ชำแหละศึกแถลงนโยบาย ‘เพื่อไทย’โอลด์สคูล กับลีลา-3 ทักษะเขี้ยวลากดินของ‘อนุทิน’

ชำแหละศึกแถลงนโยบาย ‘เพื่อไทย’โอลด์สคูล กับลีลา-3 ทักษะเขี้ยวลากดินของ‘อนุทิน’

วันพุธ ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.52 น.

ชำแหละศึกแถลงนโยบาย ‘เพื่อไทย’โอลด์สคูล กับลีลา-3 ทักษะเขี้ยวลากดินของ‘อนุทิน’

1 ตุลาคม 2568 นายอธึกกิต แสวงสุข หรือ “ใบตองแห้ง” คอลัมนิสต์ และพิธีกร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Atukkit Sawangsuk” ระบุว่า...


(มิตร)

แถลงนโยบายครม.รอบนี้

Part 1

สส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถฟื้นแนวรบได้เลย

ทั้งที่มีสส.รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพไม่น้อย มีทีมงาน วงศ์วาน ที่ไม่ได้ซื่อบื้อบ้องตื้น เก่งเลยแหละแต่ไม่ใช้เค้า กลับเลือกใช้วิธีการแบบโอลด์สคูล แล้วใช้สส.หมดสภาพพูดเหมือนกะให้อภิปรายทิ้งทวนรอบหน้าไม่มาแล้ว

การใช้โวหาร ตีสำนวน แบบไร้แก่นสาร ทำแซะ กระแนะกระแหน  ไม่ควรใช้เลยในห้วงยามนี้ก็เสือกเอามาใช้ แล้วพอใช้ออกก็กลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอ ถ้าเล่นเกมคือเสียแต้ม ซ้ำแต้มที่เสียยังไปเพิ่มคะแนนให้สีน้ำเงิน สีส้มเสียฉิบ

ไม่รู้จะเห็นใจหรือสมเพชดี

ประชาธิปัตย์  น่าจะฟื้นยากแล้ว สำบัดสำนวน มีดโกนอาบน้ำผึ้งตอนนี้ทื่อมาก เอามาโกน...ก็ไม่ขาด แฉลบไปบาดไข่ก็ไม่เข้าแค่ถลอกๆ น่าเศร้า

ความน่าสะพรึงอยู่ที่ การฟอร์มทีมอภิปรายโดยเฉพาะรัฐมนตรีคนนอก ทำได้ดีชนิดแบกให้คนพูดถึงวงกว้าง จนมองข้ามความกร่าง กักขฬะ และการโต้แย้งข้างๆคูๆของรมต.สายดำมืดอย่าง ธรรมนัส สุชาติอะไรพวกนี้ไปเลย

แอร์ไทม์ของคุณศุภจี กินพื้นที่สื่อและการรับรู้คนเมืองมาก โดยเฉพาะพวกอีบีจะ อนุรักษ์นิยม สลิ่มเก่าและพวกคนชั้นกลาง ชอบมาก (มากแบบมากกก)

การใช้คนเดินหมากแบบนี้น่าสนใจทีเดียว

ตามสไตล์ ครูใหญ่เนวิน แกทำงานคนละแบบกับทักษิณที่เก่งกูคนเดียว และใช้คนแค่หยิบมือ (เครือญาติ คนที่รู้จัก คนที่คอนโทรลได้)มาทำงานและสุดท้ายวนไปที่เก่าคือนายว่าอะไรก็ตามนั้น  ขณะที่เนวินใช้คนนอกเป็น ดึงคนมาแล้วให้พื้นที่เค้าทำงาน แสดงฝีมือ ภายใต้กรอบกว้างๆและการชักใยเบื้องหลัง (และเป็นระบบ ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่า)

ขณะที่อนุทิน  แสดงศักยภาพได้น่าสนใจ เล่นหลายหน้ามากในแค่รอบหนึ่งสัปดาห์

1.ความเขี้ยวลากดินแบบสส.ยุคเก่า เช่น เรียกสส.อยุธยาไปบนเวทีแล้ววางยา ให้ต้องมาเสียเวลาโต้ข่าวและขยี้ย้ำรอยเรื่องโหวตมาอีก อันนี้เป็นบทเรียน ให้เต้และน้องๆเช่นกันว่าต้องตั้งการ์ดไว้ก่อนอย่าประมาท

อธิบายง่ายๆว่าต้องคิดแบบคนเ...ย ว่ามันทำอะไรได้บ้าง สำนวนหนังจีนคือศึกษาพิษ ให้รู้ว่ามันใช้ยังไง ออกฤทธิ์ยังไง ถอนแก้ยังไง แต่ไม่พึงเอามาใช้

2.เล่นหน้ากวน...ตีน เช่น อภิปรายเสียดสีมาก็เสียดสีกลับ นักข่าวถามไม่อยากตอบก็เลี่ยงพูดเฉไปอื่น เปลี่ยนเรื่อง หรือ เดินหนี ซึ่งอุบาทว์ แต่มันก็ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยภาพลักษณ์ถึงตลกถึงไม่จริงจังยิ่งทำให้วิธีการที่ใช้แบบนี้ไม่ถูกประณามมากเท่าที่ควร

ที่เหนือล้ำไปกว่านั้นคือ 3 ทักษะการล้อมให้คำถามมุ่งไปสู่คำตอบที่เตรียมไว้ นี่เป็นศาสตร์ระดับเซียนที่อนุทินใช้ได้ดี เช่น ถ้าพูดสัมภาษณ์ตั้งคำถามเป็น ABC อันที่จะอ่านหน้าคำถามได้จากแค่ข้อ a เรารู้ว่ามันจะมุ่งสู่ b ไป c ยังไงแล้วมันจะเปลี่ยนด้วยการตอบและเลี่ยงหลอมให้ผู้ถามต้องใช้คำถาม A  ไป ข ค แทน ซึ่งเตรียมคำตอบเอาไว้ และหรือเสริมการใช้เฉไฉเปลี่ยนเครื่องระหว่างบรรทัดแทรก สุดท้ายก็มีข้อดีที่ควรจะถูกถามจี้จะไม่ถูกถาม ละเลยลืมไป

อันนี้ต้องใช้ศาสตร์การต้อนให้จนมุม และต้องกล้าเสียมารยาทในการถามจี้ สรรคำให้ กระชับ ตรงประเด็น  ถึงจะแก้กลนี้ได้

โพสหน้าอาจจะต้องพูดถึง

1.การใช้ภาษา 2 บุคลิกท่าที และ 3 เนื้อหาสาระ ในการอภิปราย ซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนของพรรคประชาชนที่มีแต่อย่างท้ายเป็นจุดแข็ง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top