วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ไฟเขียวคดีฮั้วสว.
'รมว.ยธ.'ยืนยันไม่แทรกแทรก
เปิดทางรฟท.ฟ้องเขากระโดง
“พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์” รมว.ยุติธรรม คนใหม่ ไฟเขียวดีเอสไอลุยคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน-ฮั้ว สว. เต็มที่ ยืดอกให้คำมั่น “ไม่ขอแทรกแซง” ส่วนเขากระโดงขอให้รอคำพิพากษาก่อน หลัง ร.ฟ.ท.จะยื่นฟ้องคู่กรณีเป็นรายบุคคลกว่า 900 ราย
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรมเปิดเผยว่า สำหรับการกระทรวงยุติธรรมวันนี้วันแรก ตนรู้สึกดีใจที่ได้มารับตำแหน่งในฐานะ รมว.ยุติธรรม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งรัฐมนตรี และจนถึงวันที่ตนได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก็ยังไม่ได้มาพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชน ซึ่งตนก็เข้าใจว่าท่านก็อยากสอบถามอะไรต่าง ๆ แต่ก็ต้องเน้นย้ำว่าอาจติดในเรื่องของกฎหมายระเบียบต่าง ๆ ที่ต้องผ่านขั้นตอนการถวายสัตย์ไปก่อน วันนี้ตนเข้ากระทรวงยุติธรรมครั้งแรกก็อยากมาพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชน
ในเรื่องของการบริหารงานต่าง ๆ ในกระทรวงยุติธรรม เรื่องของนโยบาย ตนขอเป็นว่าหลังจากที่ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันจันทร์และวันอังคารนี้ก่อน ซึ่งหลังจากนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายแล้วนั้น ทางกระทรวงยุติธรรมก็จะมีการแถลงนโยบายเช่นเดียวกัน ซึ่งร่างนโยบายของกระทรวงฯ ทางสื่อมวลชนอาจทราบอยู่แล้ว ส่วนว่าวันนี้ตนขอพรประการใดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระหว่างสักการะนั้น ตนได้กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกจุดของกระทรวงยุติธรรม โดยขอพรให้ทำงานราบรื่น เพราะตนก็เคยเป็นข้าราชการประจำมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ทำงานมาอายุราชการก็ 41 ปี ก็ถือว่าผ่านการทำงานมาพอสมควร
พล.ต.ท.รุทธพล เผยถึงนโยบายเร่งด่วน 4 เดือน ว่า นโยบายเร่งด่วนที่สามารถพูดได้ก็คือเรื่องการปราบปราบการพนัน และยาเสพติด ที่เป็นนโยบายที่เราพูดได้ก็เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลเหมือนกัน โดยตนจะเน้นไปที่การปราบปรามพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ส่วนเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ตนขอย้อนไปว่าสมัยรับราชการประจำ ตนได้ทำงานเกี่ยวกับการปราบยาเสพติดมาก่อน เชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำงานด้านยาเสพติดแน่นอน เพราะเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสแกมเมอร์ เราก็จะเร่งรัดเต็มที่ เพราะทราบว่าทางดีเอสไอก็มีปฏิบัติการจับกุมการขุดบิตคอยน์เถื่อน ลอบใช้ไฟฟ้าหลวงจนทำให้การไฟฟ้าฯ ได้รับความเสียหายพันกว่าล้านบาท อีกทั้งยังมีเรื่องของการจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนเรื่องการปราบปรามการพนันออนไลน์และยาเสพติดมีตัวชี้วัด/เป้าหมายอย่างไรนั้น ตนอยากเรียนว่าหน่วยงานมีตัวชี้วัดอยู่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ก็มีการสกัดพื้นที่ชั้นในชั้นนอก โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการมาต่อเนื่อง
พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวถึงคดีคงค้างอื่นที่ติดค้างมาจากรัฐบาลชุดเก่าเพื่อจะสานต่อ ว่า ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย หน่วยงานใดรับผิดชอบก็ดำเนินการต่อไป เพราะตนในฐานะ รมว.ยุติธรรม ก็คงกำกับนโยบายเพียงเท่านั้น โดยยึดหลักนิติธรรม ให้เป็นไปตามกฎหมาย อันไหนที่เขาทำมาแล้ว ก็ให้ดำเนินการต่อไปได้เลย ดังนั้น ถ้าสื่อมวลชนได้รับฟังการแถลงนโยบายของนายกฯ ในวันจันทร์และวันอังคารนี้ ส่วนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของนายกฯ
เมื่อถามถึงคดีเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และคดีอั้งยี่ ฟอกเงิน ฮั้ว สว. ว่ามีทิศทางทำคดีอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ในส่วนของคดีฮั้ว สว. ทราบว่าเป็นการดำเนินการของทาง กกต. อยู่แล้ว ก็ให้ กกต. รับผิดชอบดำเนินการไป ส่วนคดีเขากระโดง ก็ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการไปได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน และเท่าที่ทราบ รฟท. จะยื่นฟ้องคู่กรณีประมาณกว่า 900 ราย เพราะถือคติว่าจะยื่นฟ้องทั้งหมด ตนก็คงจะต้องรอคำพิพากษาของศาลในส่วนนี้
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่ารัฐบาลชุดนี้หรือ รมว.ยธ. เองจะเข้าไปแทรกแซงการทำคดีหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวปฏิเสธว่า ไม่หรอกครับ ตนไม่คิดที่จะแทรกแซง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน การจะเข้าไปแทรกแซงมันต้องคิดให้ดี อย่างไรรายละเอียดความคืบหน้าทางคดีต่าง ๆ ต้องสอบถามกับทางปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน ส่วนหน่วยงานไหนรับผิดชอบก็ให้ดำเนินการได้เลย
ต่อข้อถามว่าคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ซึ่งดีเอสไอรับผิดชอบอยู่นั้น จะให้เดินหน้าต่อหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล ย้ำว่า ให้ดีเอสไอดำเนินการต่อเนื่องได้เลย เพราะในเรื่องนี้บางคนก็บอกว่า กลัวว่าตนจะมาแทรกแซง แต่ตนอยากเรียนว่า คดีทั่วไปแม้ลัก วิ่ง ชิง ปล้น มันก็จะมีข้อกฎหมายกับข้อเท็จจริงอยู่ ดังนั้น ต่อให้เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ เชียงราย ยะลา อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ก็มีกฎหมายเดียวกันทั้งหมด ส่วนข้อเท็จจริงทางดีเอสไอดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ คงต้องสอบถามทางปลัด ยธ. ว่าความคืบหน้าคดีจะมีมากน้อยแค่ไหน
ต่อข้อถามว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการอะไรเกี่ยวกับ 2 คดีนี้เป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่มีครับ
เมื่อถามว่าตอนนี้คดีเขากระโดงในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบ ยังเป็นเพียงเรื่องสืบสวนเท่านั้น มีโอกาสจะรับเป็นคดีพิเศษในเร็ววันนี้หรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่ทราบเลยครับ คงต้องค่อนข้างระมัดระวัง เพราะตนไม่รู้ว่าการเข้าไปดูจะเป็นการไปแทรกแซงหรือไม่ เพราะอย่างที่ทราบเวลาของรัฐบาลนี้มีเพียง 4 เดือน หากเข้าไปแทรกแซงแล้วมีคนไปร้องศาล ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงไม่สามารถทำงานได้ตามนโยบายของรัฐบาลได้
ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สังคมจับตาว่ารัฐบาลชุดนี้จะจัดการเรื่องคดีเขากระโดงอย่างไรว่าทุกฝ่ายก็พูดไปแล้วว่าทำตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ส่วนคนจะชอบหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง มีถูกใจหรือถูกต้อง เพราะฉะนั้นต้องพิสูจน์ ตนถือหลักพระพุทธองค์ เรื่องอดีตยากที่จะแก้ไข อนาคตยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า สังคมยังจับตาว่าอดีตฮั้วสว.จะหายไปหากรัฐบาลภูมิใจไทยเข้ามา นายโสภณกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขารับผิดชอบแล้วจะหายได้อย่างไร เขาก็ทำตามหน้าที่ ไม่มีใครไปสั่งใครได้
ส่วน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายของรมว.คมนาคม ในการให้ไฟเขียวการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ฟ้องผู้ครอบครองพื้นที่รายแปลงในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ว่า ตนเห็นด้วยกับแนวทางของรมว.คมนาคม ที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการฟ้องร้องผู้ครอบครองพื้นที่รายแปลงเพื่อให้ศาลพิจารณาชี้ขาด มากกว่าการใช้อำนาจฝ่ายปกครองไปบีบบังคับประชาชน
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้ ไม่ใช่การรังแกประชาชน แต่เป็นการเปิดช่องให้ประชาชนได้พิสูจน์สิทธิ์อย่างเต็มที่ หากมีหลักฐานที่ชัดเจน ก็สามารถต่อสู้ และได้รับความเป็นธรรม นี่คือวิธีที่ถูกต้อง และยุติธรรม หากประชาชนมีเอกสารสิทธิ์ที่ดีกว่า ก็ชนะ และอยู่ในที่ดินได้อย่างสงบสุข จบปัญหาอย่างถาวร ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีคดีที่ประชาชนร้องขอโฉนด 35 แปลง แต่แพ้การรถไฟฯ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับคดีที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่ควรสับสนหรือเหมารวม
“ผมขอปรบมือให้ รมว.คมนาคม การดำเนินการเช่นนี้คือการใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย” นายสิริพงศ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี