่าฯรายงานว่ายังไม่ได้รับการแจ้งมา

โดยนายอนุทิน พบปะและมอบถุงยังชีพของพรรคภูมิใจไทย แก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 145 ชุด

ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งจัดงบช่วยเหลือ

โดยนายกฯ กล่าวพบปะประชาชนว่าสวัสดีชาววิเศษชัยชาญที่ช่วงนี้สถานการณ์น้ำท่วมทำให้บ้านเรือนของประชาชนประสบความเสียหาย เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้จะยังไม่ได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตนและคณะรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และด้วยความเป็นห่วงคนจ.อ่างทอง จ.อยุธยา ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับตน เพราะให้ สส.ตนยกจังหวัด โดยจ.อ่างทองให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง หากเจออุทกภัยก็จะต้องพิจารณางบช่วยเหลือประชาชน ซึ่งจะต้องจัดลงทันทีและการวางแผนป้องกันน้ำท่วมบูรณาการร่วมกัน

นายกฯย้ำว่าก่อนตนออกไปตนเดินสายอยู่แถว จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานีจ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี จ.ชัยนาทเพื่อที่จะเตรียมความพร้อม เพราะน้ำมาสายเดียวกันเตรียมที่จะผันน้ำและขอบคุณประชาชนที่ให้เอาน้ำมากักไว้ในพื้นที่ของตัวเองเพื่อไม่ให้น้ำไปรบกวนทำความเสียหายจังหวัดอื่นโดยเราเตรียมเงินที่จะดูแลในช่วง4เดือน

คนที่เอาผมออกก็ต้องออกไปเอง

“ผมไม่มีพรรคนี้พรรคนั้นมีแต่พวกเดียวกัน คือ พวกของพี่น้องประชาชน เราจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ตรงไหนใช้ทรัพยากรอย่างไรใช้งบประมาณอย่างไร พวกเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ประชาชนจะได้คลายทุกข์คลายความเสียหาย เราสู้ธรรมชาติไม่ได้ แต่เราก็ต้องหาทางป้องกันให้ธรรมชาติในบางช่วง ทำความเสียหายให้กับพวกเราน้อยที่สุด ผมเป็นรมว.มหาดไทย แต่ต้องพ้นหน้าที่ออกไปเมื่อ2เดือนกว่าถือว่าไปพักร้อน เขาไม่ให้ทำงาน เขาให้ออกไป แต่สุดท้ายคนที่เอาผมออกไป ก็ต้องออกไปเอง และผมก็กลับเข้ามาวันนี้กลับเข้ามาแล้วสิ่งที่ผมทำค้างคาก็จะมาสานต่อ“ นายอนุทิน กล่าว

“แต่เมื่อผมออกไป เป็นการเมืองคนละขั้ว เขาก็ไม่กล้าทำต่อเพราะกลัวทำต่อไปแล้วผมได้คะแนน ตอนนี้ฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ผมกลับมาแล้วจะกลับมาทำต่อให้ประชาชนให้ทุกอย่างที่ได้เตรียมการไว้ได้รับการสืบเนื่อง แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดยังถูกย้าย เดี๋ยวผมจะถาม ปลัดกระทรวงมหาดไทยใครสั่งให้ย้าย แล้วย้ายทำไม เขาทำอะไรผิดหรือเปล่าซึ่งผู้ว่าฯคนนี้เก่ง ทำไมถึงย้าย เล่นการเมืองต้องไม่คิดถึงตัวเราเอง หรือพรรคการเมืองคู่แข่ง แต่ต้องคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง พวกผมกลับเข้ามา ความเป็นธรรมทั้งหลายจะต้องเกิดขึ้น ความสุข คุณภาพชีวิตที่ดีจะต้องเกิดขึ้นกับประชาชน ย้ายผู้ว่าฯ ไปคนเดียว ประชาชนเดือดร้อนไปหมด” นายอนุทิน กล่าว

ไม่มีเวลา เข้าไปปุ๊บลุยทำงานทันที

นายอนุทินย้ำว่าขอให้ประชาชนไว้วางใจและให้กำลังใจ อย่าให้ใครมาไล่ตนอีก หายไป 2 เดือนเสียเวลาเสียโอกาสเยอะ ถ้าตนเป็น 2เดือนกว่า คงไม่ต้องมาแจกของเพราะบริหารจัดการไว้ได้มากพอสมควร แต่ยังไงก็ยังทัน เดี๋ยวจะทำอย่างเต็มที่ให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด ผู้ว่าฯจะดำเนินการให้เต็มที่ มีการประกาศเป็นเขตประสบภัยแล้ว จะรีบจัดเงินชดเชยเป็นรายหลังคาเรือน เมื่อเข้าไปบริหารอย่างเต็มตัว โดยจะจัดสรรเงินช่วยเหลือให้อย่างมีเหตุผลที่สุด ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมีวินัยการเงินการคลัง

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการคนละครึ่ง 60:40 มาให้ประชาชนด้วย เป็นนโยบายที่ได้มอบหมายให้ รมว.คลัง ดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 เดือน หลังจากที่ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 24 ก.ย.จากนั้นจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ พวกเราจะเร่งดำเนินการ เพราะเราไม่มีเวลา เข้าไปปุ๊บก็ทำงาน ขับเคลื่อนทุกอย่างได้เลย รวมถึงจะเอาเรื่องฟอกไตฟรีกลับมา เราต้องมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง

หลังถวายสัตย์ฯ-นัดครม.ถกแบ่งงาน

เวลา11.20น.ที่จ.อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ว่าหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่24ก.ย.ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเพราะเป็นวันมหามงคลด้วยคือเป็นวันมหิดลด้วย พวกเราก็รู้สึกดีใจหลังจากเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ตนได้นัดครม.ไว้เบื้องต้นจะกลับมาก็จะมีการประชุมครม.นัดแรก ไม่ใช่นัดพิเศษหรืออะไร เป็นการประชุมนัดแรกเลย เพราะว่าเราจะได้แบ่งงานว่า รองนายกรัฐมนตรีท่านไหนรับผิดชอบอะไร จะมีการเสนอแต่งตั้ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้เป็นผู้ประสานงาน และทำงานได้ทันที และหลังจากนั้น จะได้มีการนัดประธานรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของครม.ต่อรัฐสภา ซึ่งเราตั้งใจให้เร็วที่สุด ก็ขึ้นอยู่กับความกรุณาของท่านประธานที่จะนัดสมาชิกทั้ง 2 สภา

สอบเข้มคุณสมบัติรมต.ไร้ปัญหา

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านพุ่งเป้าที่จะอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีมากกว่าการอภิปรายเรื่องของนโยบายรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ก่อนที่เราจะนำรายชื่อครม.เสนอ เราต้องตรวจสอบแล้ว และการตรวจสอบก็เป็นการตรวจสอบโดยหน่วยงาน ไม่ใช่ตรวจสอบเอง มีหน่วยงานทุกหน่วยงานที่ตรวจสอบตามขั้นตอนที่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ดำเนินการมาโดยตลอดและมีการเรียกประชุมหน่วยงานทั้ง 7 หน่วยงาน รวมไปถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและมาไล่ดูกัน ก็ไม่มีคนไหนที่มีปัญหา ถ้ามีปัญหาคุณสมบัติ ก็ต้องถูกคัดชื่อออกไปซึ่งก็มีคนที่ถูกคัดชื่อออกไป

ยันยึดMOAไม่มีวันที่121แน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่า 4 เดือนจะยุบสภาแน่นอน ตั้งเป้าที่จะกลับมาในการเลือกตั้งข้างหน้ามีความมั่นใจแค่ไหน นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่อยากให้ไปพูด หรือให้นักวิเคราะห์ทั้งหลายไปพูดว่า เดี๋ยว 4 เดือน ก็จะหาเรื่องหาเหตุจะไม่ยุบสภา ซึ่งเรื่องนี้เป็นข้อตกลงที่ลงนาม ใช้คำว่า MOA ก็ไม่ได้ มันคือข้อตกลง ไม่ใช่บันทึกข้อตกลง แต่นี่มันคือข้อตกลงเหมือนกับสัญญาที่มีอยู่ 5 ข้อ และเราก็ต้องปฏิบัติ และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย รวมถึงเรื่องการไม่สร้างเสียงข้างมากด้วย

“ผมจะไปกินข้าวกับใครเรื่องของผม แต่ผมไม่ได้ไปสร้างเสียงข้างมาก อย่าไปวิเคราะห์อะไรแล้วทำให้เกิดความกังวลหรือไม่สบายใจของคนที่มาร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงของเรา ทุกข้อทุกประเด็นจะได้รับการปฏิบัติ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจประธานคณะก้าวหน้า พูดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.แล้วว่า ไม่มีวันที่ 121 ซึ่งนายอนุทินก็ยืนยันว่าไม่มีวันที่ 121“นายอนุทิน กล่าว

อย่าเพิ่งมองข้ามช็อตหลัง4เดือน

เมื่อถามว่าการเดินสายพบกับนักการเมืองต่างๆเพื่อสร้างสัมพันธ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าทุกพรรค ก็ต้องไปเลือกตั้ง ส่วนภาคการเมืองก็จะต้องไปดำเนินการทางการเมือง เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง ถ้าเราบอกว่าอีก4เดือนยุบสภา เราก็ต้องเตรียมตัวเลือกตั้ง ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยทำมา 2 เดือนแล้ว

เมื่อถามว่าขณะนี้คนมองข้ามช็อตไม่ใช่แค่4เดือนแล้ว แต่มองไปถึงว่า นายอนุทินมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ๆอย่าเพิ่งไปคิดตรงนั้น เราทำทุกวันให้ดีที่สุด เรื่องการเลือกตั้งก็เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง อยู่ที่นโยบาย ตอนนี้ก็หนักขึ้นมาหน่อยว่าวันนี้พรรคภูมิใจไทยกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล และหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ก็มีโจทย์หนักขึ้นมา ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดด้วย ไม่อย่างนั้นประชาชนก็อาจจะไม่เลือก ถ้าเขาไม่พอใจ ก็ต้องทำทุกอย่างให้ประชาชนพอใจ

เมื่อถามว่ามีการมองกันว่าพรรคภูมิใจไทยขยายใหญ่ขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่าอย่าเพิ่งไปพูดอะไร อย่าเพิ่งไปทำนายอนาคต คนที่จะกำหนดได้คือ ตัวพวกตนนี่แหละ ก็คือต้องขยาย อย่างที่บอกว่าก็ต้องทำงานแบบไม่มีวันหยุดซึ่งก็ไม่มีวันหยุดจริงๆเมื่อถามย้ำว่ามีการจับตาว่าพรรคภูมิใจไทยจะใหญ่ขึ้น นายอนุทิน พยักหน้าและยิ้ม ก่อนกล่าวว่า“เขาให้พูดแค่นี้”

เร่งเครื่องลุยบริหารจัดการน้ำ

เวลา 11.21น.ที่ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาหน์เฉลิมพระเกียรติ หมู่ 9 ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.อ่างทองว่าการลงพื้นที่วันนี้มาในฐานะสส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน เมื่อทราบว่ามีเหตุน้ำท่วมในจังหวัดภาคกลางจึงมาดู เพราะก่อนที่จะพ้นตำแหน่งรมว.มหาดไทย เมื่อ2 เดือนที่ผ่านมา ได้เตรียมการเรื่องการป้องกันและการบริหารจัดการน้ำครบวงจร โดยบูรณาการกับหลายหน่วยงานเอาไว้ แต่ถูกทำให้พ้นตำแหน่งไปก่อนจึงขาดช่วงไป

วันนี้มาเร่งรัดและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสิ่งที่ตนได้เตรียมไว้มาปฎิบัติอีกครั้งโดยย้ำเรื่องการช่วยเหลือประชาชนทันที รวมถึงการเยียวยาประชาชนที่เสียสละยอมให้ใช้ที่ดินเป็นที่รับน้ำ และเรื่องงบประมาณสำหรับซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่พักไว้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนอธิบดี หรือผู้บริหารที่รับผิดชอบในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องเอากลับมาดำเนินการให้เห็นผลในทันที

‘นายกฯหนู’โชว์ลวกก๋วยเตี๋ยว

เวลา12.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้เดินทางกลับมา ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อ่างทองเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ภายหลังจากลงเรือตรวจสถานการณ์น้ำ ที่ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยนายอนุทิน ได้เดินตรงมายังซุ้มก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ พร้อมกับโชว์ฝีมือลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และลูกชิ้นเอง ซึ่งนายอนุทิน ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำแห้ง ก่อนบอกแม่ค้าว่า“ขอกากหมูเพิ่ม”พร้อมกล่าวเชิญชวนผู้สื่อข่าวว่า”กินด้วยกันไหม”

จากนั้นนายกฯ และภริยา เดินทางไปไหว้พระวัดหน้าพระเมรุราชิการาม (พระอารามหลวง) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

สมศักดิ์เชื่อมืออนุทิน

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทสกุล บิดานายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางทางการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคภูมิใจไทย จะสามารถขยายพื้นที่ภาคกลางได้หรือไม่ว่า เชื่อมั่นหัวหน้าพรรค ยิ่งตอนนี้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีโอกาสที่จะทำผลงานได้มาก และท่านไม่ได้มองว่า 4 เดือนหรือ 4 ปี ตามที่ได้สัมผัสกับนายกฯ จะเห็นว่าทุกครั้งที่มีตำแหน่งหน้าที่ ทุกวินาที ท่านทุ่มเททำงานให้กับแผ่นดินมาโดยตลอด จึงเชื่อมั่นระยะเวลาจะสั้นหรือนาน ช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ น่าจะมีผลงานที่แก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ออกมาครั้งแรก เห็นว่าโดนใจชาวบ้าน และยังมีนโยบายที่ออกตามมาอีก เช่น การลดค่าใช้จ่ายพลังงาน ที่เป็นนโยบายที่พรรคใช้หาเสียง เชื่อมั่นว่าการมาดำรงตำแหน่ง การแถลงนโยบายจะมีนโยบายที่พรรคเคยเสนอไว้เมื่อตอนหาเสียงเลือกตั้งและตรงกับความต้องการ เพราะคนในพื้นที่ก็ถามหาเรื่องโซลาร์รูฟ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เชื่อว่าถ้าได้ทำจะเห็นผลงานแน่นอนและจะส่งผลถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้น

‘พท.’จัด4ขุนพลชำแหละนโยบาย

ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า เบื้องต้นเราทราบคร่าวๆ แต่ยังไม่เป็นทางการว่าจะมีการอภิปรายในวันที่ 29-30 ก.ย. นี้ โดยทางพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมไปแล้วเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ถึงการเตรียมความพร้อม ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายคณะทำงานเพื่อเตรียมการอภิปรายคำแถลงนโยบายของรัฐบาลโดยบุคคลที่รับมอบหมายมี นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และตน เป็นคณะทำงานหลัก จากนี้จะแสวงหาบุคคลมาร่วมทำงานเพื่อเตรียมการอภิปราย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่าในการอภิปราย 2 วันนั้น เราไม่ได้ใช้เนื้อหาในการแบ่งผู้อภิปราย แต่เราคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภา เพราะการแถลงนโยบายต้องแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งโดยหลักแล้วมี 3 กลุ่มใหญ่คือ 1.สว. 2.สส. และ 3. สส.ที่สนับสนุนและไม่เห็นด้วย ดังนั้น ระยะเวลาที่อภิปรายต้องเฉลี่ยให้แต่ละฝ่ายที่เหมาะสม จึงต้องใช้การอภิปรายอย่างน้อย 2 วัน

พุ่งเป้า‘คุณสมบัติ’คนเป็นรมต.

นพ.ชลน่าน ระบุอีกว่าที่ประชุมยังได้มอบหมายประเด็นที่ควรจะอภิปรายไปให้พิจารณา โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.ตัวนโยบายที่จะแถลง โดยคณะทำงานต้องไปศึกษาว่าในคำแถลงเป็นอย่างไร แต่เราก็คาดการณ์และเตรียมเป็นข้อสอบเอาไว้ ซึ่งจะเป็นประเด็นในการบริหารในราชการ 4 เดือน และ 2.ตัวบุคคลที่มาเป็นรัฐมนตรี เกี่ยวกับคุณสมบัติความรู้ความสามารถที่จะบริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อถามว่าโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีที่ออกมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้างเพราะบางคนจะมีเรื่องคุณสมบัติในการอภิปรายพรรคเพื่อไทยมีหลักฐานอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่าเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มของการอภิปรายตัวบุคคล เกี่ยวกับคุณสมบัติที่ใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่สมาชิก หรือทีมงานต้องเตรียมเรื่องนี้เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ

“เท้ง”พร้อมเป็นนายกฯ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยอาจจะดึงนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของนางสาว พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นบุตรเขยคนสำคัญของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้สังคมนำไปจับคู่เปรียบเทียบคุณสมบัติกับตนเองว่า เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย จะคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯของเขาเองว่า ว่าจะส่งใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต

“ตัวผมเองเชื่อมั่นว่ามีความพร้อมในประสบการณ์ที่ทำงานการเมือง มากว่า 6 ปี รู้ในเรื่องระบบงบประมาณ รู้ในเรื่องกลไกของระบบราชการ ก็จะเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของคนที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งในนายกรัฐมนตรีในอนาคต”นายณัฐพงษ์ กล่าว

นาย ณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้มีอะไร มากไปกว่าให้กำลังใจ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ สิ่งที่ดีที่สุดของประชาชนคนไทยคือมีแคนดิเดตนายกฯ ที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมจะเข้ามาบริหารประเทศ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับทุกๆคน ประชาชนก็จะได้เลือกสิ่งดีๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า