เปิดสาระร่างแก้ รธน.ฉบับ‘ภท.’ห้ามแตะหมวด 1-2 ลดเกณฑ์เสียงสว.-ให้สิทธิรัฐสภาเลือก‘สสร.’

เปิดสาระร่างแก้ รธน.ฉบับ‘ภท.’ห้ามแตะหมวด 1-2 ลดเกณฑ์เสียงสว.-ให้สิทธิรัฐสภาเลือก‘สสร.’

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.58 น.

เปิดสาระแก้รธน.ม.256‘พรรคภูมิใจไทย’ ผ่อนเสียง‘สว.’เห็นชอบแค่ 50 เสียง ให้สิทธิ‘รัฐสภา’เลือก‘สสร.’100% ขีดเส้นทำ รธน.ใหม่ภายใน 360 วัน ตีกรอบห้ามแก้ระบอบการปกครอง-หมวด1-หมวด2 พบมอบอำนาจ‘รัฐสภา’เป็นตะแกรงกรอง รธน.ใหม่ ก่อนทำประชามติ

24 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา  ต่อประเด็นการยื่นญัตติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมด้วยพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคกล้าธรรม พรรคประชาชน ร่วมลงชื่อสนับสนุนญัตติ และยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภา เมื่อ 24 ก.ย.แล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ภท.’ชงยื่น‘แก้ รธน.’เปิดทางมี‘สสร.’ผ่าน‘ตัวแทนจังหวัด-ผู้เชี่ยวชาญ’ ยัน‘พูดแล้วทำ’เดินตามMOA)


สาระสำคัญของร่างแก้ไขดังกล่าว กำหนดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ซึ่งได้ปรับสัดส่วนของจำนวนเสียง สว. จะร่วมลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรก และ วาระสาม จากเดิมที่กำหนดให้ต้องเห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 จากจำนวน สว.ที่มีอยู่ของวุฒิสภา ไปเป็น ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสว.ที่มีอยู่ หากเทียบเกณฑ์สว.ที่มีปัจจุบัน 200 คน เท่ากับว่า เสียงของสว.ที่จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะใช้น้อยลง จาก 67 เสียง เหลือเพียง 50 เสียงเท่านั้น

นอกจากนั้นได้เพิ่มหมวดใหม่  15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)  ที่กำหนดให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกผู้สมัคร ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ลงสมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน  และ 2.กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ 22 คน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน 7 คน ผู้เชี่ยวชาญสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 7 คน และ ผู้มีประสบการณ์ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดินหรือการร่างรัฐธรรมนูญ ตามเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด 8 คน

ขณะที่คุณสมบัติของผู้รับเลือกเป็น สสร. จากจังหวัด  กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี มีการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี เกิดในจังหวัดที่สมัคร มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครไม่น้อยกว่า 1 ปี เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งในจังหวัดที่จะสมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีการศึกษา เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดที่สมัคร ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี

ส่วนลักษณะต้องห้ามของผู้จะลงสมัครเป็น สสร. พบว่าได้อิงคุณสมบัติของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ห้าม สส. สว. หรือข้าราชการการเมืองลงสมัคร ห้ามคนที่ถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งชั่วคราว หรือ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งลงสมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลฉบับดังกล่าว กำหนดให้ต้องมีการเลือก สสร. ภายใน 90 วันนับแต่มีเหตุให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำหน้าที่รับสมัครบุคคลที่มีคุณสมบัติ โดยไม่จำกัดจำนวน จากนั้นให้ส่งให้ประธานรัฐสภา นัดประชุมเพื่อโหวตเลือกภายใน 20 วันนับจากที่ได้รับรายชื่อครบถ้วน ส่วนเกณฑ์การโหวตของสมาชิกรัฐสภานั้นกำหนดให้เลือกผู้สมัครจากจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 1 คน โดยให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดได้รับเลือก นอกจากนั้นกำหนดให้ทำบัญชีสำรองจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเรียงกัน 3 คน

ขณะที่การเลือกสสร. ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนั้น ให้สมาชิกรัฐสภาเลือกได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ สำหรับผู้ที่จะได้รับคัดเลือกให้นับเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด จนครบจำนวนที่กำหนดไว้ นอกจากนั้นให้ทำบัญชีสำรองประเภทละ 3 คนไว้ด้วย

สำหรับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในร่างของพรรคร่วมรัฐบาล กำหนดให้สสร. ตั้ง กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ​ จำนวน 45 คน โดยมาจากการเลือกกันเองของ สสร. จำนวน 30 คน และอีก 15 คนมาจากการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ได้เป็น สสร. แต่ต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่

สำหรับเงื่อนไขของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย สสร. กำหนดให้ ต้องทำให้เสร็จภายใน 360 วัน นอกจากนั้นแล้วยังได้กำหนดเงื่อนไขสำหรับเนื้อหาของการร่างรัฐธรรมนูญ  ห้ามเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ของรัฐธรรมนูญ 2560

เมื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้นำเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งออกแบบการพิจารณาของรัฐสภา เป็น 3วาระ ซึ่งนำเงื่อนไขของการรับหลักการและเห็นชอบในมาตรา 256 ที่ต้องได้เสียงสนับสนุนจาก สว.​ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 และ สส.ฝ่ายค้าน 20%มาบัญญัติไว้ด้วย

เมื่อรัฐสภาเห็นชอบต้องนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปทำประชามติภายใน 7 วัน ทั้งนี้ได้กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจตีตกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากพบเนื้อหาที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองหรือแก้ไขหมวด1 หมวด 2 สำหรับกรณีร่างรัฐธรรมนูญที่ตกไป กำหนดให้อำนาจ ครม. หรือ สส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3  ของสภาฯ หรือ สว. และสว. ไม่น้อยกว่า1 ใน3 ของสองสภา เสนอญัตติต่อรัฐสภาให้มีมติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อีก 1 ครั้ง

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top