เสียงปรบมือลั่นUN
‘สีหศักดิ์’ตอกหน้าเขมร-เหยื่อคือคนไทย
โต้ปมชายแดนแบบมีวุฒิภาวะ
เด็ก-คนชราไทยฝ่ายสูญเสีย
ทบ.เปิดไทม์ไลน์เขมรจัดฉาก
ยิงยั่วยุไทยที่‘ช่องอานม้า’
เสียงชื่นชมกระหึ่ม ทั้ง “ยูเอ็น-ปท.ไทย” ยกย่อง “สีหศักดิ์” รมว.การต่างประเทศไทยทำหน้าที่แถลงย้ำจุดยืนไทยในการแก้ปัญหาชายแดนไทย-เขมร ได้อย่างยอดเยี่ยม ตอกหน้าทูตเขมรกลางวงประชุม เล่นบทเหยื่อซ้ำซาก – เจตนาทำร้ายไทยเพื่อขยายวงขัดแย้งไปเวทีโลก- บิดเบือนข้อเท็จจริงไม่หยุด – ฉีกหน้า “เหยื่อ”ไม่ใช่เขมร แต่เป็นทหารที่สละชีพ/ขาขาด – เด็ก- คนชรา-คนไทยผู้บริสุทธิ์ที่ถูกอาวุธของเขมรยิงใส่ต่างหาก ย้ำท่าทีตัวแทนเขมรสะท้อนความไม่จริงใจ บิดเบือนข้อมูลอย่างจงใจ ทำให้ต้องแก้ไขสุนทรพจน์แบบกะทันหัน ด้านทบ.เปิดไทม์ไลน์เขมรจัดฉากยิงยั่วยุไทยที่ช่องอานม้า เล่นละครกันเป็นระบบทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 28กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นกล่าวถ้อยแถงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเริกาโดยตอนหนึ่งะบุถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่ตอบโต้ข้อเท็จจริงที่ผู้แทนกัมพูชากล่าวบิดเบือนในเวทีประชุมดังกล่าวอย่างดุเดือด ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากผู้ร่วมประชุมกึกก้อง และยังได้รับความชื่นชมจากประชาชนคนไทยทั่วประชุมเป็นอย่างยิ่ง
UN-คนไทยแห่ชื่นชมรมว.ตปท.
โดยนายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า “รมตสีหศักดิ์ ปราศรัยในยูเอนเมื่อคืนวันเสาร์ได้ดีเยี่ยมในรอบหลายสิบปี สมควรที่กระทรวงต่างประเทศรีบแปลเป็นภาษาไทยให้คนไทยได้อุ่นใจว่า เขมรโวยวายในยูเอ็นไม่ได้ทำให้ไทยเสียเปรียบ ในทางตรงข้ามท่านสีหศักดิ์แก้ต่างตอบโต้อย่างมีวุฒิภาวะที่เรียกเสียงปรบมือได้หลายครั้ง ที่สำคัญกระทรวงต่างประเทศอย่าเอา speech ที่นายสีหศักดิ์เตรียมไว้ล่วงหน้ามาเผยแพร่ เพราะนายสีหศักดิ์กล่าวในที่ประชุมว่า ได้แก้ไขspeech หลังได้ยินกัมพูชาอ้างว่าเป็นเหยื่อ “แท้จริงแล้วผู้ที่เป็นเหยื่อคือคนไทยทั้งเด็กเล็กและคนชราฯลฯ”
จี้ก.ตปท.แปลคำแถลงเผยแพร่ให้คนไทยอ่าน
นายสุทินกล่าวต่อว่า นายสีหศักดิ์ได้กล่าวเท้าความตอนเป็นนักการทูตชั้นผู้น้อยที่ได้ช่วยเขมรหลายแสนคนหนีตายมาอยู่ค่ายอพยพ สงครามสงบแล้วหลายคนไม่กลับแต่สร้างบ้านอยู่ตรงนั้นอ้างเป็นเจ้าของพื้นที่สร้างปัญหาจนถึงเมื่อวาน.. และยังชื่นชมนายสีหศักดิ์ว่าภาษาที่ท่านพูดเป็นภาษาทางการทูตแต่เราเข้าใจตามภาษาชาวบ้าน ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศควรแปลเป็นภาษาไทยมาแพร่หลายโดยด่วน
ชื่นชมทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบชัดเจน
เช่นเดียวกับ รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ภูมิใจที่เรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ในเวที UNGA เป็น 22.42 นาที ที่ได้สร้างความชัดเจนต่อกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ต่อสายตาชาวโลก ขอบพระคุณ กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand”
เปิดเบื้องหลัง‘สีหศักดิ์’แก้สุนทรพจน์
ด้านนายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นถึงการกล่าวถ้อยแถลงของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่ารมว.ต่างประเทศสีหศักดิ์ ไม่อ้อมค้อม ซัดกัมพูชาตรงๆ กลางเวที UN ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ “ตอแหล” ในทุกเรื่อง แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อและสร้างเรื่องกล่าวหาไทยไม่หยุดหย่อนนายเทพชัยยังยกคำพูดของนายสีหศักดิ์ที่ยอมรับว่าได้คุยกับรมว.ต่างประเทศเขมรหนึ่งวันก่อนหน้านั้นและทุกอย่างก็คุยกันรู้เรื่องดี แต่พอขึ้นเวทีฝ่ายเขมรกลับเล่นงานไทยด้วยข้อมูลบิดเบือน ทำให้ต้องแก้สุนทรพจน์ที่ร่างไว้กลางคันหลังจากได้ยินสิ่งที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งจากกัมพูชา จากท่าทีของนายสีหศักดิ์ทำให้เราเห็นว่า นานๆ จะได้เห็นการทูตไทยที่ดุดันกลางเวทีโลกแบบนี้
ตอกหน้าเขมรบิดเบือนเล่นบทเหยื่อซ้ำซาก
สำหรับคำแถลงของนายสีหศักดิ์ในเวทีประชุมใหญ่สหประชาชาติ มีรายละเอียดสำคัญโดยสรุปดังนี้ ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียน วันนี้ ตนตั้งใจจะพูดบางอย่างที่แตกต่างและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังในอนาคตแต่ตนต้องเขียนคำปราศรัยใหม่เพราะคำพูดที่น่าเสียดายที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชา ซึ่งตนรู้สึกผิดหวังที่กัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่อครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง
“เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากกับระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกโจมตีด้วยระเบิด และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีด้วยจรวดของกัมพูชา เมื่อวานนี้ผมพบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาในห้องโถงขององค์การสหประชาชาติ และได้คุยกันเกี่ยวกับสันติภาพ การเจรจา ความไว้วางใจระหว่างกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้เน้นย้ำประเด็นนี้ในการหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐฯ แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่กัมพูชาพูดวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้”นายสีหศักดิ์ระบุ
เขมรมุ่งขยายข้อพิพาทพรมแดนไปเวทีโลก
และย้ำว่า มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้ดูเกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาเริ่มความขัดแย้งด้วยเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติมากขึ้น ดังที่เป็นกรณีเดียวกันในเช้าวันนี้ หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของตนกล่าวถึงก่อนหน้านี้กำลังตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวของไทยเต็มๆ
ที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนได้เข้ามาหาที่พักพิงในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักมนุษยธรรม และในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมได้ประสบเหตุการณ์นั้นด้วยตนเอง แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและที่พักพิงถูกปิดลงแล้ว แต่หมู่บ้านต่างๆ ในกัมพูชาขยายตัวออกไปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
แฉกลางUNยั่วยุต่อเนื่อง-ยิงปืนใส่/ขนม็อบบุก
รมว.ต่างประเทศของไทยกล่าวต่อว่า แม้ไทยจะประท้วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องเหล่านั้นในการแก้ปัญหาการรุกล้ำนี้ และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูกัมพูชาเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ เราสร้างบ้านเรือน ถนนหนทาง และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน การหยุดยิงยังคงเปราะบางถ้าเราจะทำให้สำเร็จ ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย แต่น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าดินแดนไทยและการยิงปืนเข้ามาฝั่งไทย ได้บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังหมายถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาของกัมพูชา ผ่านการยิงปืนใส่ฐานทัพทหารไทยตามแนวชายแดนอย่างเหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นวันนี้เอง กองทัพไทยตรวจพบโดรนตรวจการณ์ที่บุกรุกดินแดนไทยทุกวัน
ฉะละเมิดอธิปไตยไทย-ฉีกข้อตกลงหยุดยิง
นายสีหศักดิ์กล่าวอีกว่า การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมพิเศษที่เมืองปุตราจายา มาเลเซีย และได้รับการยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี บัดนี้ ขออย่าได้มีข้อสงสัยว่าไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาตลอดและจะยืนหยัดต่อไป และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ขณะเดียวกัน ไทยจะยืนหยัดอย่างมั่นคงและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่
ยันไทยยึดเจรจาร่วมมือแสวงหาสันติภาพ
“วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองต้องเผชิญทางเลือกสำคัญ ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าต่อเนื่อง หรือเส้นทางสันติภาพและความร่วมมือ ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาจะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพนี้หรือไม่”รมว.ต่างประเทศกล่าวและย้ำว่า สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความจริงใจไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังยึดมั่นหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่น รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน
ทบ.เปิดไทม์ไลน์เขมรจัดฉากยิงใส่ช่องอานม้า
อีกด้านหนึ่งมีท่าทีจากกองทัพบก หลังเหตุการณ์กัมพูชายิงอาวุธใส่พื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีพร้อมกับการนัดหมายคณะผู้สังเกตการณ์หรือ IOT เข้าพื้นที่ และการแถลงบิดเบือนกล่าวหาไทย โดยพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 กันยายน) ที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงหลายขนาดเข้ามาในพื้นที่เขตอธิปไตยไทย บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีนั้น มีลำดับเหตุการณ์สำคัญที่กองทัพบกบันทึกไว้ ดังนี้
เวลา 11.55 น. ตรวจพบเสียงปืน ค. และปืนกลจากฝ่ายกัมพูชา บริเวณเนิน 677จากนั้น เวลา12.00 น. ตรวจพบเสียงยิง ค. จากเนิน 677 ไปยังเนิน 600เวลา 11.55–12.07 น. ฝ่ายกัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิด 40 มม. และปืนเล็กยาวใส่เนิน 600เวลา 12.10 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนกล 93 ใส่เนิน 527 (3 ชุด ชุดละ 5 นัด) ฝ่ายไทยยิงตอบโต้เวลา12.16 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนเล็กยาวใส่เนิน 600 ฝ่ายไทยยิงตอบโต้เวลา 12.23–12.35 น. ฝ่ายกัมพูชายิงปืนไม่ทราบชนิด 3 นัด และ ค. รวม 11 นัด จากพื้นที่ช่องอานม้า ไม่ทราบเป้าหมาย
เวลา 13.00 น. ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะมีคณะ IOT กัมพูชาเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานมาในช่วงบ่าย13.15 น. พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกมาแถลงชี้แจงทันทีหลังเหตุการณ์ยิงยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา โดยบิดเบือนอ้างว่าฝ่ายไทยโจมตีฐานทหารกัมพูชา จากนั้นนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขยายผลเหตุการณ์ดังกล่าว กระทั่ง เวลา13.30 น. พื้นที่ช่องอานม้าไม่ปรากฏการยิงเพิ่มเติม ทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังประจำแนว
แฉเขมรการละครรับลูกเป็นระบบทั้งปท.
โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวเมื่อพิจารณาลำดับเหตุการณ์แล้ว จะพบมีลักษณะการทำงานที่ดูประสานสอดคล้องกันจนผิดธรรมชาติต่างจากทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นการเตรียมการวางแผนล่วงหน้า เริ่มจากยั่วยุด้วยอาวุธมุ่งหวังบันทึกภาพ เพื่อไปบิดเบือนว่าไทยเข้าโจมตีละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สอดรับกับการนัดคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) กัมพูชาเข้ามาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และปิดท้ายด้วยการแถลงชี้แจงกล่าวหาไทย โดยทางการเขมรสร้างภาพว่าเป็นผู้ถูกกระทำต่อสังคมโลก ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียง เป้าหมายของการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นความเป็นจริงคือ เขมรจงใจวางแผนสร้างเรื่อง ใช้อาวุธยิงเข้ามาเขตไทย ยั่วยุหวังให้ไทยโจมตี พร้อมนัดหมาย IOT เข้าพื้นที่ เตรียมสร้างหลักฐานเท็จว่าไทยเป็นผู้ละเมิดมาตรการหยุดยิง ควบคู่กับการแถลงกล่าวหาไทยบิดเบือนต่อสังคมโลก ซึ่งเป็นวิธีการที่ขาดความจริงใจและสะท้อนเจตนาต้องการเพิ่มความขัดแย้งให้มากขึ้น
“การละเมิดหยุดยิงที่ร้ายแรงอย่างกรณีลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของเขมร ซึ่งละเมิดอนุสัญญาฯ เป็นการใช้อาวุธแบบซ้อนรูป ขัดหลักมนุษยธรรมรุนแรง ควรเป็นประเด็นหลักที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ต้องให้ความสำคัญตรวจสอบอย่างจริงจังด้วย เพราะเป็นเรื่องหลักที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ระยะหลังสังคมจะเห็นเพียงภาพ คณะฯ IOT ฝั่งกัมพูชาเหมือนจะลงสังเกตการณ์เฉพาะ ในพื้นที่ตามที่เขมรชี้ให้เพื่อเป็นองค์ประกอบสนับสนุนการสื่อสารให้เขมรเป็นหลัก ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา หลายฝ่ายมองเป็นการจัดฉากขึ้นมาเป็นระบบชัดเจน”โฆษกกองทัพบกกล่าว
มทภ.2นำทหารร้องเพลงชาติบนภูมะเขือ
ขณะที่เพจเฟสบุ๊ค กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่าพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเหล่าทหารกล้าเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทยบนยอดภูมะเขือ ประเทศไทย เพื่อสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณใน “พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6” เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day)”และสดุดีวีรชนทหารกล้าผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย ธงชาติไทยที่โบกสะบัด คือสัญลักษณ์แห่งเกียรติและศักดิ์ศรี ทหารไทยจะยืนหยัดปกป้องผืนแผ่นดินนี้ด้วยชีวิต ไม่ให้สูญเสียแม้เพียงตารางนิ้ว
ทภ.2พบโดรนเขมรที่ช่องอานม้า-ภูมะเขือ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 28 กันยายน 2568 จนถึงเวลา 14.00 น.ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกองทัพกัมพูชา ในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบสัญญาณการบินของโดรนตรวจการณ์2 ครั้ง ในพื้นที่ช่องอานม้า 2 ลำ และพื้นที่ ภูมะเขือ 1 ลำปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี