‘เพื่อไทย’รำลึกรัฐประหาร49 ฉีกรัฐธรรมนูญ ปิดกั้นโอกาสพัฒนาประเทศ หวังไม่เกิดขึ้นกับประเทศอีก ยันดันร่างแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15 เรียบร้อยแล้ว รอเสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ แนะ‘ปชน.’จี้‘ภท.’ เร่งรัดแก้รธน. บอกหากยืดเยื้ออาจไม่ทันกรอบ MOA หวัง
21 กันยายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรค พท. แถลงถึงกรณีรำลึกครบรอบ 19 ปีรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า การกระทำรัฐประหารปี 2549 ที่อาศัยข้ออ้างการแก้ปัญหาระบอบทักษิณ ทำลายล้างพรรคไทยรักไทย ทำลายความต่อเนื่องทางการเมือง เป็นการบั่นทอนโอกาสการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย โอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างมหาศาล
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งด้วยเสียงของประชาชน 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันถูกทำลายลง ไปกับการฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่เคารพเสียงประชาชน แล้วเขียนกติกาใหม่ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองแบบวนลูป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พรรค พท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกกับสังคมไทย และโอกาสนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถปลดล็อกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นให้ได้ในที่สุด
นายชนินทร์ ยังกล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในหมวด 15 ว่าด้วยการจัดให้มีกลไกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางพรรค พท. และพรรคประชาชน (ปชน.) ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ โดยทั้งพรรค พท. และพรรคปชน. ได้เสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 15 เพื่อเปิดช่องทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทั้งสองพรรคมีความคิดเห็นร่วมกันว่าจะต้องเพิ่มเติมแนวทางเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และในส่วนของพรรค พท.เองก็ได้มีการจัดเตรียมร่างดังกล่าวไว้แล้ว พร้อมที่จะเข้าชื่อเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภาต่อไป
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ที่ยังไม่ชัดเจนคือ การเสนอแนวทางของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งยังไม่ได้มีการส่งตัวแทนหรือข้อเสนอของพรรคเข้ามาเพื่อพิจารณา แม้ทางนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ได้ชี้แจงแทนว่า นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคภท. ติดภารกิจ ไม่สามารถร่วมประชุมได้นั้น
นายชนินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรค พท.จึงขอเรียกร้องไปยังพรรค ภท. ตลอดจนทั้งพรรคปชน. ด้วยอีกทางว่าควรเร่งรัดให้พรรคแกนนำรัฐบาลกระตือรือร้นออกแบบแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยเร็ว เพราะถ้ายืดเยื้อออกไปอีกอาจจะไม่ทันกรอบระยะเวลา 4 เดือน ตาม MOA ที่ทั้ง 2 พรรครับปากกับพี่น้องประชาชนไว้
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งเงื่อนไขสำคัญของการผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญคือจะต้องได้เสียง สว. 1 ใน 3 มาร่วมเห็นชอบด้วยก็หวังว่าพรรคปชน. ในฐานะผู้ร่วมรับรองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จะสามารถเจรจากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้กำกับ สว. ที่พรรค ปชน.เรียกว่าเป็น สว.สีน้ำเงิน ให้แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการเปิดทางให้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี