‘ภราดร’เผยร่าง‘แก้รธน.’ฉบับภูมิใจไทย เสร็จแล้ว ปรับแก้‘ที่มา สสร.’ ยึดต้นแบบปี40

‘ภราดร’เผยร่าง‘แก้รธน.’ฉบับภูมิใจไทย เสร็จแล้ว ปรับแก้‘ที่มา สสร.’ ยึดต้นแบบปี40

วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.54 น.

‘ภราดร’เผยร่าง‘แก้รธน.’ฉบับภูมิใจไทย เสร็จแล้ว เตรียมยื่น‘ประธานสภาฯ’เพื่อบรรจุวาระ 24 ก.ย.นี้ รับมีปรับแก้ให้สอดคล้องคำวินิจฉัย‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ปม‘ที่มา สสร.’ วางกรอบรับสมัครจังหวัดละ 1 คนรวม 77ราย และอีก 22คน เป็น‘นักวิชาการ-ผู้เชี่ยวชาญ’ ยึดโมเดลแก้ รธน.ปี39 ต้นแบบของ สสร.ปี40

22 ก.ย.2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทยว่า ตนได้รับมอบหมายจากพรรค โดยมี นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งขณะนี้ร่างแก้ไขธรรมนูญ มาตรา 256 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยทางพรรคกำลังให้ สส.ร่วมลงชื่อเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีเสียง 1 ใน 5 โดยพรรคเรามี 69 เสียง และได้มีการหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นแล้วด้วยโดยจะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุวาระในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ส่วนกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ในรายละเอียดของร่างพรรคภูมิใจไทย ก็มีการปรับเปลี่ยนจากแนวทางเดิมที่คิดไว้พอสมควร หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมา เราก็พยามจะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาล เช่น ที่มาของสสร. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ประชาชนเลือกสภาร่างโดยตรง เลยต้องให้รัฐสภาเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ และต้องเขียนให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัย โดยในส่วนของเราจะให้ผู้ที่ประสงค์จะเป็น สสร. แต่ละจังหวัดสมัครเข้ามา โดยให้ กกต. เป็นผู้รับสมัคร


นายภราดร กล่าวต่อว่า จากนั้นให้รัฐสภาเลือกเหลือจังหวัดละหนึ่งคน  จากทั้งหมด 77 จังหวัด ก็จะมี 77 คน อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นกลุ่มนักวิชาการ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และเชี่ยวชาญ 22 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน โดยให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสมัครเข้ามา และให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่เราใช้ในแนวทางเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2539 เป็นที่มาของ สสร.ในปี 40 และถือเป็นต้นแบบ

เมื่อถามถึงข้อสะท้อนจากพรรคประชาชน ที่อยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปคุยกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายภราดร กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกฝ่ายควรช่วยกัน เมื่อพรรคการเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ได้ตกลงร่วมกัน และมีเจตนาร่วมกันว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้ว การจะแก้จะต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของสมาชิกผู้แทนราษฎร ที่เห็นตรงกันจะต้องช่วยกันโน้มน้าว และพูดคุยกับ สว. ถึงความจำเป็น และเนื้อหาสาระ เพื่อให้เขามีความมั่นใจ และสบายใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายอนุทิน ก็เป็น สส. แต่ไม่ใช่แค่นายอนุทิน หรือไม่ใช่ว่าจะแค่พรรคไหน และ สส.คนใดของพรรค ก็จะต้องช่วยกันเจรจาพูดคุยเพื่อให้เดินไปสู่ปลายทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้สำเร็จ

-005

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top