'เอม-สามี'เยี่ยม'ทักษิณ' 'ทนายวิญญัติ'ยอมรับยื่นขออภัยโทษครั้งที่ 2 จริง

'เอม-สามี'เยี่ยม'ทักษิณ' 'ทนายวิญญัติ'ยอมรับยื่นขออภัยโทษครั้งที่ 2 จริง

วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.39 น.

"เอม-สามี"เป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม"ทักษิณ" เยี่ยมญาติครั้งที่ 5 หลังคุมขังมาแล้ว 20 วัน ด้าน"ทนายวิญญัติ"เผย"ทักษิณ"สุขภาพดีขึ้น แต่ต้องระวังโรคเกี่ยวกับกระดูกต้นคออาจทับเส้นประสาท พร้อมยอมรับมีการยื่นทูลเกล้าฯถวายฎีกาขออภัยโทษครั้งที่ 2 จริง ย้ำชัดเป็นสิทธิของนักโทษเด็ดขาดทุกราย ส่วนผลพิจารณาเป็นเรื่องของพระเมตตามิขอก้าวล่วง

จากกรณีวันที่ 9 กันยายน 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไว้คุมขังตามคำพิพากษาของศาลให้บังคับโทษจำคุกแก่จำเลย โดยให้จำคุก 1 ปี ต่อมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ กำหนดให้เป็นเรือนจำศูนย์ระหว่างการพิจารณาคดี (HUB) ได้ดำเนินการย้ายนายทักษิณ ไปควบคุมยังเรือนจำกลางคลองเปรม แดนพยาบาล เนื่องจากเป็นนักโทษเด็ดขาดกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุ เพื่อแยกการปฏิบัติตามประเภทของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม ปัจจุบันนายทักษิณ อยู่ระหว่างการถูกคุมขังมาแล้ว 20 วัน อีกทั้งยังมีมวลชนคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศคอยรวมตัวมาให้กำลังใจที่เรือนจำฯ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ในแต่ละสัปดาห์ ขณะที่ญาติและครอบครัวนายทักษิณ ยังคงตบเท้าหมุนเวียนเดินทางเข้าเยี่ยมทุกวันจันทร์ และพฤหัสบดี อาทิ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของนายทักษิณ , น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก , นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ น.ส.แพทองธาร , น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนกลาง และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ น.ส.พินทองทา ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น


ล่าสุดเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 ก.ย.68) ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน เเขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ ซึ่งวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 สำหรับการเยี่ยมญาตินายทักษิณ โดยผู้สื่อข่าวหลากหลายสำนักยังคงปักหลักติดตามรายงานความเคลื่อนไหว และรอสัมภาษณ์สมาชิกครอบครัวชินวัตร โดยทราบว่าวันนี้จะมีเพียง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ มาเป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมญาติ เนื่องจากล่าสุดมีการยืนยันจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรมว่า นายทักษิณ ภายหลังเข้าไปคุมขังในเรือนจำจากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาบังคับโทษ 1 ปี ในคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ได้มีการยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษเป็นรายบุคคล ทำให้ผู้สื่อข่าวมารอสัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของตัวแทนมวลชนคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจาก จ.สิงห์บุรี จ.นนทบุรี มารวมตัวเตรียมรอให้กำลังใจสมาชิกครอบครัวชินวัตร และให้กำลังใจนายทักษิณ อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเวลา 11.00 น. น.ส.พินทองทา หรือ เอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ สามี เดินทางมาด้วยรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Mercedes-Benz สีเทา ทะเบียน 5 ขจ 995 กรุงเทพมหานคร โดยมี นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ รอต้อนรับพาเข้าด้านในเรือนจำฯ ซึ่งเมื่อ น.ส.พินทองทา และสามี มาถึง พบว่า น.ส.พินทองทา แต่งกายด้วยเสื้อคอกลมลายขวางสีสันสดใส สีฟ้าสลับขาว กางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า สวมแว่นตากันแดด ขณะที่สามี นายณัฐพงศ์ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเทาเข้ม กางเกงยีนส์ขายาว โดยทั้งคู่ลงจากรถตู้เบนซ์และรีบเข้ายกมือไหว้ทักทายมวลชนคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจด้านหน้าเรือนจำฯ ซึ่งคนเสื้อแดงต่างพากันตะโกนเสียงดังกึกก้องว่า "เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ" และขอถ่ายรูปคู่กับ น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงษ์ อย่างไรก็ดี พบว่าทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าวขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงตลอดเวลา ทั้งนี้ ระหว่างที่ น.ส.พินทองทา กำลังจะเข้าไปด้านในเรือนจำฯ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ได้หันมารับฟังคำถาม ยิ้มรับ แต่ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว

หลังจากนั้นเวลา 11.30 น.ภายหลังที่ น.ส.พินทองทา และสามี ได้ใช้เวลาเยี่ยมนายทักษิณ ราว 30 นาที ก็ได้เดินออกมาจากเรือนจำฯ เพื่อเตรียมขึ้นรถตู้ส่วนตัวเดินทางกลับ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามสอบถามอีกครั้งว่า นายทักษิณมีการยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เป็นครั้งที่ 2 จริงหรือไม่ ปรากฏว่า น.ส.พินทองทา ไม่ได้ตอบคำถาม และรีบก้าวเท้าขึ้นรถ ขณะที่ผู้สื่อข่าวยังสอบถามนายณัฐพงศ์ ว่า ยังสนใจรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) อยู่หรือไม่ ปรากฏว่า นายณัฐพงศ์ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยิ้มให้แทน

ต่อมาเวลา 11.40 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า สำหรับอาการสุขภาพของนายทักษิณตอนนี้ ก็ยังมีอาการป่วย แต่ก็ยังสุขภาพดูดีขึ้น หน้าตาสดใสขึ้น เพราะท่านก็พยายามรักษาตัวเอง พยายามปรับตัวให้ได้เมื่ออยู่ข้างใน ส่วนกิจวัตรประจำวันท่านก็ยังทำปกติเหมือนเดิม อย่างไรก็ดี ตนพูดไปหลายครั้งแล้วว่าอาการของท่านหลักๆ ก็คือเกี่ยวกับเรื่องความดัน เรื่องระบบหัวใจก็ต้องระวัง ส่วนที่เราเป็นกังวลก่อนหน้านี้ก็คืออาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอที่จะไปทับเส้นประสาทหรือไม่ นี่คือเรื่องที่ค่อนข้างเซนส์สิทีฟ ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามอายุของท่าน เพราะท่านก็มีอาการมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงพยาบาล และในเมื่อท่านอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้อยู่ใกล้หมอขนาดนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ว่าการเดิน หรือการทำกิจวัตรต่างๆ ก็ระวังมากขึ้น

ทนายวิญญัติ เผยว่า ส่วนเรื่องการปวดกระดูกต้นคอ ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวัง มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวัง แม้ยังไม่ถึงขนาดเดินไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ก็ต้องระวังมากขึ้น ส่วนเรื่องประสิทธิภาพการนอนหลับ ตนไม่ได้คุยกับท่าน ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ อาจนอนหลับบ้างไม่หลับบ้าง ตนคาดเดา เพราะไม่ได้สอบถาม แต่ย้ำว่าสีหน้าดีขึ้น ก็แสดงว่ามีการดูแลตัวและปรับตัวเองได้ดี อย่างไรก็ดี เรื่องความดันก็มีการตรวจตลอด แต่ตนไม่ได้สอบถามเช่นกัน ซึ่งในเรือนจำฯ ก็มีแพทย์เข้าตรวจสุขภาพเป็นรอบๆ อยู่แล้ว และท่านก็เป็นผู้สูงอายุ อยู่ในแดนพยาบาล ตนมองว่าเรื่องเหล่านี้ก็ทำเป็นปกติ จะให้ลงรายละเอียดลึกตนคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นข้อมูลเรื่องสุขภาพของท่าน

ทนายวิญญัติ เผยถึงการเยี่ยมญาติผ่านวิดีโอคอลไลน์ ว่า การเยี่ยมญาติทางไลน์เป็นเรื่องปกติของกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะเรือนจำฯ แต่ละที่ก็มีกันอยู่แล้ว และตนเชื่อว่าญาติและครอบครัวของท่านก็ยังประสงค์เข้าเยี่ยมแบบเห็นหน้าเห็นตากัน เพราะถือเป็นการให้กำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากจะติดภารกิจจริงๆ ก็อาจเยี่ยมทางไลน์แทน แต่การเยี่ยมทางไลน์ก็มีการลงทะเบียนไว้อยู่แล้ว แต่ขอสงวนว่าใครลงทะเบียนบ้าง ส่วนกรณีว่าทางเรือนจำฯ มีกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดด้วยนั้น ตนเชื่อว่าถ้ามีเยี่ยมญาติใกล้ชิด ท่านก็ต้องได้รับสิทธิ์ ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร ทุกครอบครัวก็คงต้องมาอยู่แล้ว ทั้งนี้ ท่านทักษิณยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เรื่องอื่นๆ ที่ทนายความกับลูกความคุยกันก็มักเป็นเรื่องปกติทั่วไป ว่าเรื่องอะไรบ้างที่เราทำอยู่และเป็นข้อห่วงใย นอกจากนี้ ท่านยังได้ขอบคุณพี่น้องคนเสื้อแดงและประชาชนที่เป็นห่วงท่าน ส่วนพี่น้องที่มาจัดกิจกรรมหน้าเรือนจำฯ โดยส่วนตัว ตนขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะอยู่ในสถานที่ราชการ พี่น้องเรามาแสดงพลังก็ดีแล้ว ท่านก็ไม่ได้สั่งการหรือมอบหมายอะไรมา ท่านขอบคุณมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามถึงกรณีผลการเลือกตั้งซ่อม สส.จังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่ผ่านมา ว่าได้แจ้งให้นายทักษิณ ทราบหรือไม่นั้น ทนายวิญญัติ รีบปฏิเสธไม่ขอให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง และขออภัยสื่อมวลชน ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็พยายามเดินสอบถามต่อว่า เรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 ซึ่งทนายความก็อธิบายว่า ได้มีการยื่นขอไปจริง และถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกราย เป็นสิทธิตามกระบวนการ และเราก็ดำเนินการหลายวัน และครั้งนี้ก็ดำเนินการนานกว่าครั้งที่แล้ว พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นพระราชอำนาจเป็นพระเมตตาของพระองค์ท่าน ไม่อาจก้าวล่วงได้ และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 สามารถทำได้หรือไม่ เจ้าตัวก็ขอปฏิเสธไม่ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ ทนายวิญญัติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ การยื่นฯ เป็นกระบวนการทางเอกสารและทำความเห็นประมาณ 14 วัน ใช้เวลามากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งใช้เวลา 6 วัน การยื่นครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการเร่งรีบ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top