‘เพื่อไทย’บนทาง 2 แพร่ง ‘ฝ่ายค้านผู้ใหญ่’หรือถูกตราหน้าเป็น‘ฝ่ายแค้น’ที่หลงวนในอดีต
24 กันยายน 2568 รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต” ระบุว่า...
การเมืองนั้นไม่แน่นอน ยามรุ่งโรจน์ก็สูงเด่นเสมือนภูเขา แต่ยามตกต่ำก็พร่ามัวราวหมอกในหุบเหว
เรื่องราวของพรรคเพื่อไทยเมื่อกลายเป็นฝ่ายค้านนั้น ช่างน่าครุ่นคิดยิ่งนัก
แรกเริ่มเมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน หากแต่จะเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ”
มองแล้วก็ถอนหายใจ อิสระนั้นงดงามก็จริง แต่หากไม่รู้ทิศทาง อิสระก็กลายเป็นการลอยเคว้งกลางน้ำ นี่มิใช่สัญญาณแห่งความมั่นคง
หากแต่เป็นเงาของความสับสนในอัตลักษณ์ที่ยังไม่อาจยอมรับความจริงว่า จากพรรครัฐบาลต้องผันมาเป็นฝ่ายค้าน
สิ่งที่น่าประหลาดกว่านั้นคือ การเลือกโจมตีเหน็บแนมพรรคประชาชนซึ่งก็เป็นฝ่ายค้านเหมือนกัน แทนที่จะตรวจสอบพรรคภูมิใจไทยซึ่งกำลังเป็นรัฐบาลอยู่
เห็นแล้วก็ได้แต่คิดว่า พรรคเพื่อไทยหาได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ แต่กลับแสดงท่าทีคล้าย “ฝ่ายแค้น” ที่ถูกอดีตบาดลึกในใจ
ความแค้นนั้นอาจเผ็ดร้อน แต่ไฟแห่งความแค้นไม่เคยสร้างสะพาน มีแต่เผาสะพานทิ้ง
การเมืองนั้นมิใช่เพียงการเอาชนะด้วยถ้อยคำ หากแต่เป็นศิลปะของการยับยั้งชั่งใจและความเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง
พรรคที่ใหญ่และเก่าพอประมาณ ย่อมถูกสังคมคาดหวังให้แสดงความเป็น “ผู้ใหญ่” ในรัฐสภา
แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นการใช้ถ้อยคำเสียดสี คล้ายเด็กน้อยงอนง้อที่ไม่ได้ของเล่นตามใจ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยจึงถูกตั้งคำถามว่า ยังพอมีความน่าเชื่อถือให้ประชาชนฝากความหวังอยู่หรือไม่
ความผิดหวังทางการเมืองนั้นเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงมิได้ แต่สิ่งสำคัญคือจะยืนขึ้นอย่างไร พรรคเพื่อไทยมีสองเส้นทางให้เลือก
เส้นทางแรก คือการยอมจำนนต่อไฟแค้น ดำเนินไปอย่างสับสนไร้ทิศทาง
เส้นทางที่สอง คือการกลับมาตั้งหลักใหม่ ยืนหยัดเป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบรัฐบาลด้วยข้อมูลและเหตุผล มิใช่อารมณ์และการเสียดสี
ผมเฝ้าดูการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย เห็นพรรคการเมืองล้มหายตายจากไปไม่น้อย
สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ ประชาชนจะจดจำว่า พรรคการเมืองหนึ่งทำหน้าที่อย่างไรในยามวิกฤต
พรรคเพื่อไทยจักถูกจดจำว่าเป็น “ฝ่ายค้านผู้ใหญ่” ที่พอจะทำประโยชน์แก่บ้านเมืองบ้าง
หรือจะถูกตราหน้าว่าเป็น “ฝ่ายแค้น” ที่หลงวนในอดีต ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในช่วงนี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี