วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568
เปิด‘จุดตาย’รัฐบาลอนุทิน จับตา‘ทางแก้’ สกัดตกเก้าอี้

เปิด‘จุดตาย’รัฐบาลอนุทิน จับตา‘ทางแก้’ สกัดตกเก้าอี้

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.09 น.

เปิด‘จุดตาย’รัฐบาลอนุทิน จับตา‘ทางแก้’ สกัดตกเก้าอี้

25 กันยายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า...


รัฐบาลอนุทิน : จุดตายคืออภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปคือ การแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะต้องพิสูจน์กันว่า การทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทั้ง2พรรค คือพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างอิสระ ต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ ไม่มีการร่วมกันเป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่าย ซึ่งเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมือง เพราะความเป็นฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องมีความเป็นเอกภาพ ในพรรคฝ่ายค้านนั้น ต่างพรรคต่างค้านก็ได้ ไม่เกี่ยวกับเสถียรภาพใดๆ

แต่การอภิปรายนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ถือว่าเป็นการโหมโรง หรือเป็นออเดิร์ฟของการตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน เป็นยกแรกที่ฝ่ายค้านจะชิมลางด้วยการอภิปราย หรือเปิดแผลนโยบายรัฐบาลชุดนี้ เพื่อจะนำไปสู่การเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลในเชิงนโยบายและคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน ซึ่งจะนำไปสู่เมนคอร์ส หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในโอกาสต่อไป

การอภิปรายเรื่องนโยบายเป็นแค่การโหมโรง ถ้าเป็นการแสดงลิเก ก็บอกได้ว่า เป็นแค่ออกแขก ยังไม่ถึงเนื้อเรื่อง ยังไม่ถึงการแสดงจริง การแสดงจริงคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ได้จองกฐินไว้ล่วงหน้าแล้ว และประกาศชัดเจนแล้วว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีชุดนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะรอโอกาสหรือจังหวะใดกันแน่

ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้าหากการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาเสร็จ รัฐบาลยังไม่ได้ทำงานเลย ฝ่ายค้านจะจองกฐินโดยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ดูเหมือนจะใจดำเกินไป เหมือนการไม่ให้โอกาสฝ่ายรัฐบาลมากนัก ถ้าดูระยะเวลาที่เหมาะสม ก็น่าจะปล่อยให้รัฐบาลได้ทำงานไปก่อนสัก2เดือน หรือ2เดือนครึ่ง แล้วค่อยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงตอนนั้นรัฐบาลก็อาจจะมีประเด็น มีแผลให้ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาอภิปรายได้เป็นจำนวนมาก 

และไม่ว่าพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนหรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งสามารถจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยพรรคของตัวเองได้ มีเสียงรับรองญัตติเพียงพอ และไม่ว่าพรรคใดจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านอีกพรรค ก็พร้อมยกมือสนับสนุนแน่นอน ถ้าหากว่ามีการโหวตกันหลังจากการอภิปรายแล้ว รัฐบาลของนายอนุทินก็ไปไม่รอด เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่าเป็นจำนวนมาก

เพราะฉะนั้นเชื่อว่า นายอนุทินคงจะไม่ปล่อยให้มีการอภิปรายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแค่มีการล่ารายชื่อเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ได้ทันยื่นญัตติ นายอนุทินก็ประกาศยุบสภาทันที เพราะถ้าหากว่าปล่อยให้มีการยื่นญัตติและบรรจุในวาระการประชุมแล้ว นายอนุทินก็ไม่สามารถที่จะยุบสภาได้ และเมื่อเปิดอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร แพ้มติฝ่ายค้าน นายอนุทินจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ถูกคว่ำกลางสภา หรือตกเก้าอี้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายอนุทินคงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top