"ชวลิต ทสท." แนะรัฐบาลขอ "จีน" มหามิตรสำคัญในภูมิภาค ยื่นมือแก้ปัญหาเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉานและเมียนมา หลังสร้างมลพิษไหลลงสู่แม่น้ำกก สาย รวก และโขง
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปร่วมสัมมนาในหัวข้อ “กรอบกฎหมายและกลไกระดับนานาชาติในการจัดการผลกระทบจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉานและเมียนมา”
การสัมมนาดังกล่าวจัดโดยคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย โขง ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารประชาธิปก–รำไพพรรณี สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีสื่อ The Reporter ถ่ายทอดสดการสัมมนา
นายชวลิตฯ ได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวเปิดงาน โดยกล่าวขอบคุณคณะผู้จัดสัมมนา คณะวิทยากร ตลอดจนผู้เข้าร่วม ที่ให้ความสำคัญกับปัญหามลพิษจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธซึ่งข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้านและไหลลงสู่แม่น้ำสายสำคัญของไทย ได้แก่ แม่น้ำกก รวก สาย และโขง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะสุขอนามัยของประชาชนที่ใช้น้ำประปาจากแม่น้ำ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การประมง และเกษตรกรรมอีกด้วย
นายชวลิตฯ ได้ชื่นชมเครือข่ายภาคประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และการที่ครั้งนี้ได้จัดสัมมนาในกรุงเทพฯ ณ สถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการร่วมกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
หลังจากคณะวิทยากรได้ให้ความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาที่ประชาชนประสบจากมลพิษเหมืองแร่แรร์เอิร์ธที่ดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมแล้ว ช่วงถาม-ตอบ นายชวลิตฯ ได้แสดงความเห็นและสรุปว่า การแก้ไขปัญหามลพิษที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเพื่อนบ้านและไหลลงสู่แม่น้ำไทย จำเป็นต้องแก้ที่ “ต้นเหตุ” ซึ่งก็คือสถานที่ตั้งของเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในต่างแดน ประเทศไทยเป็นภาคีในองค์กรความร่วมมือลุ่มน้ำโขงอย่างน้อย 2 องค์กร ได้แก่
1. คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) มีสมาชิกคือ กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
2. ความร่วมมือล้านช้าง–แม่โขง (Lancang–Mekong Cooperation: LMC) มีสมาชิกคือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย และจีน มุ่งส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนในอนุภูมิภาค
นายชวลิตฯ ชี้ว่า การประสานงานกับทั้งสององค์กรดังกล่าว ควบคู่ไปกับการประสานกับ “จีน” ซึ่งเป็นมหามิตรของไทยในภูมิภาค อาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้
จากการติดตามข่าวสาร พบว่า ผู้ประกอบการเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมียนมาส่วนใหญ่เป็นชาวจีน โดยในประเทศจีน ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด แต่กลับมาลงทุนในเมียนมาที่อยู่ภายใต้อิทธิพลชนกลุ่มน้อย เพื่อลดต้นทุนการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดการทิ้งมลพิษในพื้นที่ และท้ายที่สุดไหลลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ ปัญหานี้จึงมีความซับซ้อนและยากต่อการแก้ไข
นายชวลิตฯ ได้เสนอแนะว่า เครือข่ายภาคประชาชนควรรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทยให้ตรวจสอบผู้ประกอบการ หากยืนยันว่าเป็นชาวจีนจริง ก็ควรบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับที่บังคับใช้ในประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าทางการจีนย่อมไม่ต้องการให้ประชาชนของตนไปละเมิดกฎหมายในต่างแดน
พรรคไทยสร้างไทยยังเสนอให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน หรือรัฐบาลชุดต่อไป นำปัญหามลพิษจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธซึ่งไหลลงแม่น้ำหลายสายของไทยและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ขึ้นเป็น นโยบายเร่งด่วน ที่ต้องเร่งแก้ไขให้สำเร็จโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี