ทบ.โต้ 'ฮุน มาเนต' ย้อนดู 20 ปี 'เขมร' แปลงสภาพ ตั้งชุมชน รุกเข้าเขตไทย

ทบ.โต้ 'ฮุน มาเนต' ย้อนดู 20 ปี 'เขมร' แปลงสภาพ ตั้งชุมชน รุกเข้าเขตไทย

วันเสาร์ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2568, 09.23 น.

ทบ.โต้ 'ฮุน มาเนต' ย้อนดู 20 ปี 'เขมร' แปลงสภาพ ตั้งชุมชน รุกเข้าเขตไทย ยกหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ

27 ก.ย. 68 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความกล่าวถึงการปักปันเขตแดนระหว่างไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว มีลักษณะพาดพิงฝ่ายไทย  จึงขอเรียนชี้แจงให้สังคมได้ทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างเหมาะสม  ในประเด็นสำคัญ 


โดยเฉพาะกรณีนายกฯกัมพูชากล่าวอ้าง MOU ให้ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาสถานะเดิม จนกว่างานปักปันเขตแดนจะเสร็จสมบูรณ์นั้น ก็ขอให้ย้อนไปดูฝ่ายกัมพูชาทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมากว่า 20 ปี กัมพูชาเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ด้วยการสร้างบ้านเรือนและตั้งชุมชน ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ หรือพื้นที่ที่อยู่ในกรอบเงื่อนไขข้อตกลง MOU เท่านั้น แต่ยังมีการรุกล้ำเกินเลยเข้ามาในพื้นที่ในอาณาเขตดินแดนประเทศไทย ทั้งที่พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน

พลตรีวินธัย ย้ำอีกว่า หากดูหลักฐานด้วยภาพถ่ายทางอากาศแล้วเปรียบเทียบระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อย่างชัดเจนจากการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการประท้วงมาแล้วมากกว่า 500 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของ MOU ที่กำหนด แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา และในทางกลับกัน พบว่าหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย มีกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่เข้ามาขุดคูติดต่อทางทหาร(คูเลต) และพื้นที่ชุมชนใน จ.สระแก้ว ตามที่เกิดประเด็นความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง

ส่วนกรณีที่นายกฯกัมพูชา กล่าวหาฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเอง จากพิกัดหลักเขตที่คณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วนั้น พลตรีวินธัย ระบุว่า เขตแดนไทย–กัมพูชาตลอดแนว ในส่วนที่ภูมิประเทศเป็นภูเขาจะใช้สันปันน้ำเป็นตัวแบ่ง ส่วนภูมิประเทศที่เป็นลักษณะที่ราบจะใช้หลักเขตแดนเชื่อมต่อกันเป็นตัวระบุเขตแดน ซึ่งจะไม่ค่อยมีความซับซ้อน หรือต้องอาศัยองค์ประกอบงานเทคนิคด้านแผนที่ขั้นสูงอย่างที่กล่าวอ้าง อาศัยแค่ความซื่อสัตย์และจริงใจ ตรงไปตรงมา ก็จะสามารถหาข้อสรุปในเรื่องเขตแดนสำหรับพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพื้นราบได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งจะช่วยสามารถลดเวลาขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ได้เป็นอย่างดี

 โดยพิกัดหลักเขตตามแนวชายแดนทั้งหมด 74 หลักเขต ได้มีการสำรวจและบันทึกพิกัดโดยคณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมของทั้งสองประเทศเรียบร้อยแล้ว และมีเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งพิกัดหลักเขตที่เห็นตรงกันและเห็นต่างกัน ในส่วนที่เห็นต่างก็กลายเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งตาม MOU ได้ตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ใด ๆ

ดังนั้น การที่นายกฯกัมพูชา กล่าวหาฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเองนั้นจึงไม่ถูกต้อง เพราะทางการกัมพูชาก็ทราบดีว่าหลักเขตใดอยู่พิกัดใด ส่วนเส้นตรงที่ลากเชื่อมต่อระหว่างหลักเขต ก็เป็นเส้นอ้างอิงที่ใช้ในการกำหนดเขตแดนตามหลักการในกรณีที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ราบ ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายไทยวาดเส้นเขตแดนขึ้นเองตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง

ในกรณีของหลักเขตที่ 42 ถึง 43 เมื่อลากเส้นตรงในแผนที่ เพื่อเชื่อมโยงตำแหน่งของหลักเขต 43 ที่คณะสำรวจของทั้งสองประเทศเห็นตรงกัน ไปยังตำแหน่งของหลักเขตที่ 42 ไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่งที่กัมพูชากล่าวอ้าง หรือตำแหน่งที่ไทยกล่าวอ้างก็ตาม ก็จะพบว่ามีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ซ้อนทับกันอยู่ และที่สำคัญที่สุด พื้นที่พิพาทบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงบริเวณบ้านหนองจาน ที่ฝ่ายไทยยืนยันต้องดำเนินการ ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกไป ตามประกาศของ จ.สระแก้ว นั้น อยู่ในเขตดินแดนไทยชัดเจน ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่

โฆษก ทบ. กล่าวย้ำว่า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไม่ได้เกิดขึ้นจากประชาชนทั้งสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพยายามจะสื่อ แต่เป็นการละเลยในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  และประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะหาทางออกข้อพิพาทเขตแดนกับกัมพูชาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ และเคารพต่ออธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top