ประกาศเลิกคุยเขมร ผู้ว่าฯสระแก้วลั่นหลัง10ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำ ทหารพร้อมรับทุกสถานการณ์

ประกาศเลิกคุยเขมร ผู้ว่าฯสระแก้วลั่นหลัง10ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำ ทหารพร้อมรับทุกสถานการณ์

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ประกาศเลิกคุยเขมร
ผู้ว่าฯสระแก้วลั่นหลัง10ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำ
ทหารพร้อมรับทุกสถานการณ์
พื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน

ผบ.กกล.บูรพา ตรวจความพร้อม กำลังพล 3 ฝ่าย พร้อมรับทุกสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองจาน ด้าน“ผู้ว่าฯสระแก้ว” ลั่นเลิกคุยเขมร หากไม่ส่งแผนอพยพ ย้ำประกาศ หลัง 10 ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำเข้มงวด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โฆษก ทบ.แจงปมเลื่อนถกRBCอยู่ระหว่างรับ-มอบตำแหน่ง-ชายแดนสระแก้วยังวุ่น-เขมรไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ถึงเวลาแล้วต้องยกระดับให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผบ.ทบ.กำชับดูแลกำลังพล ยืนระยะยาว ป้องอธิปไตย อย่าให้คนไทยผิดหวัง ด้าน‘พล.อ.รังษี’ชี้‘ฮุนเซน’ผวาซ้ำรอยเนปาล เชื่อปิดด่าน 3 เดือน เขมรวุ่นแน่

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พลตรี เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พร้อมด้วย นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและ พลตำรวจตรี ถาวร ดุลยวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำคณะลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการชายแดน และให้กำลังใจกำลังพล 3ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ อส.


ตรวจความพร้อมกำลังพล3ฝ่าย

โดยผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมพูดคุยกันเพื่อหารือแนวทางในการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการป้องกันชายแดน และการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังบ้านหนองจาน เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานร่วมกัน ณ จุดตรวจ ส.40 และติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างถนนเพื่อความมั่นคง รวมถึงการสร้างบังเกอร์กันจอมพลังที่เสริมระบบป้องกันภัย เพิ่มขีดความสามารถในการดูแลพื้นที่ชายแดนอย่างมั่นคงแข็งแรง

พร้อมรับทุกสถานการณ์ชายแดน

พลตรีเบญจพล กล่าวว่า การลงพื้นที่บ้านหนองจาน ติดตามการเทลูกรังกว่า 800–900 ตัน ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งจะนำมาสร้างถนนเชื่อมชุมชนในพื้นที่แนวชายแดน ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่เข้ามาสร้างถนน และถือโอกาสตรวจเยี่ยมกำลังพลสามฝ่าย ที่จัดเตรียมไว้รองรับสถานการณ์หากเกิดขึ้น ซึ่งเราตอบไม่ได้ว่าจะรุนแรงเมื่อใด แต่ยืนยันว่าเรามีความพร้อมทั้งด้านกฎหมายและการปฏิบัติ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น

ขณะนี้เป็นช่วงคุมเชิงสถานการณ์ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าว เพราะฝ่ายตรงข้ามเฝ้าติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่ากองกำลังไทยมีแผนเผชิญเหตุรองรับทุกสถานการณ์ หากเกิดความรุนแรงก็พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

‘ผวจ.สระแก้ว’ลั่นเลิกคุยเขมร

ด้าน ผู้ว่าฯสระแก้ว กล่าวเสริมว่า หลังวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ต้องติดตามท่าทีจากที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) โดยยืนยันว่าจังหวัดเฝ้าระวังพื้นที่เข้มงวด และจะใช้กฎหมายจัดการกับการลักลอบเข้าเมืองเป็นอันดับแรก สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC )ที่จะถึง ต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายทหาร เพราะแม่ทัพทั้งสองประเทศ จะเป็นผู้กำหนด ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเป็นของกัมพูชา ยืนยันว่าต้องยึดสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก

“ที่ผ่านมา จังหวัดสระแก้วประกาศชัดเจนแล้วว่าหากฝ่ายกัมพูชาไม่ส่งแผนอพยพ ก็จะไม่มีการพูดคุยกันในระดับจังหวัด ต้องไปหารือกันที่ GBCเท่านั้น ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ฝั่งไทยยังไม่มีการก่อสร้างบ่อนกาสิโนใดๆ”นายปริญญา ย้ำ

หลัง10ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำเข้มงวด

ผู้ว่าฯสระแก้ว ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการผลักดันผู้ที่รุกล้ำ ต้องดำเนินการ หลังวันที่ 10 ตุลาคม ตามกระบวนการ ไม่ใช่ใช้วิธีรุนแรง เพราะไทยอาจเสียเปรียบในเวทีโลก และขณะนี้ได้ยกระดับเรื่องขึ้นสู่รัฐบาลแล้ว ย้ำว่า ฝ่ายไทยมีความพร้อมทั้งกำลังพลและกฎหมาย โดยเฉพาะการจัดการกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วนการเปิด–ปิดด่าน เป็นอำนาจที่ต้องให้นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศหารือกัน

โฆษก ทบ.แจงปมเลื่อนถกRBC

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกองทัพบก กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา(RBC) กองทัพภาคที่1ว่า มีปัจจัยการเลื่อนอยู่2ประเด็น การปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่งภายในกองทัพบกโดยเฉพาะระดับแม่ทัพภาค ต้องมีการรับส่งหน้าที่ซึ่งจะมีผลภายใน1ต.ค อีกทั้งสถานการณ์ในพื้นที่ยังปฏิบัติไม่ได้ตามกรอบที่ตกลงกันไว้ เช่นบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังมีความขัดแย้งเรื่องมวลชนกัมพูชา ยังไม่มีความเรียบร้อย ส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนเรื่องการกำหนดหัวข้อ การพูดคุย อีกทั้งการให้ข่าวสารที่ออกมาทางฝ่ายกัมพูชายังมีการบิดเบือน ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการเจรจาไม่ราบรื่น

ฝ่ายเขมรแจงยิงปืนเล็กเป็นปืนลั่น

สถานการณ์ในภาพรวมของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังทหารกัมพูชายิงปืนเล็ก ช่องภูผี จังหวัดศรีสะเกษ นั้น เป็นการใช้อาวุธขนาดเล็ก ยังไม่มีท่าทีจะคุกคามด้วยอาวุธอย่างจริงจัง ซึ่งฝ่ายกัมพูชา ชี้แจงว่าเป็นปืนลั่น ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งหมด แต่ในด้านทางยุทธวิธี อาจจะมองได้ว่าเป็นการตรวจเช็ค ความพร้อม การวางกำลังฝ่ายไทยก็เป็นได้ ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นการยั่วยุ และยังมีการเพิ่มเติมกำลังเข้าพื้นที่

ต้องเตรียมพร้อมรับเขมรป่วน

พลตรีวินธัย ยังระบุว่า การปกป้องภารกิจชายแดนเป็นหน้าที่กองทัพบกอยู่แล้ว นำไปสู่แนวทางสันติ กระทบต่อภาพลักษณ์ในเวทีนานาชาติ โดยรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

ส่วนกรณีที่นำกำลังหน่วยอรินทราช ของตำรวจไปประจำการ พื้นที่ชายแดนนั้น ยังไม่ทราบข้อมูล แต่อาจจะเป็นการเตรียมพร้อม เนื่องจากว่ากัมพูชาก็ยังเดินเกมด้วยการใช้มวลชนเพื่อต้องการภาพนำไปสื่อสารในสังคมต่างประเทศ เชื่อว่าในระดับสากลน่าจะรู้ทันกันอยู่ การใช้มวลชวนเป็นโล่มนุษย์ ยังอยู่ที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้วยังไม่ขยายไปพื้นที่อื่น

ผบ.ทบ.กำชับกำลังพลยืนระยะยาว

ขณะที่ ผบ.ทบ.กำชับให้เตรียมความพร้อมไว้เสมอและดูแลกำลังพลให้ดี อาจต้องยืนระยะยาว ก็ต้องอยู่ให้ได้ เพื่อรองรับทุกสถานการณ์ ไม่ให้ประชาชนผิดหวัง เพราะวันนี้ไม่มีหลักประกันอะไรที่ชัดเจนอยู่แล้ว สถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องพิจารณา เหตุการณ์ในระดับพื้นที่ ระดับบุคคล ตามที่แม่ทัพภาคที่2 ระบุหากมีการรุกล้ำก็ให้ใช้อาวุธได้ทันที

ถึงเวลาต้องยกระดับความเข้มข้น

พลตรีวินธัยยังย้ำว่าการกำหนดไทม์ไลน์การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ให้ยุติโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ เรื่องเศรษฐกิจของประเทศไปกว่านี้ ขึ้นอยู่กับกรอบการเจรจาทวิภาคี ที่ผ่านมากองทัพบกก็ดำเนินการ ตามกรอบการเจรจามาโดยตลอด แต่ก็ลำบากใจเช่นกัน เพราะกัมพูชาไม่ได้ให้ความร่วมมือ เท่าที่ควร นับว่าถึงเวลาแล้วต้องดำเนินการ ยกระดับให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผู้บังคับได้ในบาง เรื่อง ส่วนที่มองว่าเป็นการพายเรืออยู่ในอ่างนั้นคงไม่ใช่ เพราะฝ่ายไทยมีความคืบหน้า เพียงแต่ฝ่ายกัมพูชา ไม่ใช่ความร่วมมือเท่าที่ควร

แจงเหตุเลื่อนยังไร้ความคืบหน้า

ด้านพลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 1 ระบุถึงสาเหตุที่กองทัพภาคที่1ขอเลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1ระหว่างกองทัพภาคที่1และภูมิภาคทหารที่ 5ของกัมพูชา ช่วงวันที่ 25-27กันยายน 2568 เป็นเดือนตุลาคม2568 ว่าสืบเนื่องจากข้อมูลของสองฝ่าย ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งเรื่องสแกมเมอร์ ทุ่นระเบิด เนื่องจากแต่ละหน่วยงานที่มีการประสานงานกันอยู่น้้น ยังมีการปรับรายละเอียด และมีการเลื่อนกันไปเลื่อนกันมา จึงยังไม่มีข้อมูลความคืบหน้ามานำเสนอมากนัก ดังนั้น จึงเสนอให้เลื่อนการจัดประชุมไปอีกเล็กน้อย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน

ยืนยันว่าการประสานการทำงานของทางตำรวจเรื่องปัญหาเสแกมเมอร์มีการทำแผนที่เดินหน้าอยู่แล้ว แต่ยังต้องรอข้อมูล ว่า มีการปรับเพิ่มหรือไม่ ส่วนเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิดทางศูนย์ทุ่นระเบิดของกัมพูชาก็มีการเลื่อนการประชุม ดังนั้น จึงเห็นว่าหากจะจัดการประชุมRBC ก็ควรจะมีรายละเอียดในระดับพื้นที่ที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาเปล่า แม้ว่าบางเริ่องเช่นปัญหาสแกมเมอร์จะเดินหน้าไปแล้ว แต่ก็ต้องการเห็นข้อมูลที่อัพเดทเพิ่มเติมให้ชัดเจน รวมทั้งในเรื่องการจัดการพื้นที่ชายแดน

โดยยืนยันว่าจะเลื่อนออกไปไม่นาน ส่วนจะกระทบกับไทม์ไลน์การประชุม GBC 10 ตุลาคมหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ แต่การประชุม RBC อาจจะเกิดก่อน 10 ตุลาคมนี้ก็ได้ ซึ่งการเลื่อนประชุมต่างๆ ก็มีเหตุผลบางอย่าง แม้อาจจะมีไทม์ไลน์ไว้ แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องขยับไป

พล.อ.รังษีชี้ฮุนเซนผวาซ้ำรอยเนปาล

ด้าน พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจและอดีตผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม อดีต ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยกับแนวหน้าออนไลน์ว่าสถานการณ์ขณะนี้ทางกัมพูชาไม่มีทางเลือกแล้ว นอกจากสร้างสถานการณ์ให้ไทยต้องเปิดด่าน ไม่เช่นนั้นอาจมีจุดจบแบบเดียวกับศรีลังกาที่เศรษฐกิจไม่ดี ไปต่อไม่ได้และเกิดเหตุการณ์ประชาชนลุกฮือแบบเดียวกับเนปาล ดังนั้น การที่ฮุนเซนบอกว่ากัมพูชาไม่เดือดร้อนจากการปิดด่านของไทยเป็นการโกหกถึง 3 อย่าง คือ โกหกคนทั้งโลก โกหกชาวกัมพูชาทั้งประเทศและโกหกตัวเอง

พล.อ.รังษี กล่าวว่าอย่างที่เคยบอกไปว่ากัมพูชาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 2 ปี ทุนสำรองระหว่างประเทศของกัมพูชาเหลือเพียง แค่ถึงเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ถ้าทุนสำรองหมดไป ก็ไม่มีใครยอมค้าขายด้วย เศรษฐกิจไปต่อไม่ได้ การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ทำให้ชาวกัมพูชาประสบปัญหาอย่างมาก การขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ก็ถูกตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องเข้าไอเอ็มเอฟ ทางออกขณะนี้จึงอยู่ที่การเปิดกาสิโนเพื่อให้เงินเข้าประเทศ จึงต้องพยายามยั่วยุไทย เพื่อนำพาไปสู่เงื่อนไขให้เปิดด่าน

ฮุนเซนไร้ทางออก ทำสงครามอีกรอบ

นอกจากนี้ พล.อ.รังษี ยังกล่าวว่า กรณีที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ทางกัมพูชา ไม่ยอมแน่นอน เพราะมีแผนจะตั้งกาสิโนร่วมกับจีนเทา เหมือนที่สายตะกู และต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยจุดที่น่าห่วงที่สุดหากมีการรบรอบใหม่เกิดขึ้น คือ เรื่องโดรนของกัมพูชา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 พันลำ ถ้าโช้โดนเข้าทิ้งระเบิดจังหวัดชายแดน เพียงจังหวัดละ 500 ลำ เราก็จะรับมือลำบากเหมือนกัน ต้องระวังป้องกันเรื่องนี้ให้ดี เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้ว ฮุนเซน ไม่มีทางออก นอกจากทำสงครามอีกรอบเพื่อบีบให้ทางไทยต้องเปิดด่าน

ติงบทบาท‘อันวาร์’น่าเคลือบแคลง

พล.อ.รังษี ยังกล่าวถึงบทบาทอันน่าเคลือบแคลงของ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ใช้บทบาทประธานอาเซียนเข้ามาแทรกแซง โดยเชื่อว่าสาเหตุที่นายอันวาร์ แสดงท่าทีเข้าข้างกัมพูชา น่าจะเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับ ฮุนเซน เช่น อาจมีการเสนอผลประโยชน์ ให้มาเลเซียเข้ามาลงทุนด้านทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย ซึ่งทราบว่ามีมูลค่ามากกว่าที่ประเมินกันไว้มาก

“นายอันวาร์ตั้งฮุนเซน เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน เช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร ตรงนี้น่าจะบ่งบอกว่ามีการตกลงอะไรบางอย่างกัน” พล.อ.รังษี กล่าว

เชื่อปิดด่าน3เดือน‘เขมร’ป่วนแน่

“ลองไปดูคลิปที่ฮุนเซนคุยโทรศัพท์กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯฮุนเซนพูดถึงการเปิดด่านถึง 3 ครั้ง ชัดเจนว่าเขาต้องการอย่างมากให้เราเปิดด่าน ตรงนี้ถ้าเราปิดด่านแบบซีลแน่นๆ สัก 3 เดือนกัมพูชาจะเกิดปัญหาหนักแน่นอน โดย 1.ประชาชนชาวกัมพูชาจะลุกฮือ จะมีการปราบจากรัฐบาล 2.จะมีการเปิดฉากโจมตีไทย โดยจะเน้นเป้าหมายพลเรือนมากขึ้น เพื่อบีบให้ไทยเจรจาเปิดด่าน ให้จับตาบทบทของนายอันวาร์ ที่จะเข้ามาแทรกแซง”พล.อ.รังษี กล่าว และว่า การปะทะครั้งหน้าทางไทย อาจจะต้องรุกออกนอกประเทศ แต่ไม่ได้หมายถึงไปยึดพนมเปญ หรืออะไรแบบนั้น แต่อาจต้องไปยึดจุดสำคัญ เช่น บ่อน เพื่อบีบให้เขาเจรจา เช่น บอกว่าจะทำลายบ่อนของเขา เป็นต้น

ระวัง!เขมรอาจเปิดศึกรอบใหม่จัดให้จบ

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า รอบสองจะมาแล้ว กลิ่นคาวเลือดกำลังโชยมา ลางสังหรณ์มันบอกว่าอย่างนั้น น้องเหมนน่าจะอยากลองอีกยก คราวที่แล้วยังข้องใจ ของหนักยังไม่ได้ใช้เต็มที่ และยังมีข่าวว่าอิมพอร์ตของหนักมา ฝ่ายนั้นมีการเสริมอาวุธและกำลังประชิด ไม่ใช่ถอยอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามจีบีซี แถมด้วยมวลชนยั่วยุตลอดแนวสระแก้ว ภายในวันสองวันนี้ อย่าเผลอ เอาไงเอากัน จะเปิดศึกรอบใหม่ก็มา คราวนี้ขอจัดให้จบ อย่าสงสาร ทำลายให้สิ้นสภาพอย่าให้มาวอแว จะได้ไม่ต้องมาระแวงกันตลอดเวลา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top