‘อนุทิน’ตอบเอง! หลัง‘สส.พรรคส้ม’บี้ถามปมถนนทรุดตัว โยงบิ๊กบริษัทผู้รับจ้าง

‘อนุทิน’ตอบเอง! หลัง‘สส.พรรคส้ม’บี้ถามปมถนนทรุดตัว โยงบิ๊กบริษัทผู้รับจ้าง

วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.37 น.

"สส.พรรคส้ม"บี้ถาม"นายกฯ"ปมถนนสามเสนทรุดตัว สะเทือนความเชื่อมั่นประชาชน จี้ตอบ 3 ข้อ เอี่ยวโยงการเมือง 2 บิ๊กบริษัทผู้รับจ้าง ด้าน"อนุทิน"ยันสั่ง"คมนาคม"ตั้ง คกก.สอบสวนหาความจริงแล้ว ลั่นหากพบผิดฟันไม่เลี้ยง ยึดประโยชน์ชาติ ไร้อุ้มช่วยเหลือใคร มีแต่จะกระทืบ เผยหน่วยเกี่ยวข้องเร่งคืนพื้นผิว เล่าอดีตแจงที่มาจาก"ซิโนไทย-เข้ามาเล่นการเมือง"การันตีไม่ขัดแย้งรธน.

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องขอให้ตรวจสอบสาเหตุกรณีถนนยุบบริเวณถนนสามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ของ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม.เขต 1 พรรคประชาชน ตั้งคำถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ซึ่งนายอนุทิน ได้เดินทางเข้ามาตอบกระทู้ดังกล่าวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก ภายหลังดำรงตำแหน่งนายกฯ


โดย นายปารเมศ กล่าวว่า ตนติดตามข่าวที่นายกฯ ลงพื้นที่ด้วยตนเองหลายครั้งที่จุดเกิดเหตุที่ถูกจับจ้อง สร้างความหวาดกลัวให้คนไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่หลุมขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการถล่มของความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อโครงการรัฐบาล วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือหลุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย มีความลึกกว่า 50 เมตร กว้าง 30 คูณ 30 เมตร ไม่ได้กลืนกินเพียงถนน แต่กลืนกินความรู้สึกความปลอดภัย ในการใช้ชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ โชคดีที่ไม่เกิดความสูญเสีย แต่ครั้งหน้าโชคอาจไม่ได้อยู่ข้างเรา ผลกระทบที่เกิดขึ้น ประชาชนรู้สึกหวาดผวา ไม่กล้าใช้ถนนเส้นนี้ที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ผู้ป่วยและบุคลากรโรงพยาบาลวชิรฯ เป็นหมื่นคนได้รับผลกระทบ ทั้งการเข้าถึงการรักษา รวมถึงการสัญจร

นายปารเมศ กล่าวต่อว่า ชุมชน บ้านพักอาศัย ร้านค้า ต้องสูญเสียรายได้ เกิดความกังวลความปลอดภัยตัวเองตลอดเวลา น้ำประปาหยุดไหลกระทบเป็น 10 ชุมชน นายกฯ น่าจะทราบ คนได้รับผลกระทบเป็นหมื่นคน การจราจรใจกลางเมืองปั่นป่วน เสียเวลา เศรษฐกิจเสียหายอย่างซ้ำซ้อน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุทางวิศวกรรมธรรมดา แต่มันคือสัญญาณเตือนต่อโครงการของรัฐขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณนับหมื่นล้านบาท ทางสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้เสนอสาเหตุถนนยุบเกิดจาก 1.ชั้นดินรองรับอุโมงค์ชั้นบนไหลลงไปยังอุโมงค์ชั้นล่าง เพราะมีปัญหาจุดเชื่อมต่อ 2.ดินรองรับทั้งอุโมงค์บน-ล่าง สูญเสียกำลังรับน้ำหนัก ทำให้ดินอ่อนตัวกลายสภาพเป็นของเหลว จนไม่สามารถค้ำน้ำหนักได้ 3.วงแหวนรับน้ำหนักตัวที่ 6 ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการรองรับน้ำหนัก หรืออาจจะเกิดจากความบกพร่องของโครงสร้าง เนื่องจากอุโมงค์ถูกประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ต่อกันหลายๆ ชั้น มีรอยต่อจำนวนมาก หากชิ้นใดชิ้นหนึ่งชำรุด อาจทำให้ทั้งโครงสร้างพังถล่มลงมาทั้งระบบ ดังนั้น ถ้าโครงสร้างหลักสร้างเสร็จและได้มาตรฐานต่อให้ฝนตกหนักแค่ไหน หรือต่อให้น้ำจากท่อประปาแตก ก็ไม่ควรที่จะมีดินถล่มลงมาแบบนี้

"รัฐบาลมีหน้าที่ตามล่าหาความจริง มาเปิดเผยต่อสาธารณโดยเร็วที่สุด เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังหาสาเหตุไม่เจอจะไม่มีวันแก้ไขปัญหานี้ได้เลย และจะไม่สามารถป้องกันเหตุเกิดซ้ำในอนาคต ประชาชนจะเชื่อมั่นในโครงการของรัฐได้อย่างไร ผมคิดว่ากรณีนี้อาจแย่กว่ากรณีของตึก สตง.ถล่ม เพราะกรณีตึก สตง.ถล่ม เรายังทราบเหตุผลชัดเจน ว่าได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว อย่างน้อยเรารู้ที่มา แต่กรณีนี้ รฟม.ชี้แจงว่าโครงสร้างหลักของอุโมงค์สร้างเสร็จมาหลายเดือนแล้ว มีการเปิดให้มีการสัญจรทุกวัน นั่นแปลว่าหน่วยงานที่กำกับดูแล เชื่อว่าอุโมงค์โครงสร้างหลักนี้ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานที่ดี ผมจึงมีคำถามชุดแรกไปยังนายกฯ 1.จะคืนผิวถนนที่มีคุณภาพให้ประชาชนเชื่อมั่นเสร็จเมื่อไหร่ รวมถึงการสร้างอุโมงค์ 2.รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ทั้งผู้ประกอบการ ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณรอบข้าง ผู้ป่วย หมอ บุคลากรทางการแพทย์ 3.รัฐบาลมีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกตุแบบนี้เกิดขึ้น สำหรับการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ ทั้งสายสีม่วง สายสีส้ม รวมถึงจะยกระดับมาตรฐานก่อสร้างที่มีความเสี่ยงลักษณะนี้อย่างไร" นายปารเมศ กล่าว

ด้าน นายอนุทิน ชี้แจงว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณดังกล่าว ทั้งถนนสามเสน โรงพยาบาลวชิรฯ และ สน.สามเสน ได้เร่งสั่งการให้ รมว.คมนาคม ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็วเพื่อให้ทราบสาเหตุ ที่แม่นยำ และขอให้รายงานผลการตรวจสอบมายังตนทุกสัปดาห์ ในการตรวจสอบตนได้เน้นย้ำให้ใช้หลักเดียวกันกับกรณีตึก สตง.ถล่ม เนื่องจากโครงสร้างวิศวกรรมมีปัญหาแน่นอน โดยจะมีผู้แทนสภาวิศวกรจากวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ผู้แทนวิศวกรจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทน กทม.ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญต่างๆ มาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ เราจะต้องพบจุดบกพร่อง และนำมาชี้แจงประชาชนได้รับทราบ เพื่อหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในอนาคตอย่างแน่นอน

"ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดตั้งกรรมการสอบสวน และนำผลมาศึกษาวิเคราะห์หาความผิดพลาด บกพร่อง และต้องออกมาตรการการดำเนินการก่อสร้างใหม่ หากพบความผิดพลาดจากเทคนิคต้องดำเนินการแก้ไข แต่หากเกิดจากความสะเพร่าหรือเลินเล่อของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบตามสัญญาที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันการตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม ได้ติดตามทุกสัปดาห์ ซึ่งผมเชื่อว่าจะได้คำตอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาพื้นที่ขณะนี้ รฟม.เร่งรัดเพื่อคืนสภาพพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งขั้นตอนการเตรียมคืนพื้นที่ขณะนี้ได้หยุดการสไลด์ของดินแล้ว จากนั้นจะเติมหินคลุก ลาดยาว และคืนพื้นผิวให้ผู้สัญจร ซึ่ง รฟม.ให้ความมั่นใจว่าการคืนผิวจราจรได้ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ และจะมีการติดตั้งเครื่องมือติดตามการเคลื่อนไหว สแกนโพลงใต้ดินและส่งเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ 24 ชั่วโมง สำหรับการเยียวยาผู้ที่เกี่ยวข้อง ตนกำชับให้กระทรวงคมนาคม และผู้ว่าการ รฟม.แม้ไม่ระบุในสัญญาว่าจะทำอย่างไร แต่เมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้น ต้องหารือและสั่งการให้ผู้รับจ้างชดใช้ ช่วยเหลือ สนับสนุน ผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ สำหรับการเยียวยารวมถึงโอกาสของการสร้างรายได้ช่วงที่เกิดเหตุอย่างเต็มที่ด้วย

ต่อมา นายปารเมศ ตั้งคำถามอีกครั้งถึงความเกี่ยวพันทางการเมืองระหว่างนายกฯ ในฐานะอดีตผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ขณะที่ผู้รับจ้างคือกิจการร่วมค้า ช.การช่าง และ ซิโน-ไทย ว่า การตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะให้ความมั่นใจต่อการตรวจสอบที่ตรงไปตรงมาได้อย่างไร ตนขอให้คณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นทำงานเป็นอิสระ และทำงานเพื่อปกป้องผลประโยชน์รัฐ ไม่ใช่นายทุน นอกจากนี้ การตรวจสอบของเหตุการณ์ ยังไม่ได้ยินจากนายกฯ ว่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้รับจ้างอย่างไร หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความบกพร่องของการก่อสร้างหรือการออกแบบ ขอให้นายกฯ พูดให้ชัดเจนว่าจะดำเนินคดีหรือเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานภาครัฐ จะแบล็คลิสต์ หรือระงับการรับงานโครงการภาครัฐหรือไม่ รวมไปถึงการเรียกร้องค่าเสียหายหากส่งมอบงานล่าช้า

นายอนุทิน จึงชี้แจงว่า ในประเด็นความเกี่ยวข้องของตนกับบริษัทผู้รับจ้างนั้น ตนอยู่ในการเมือง เป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2547 ตนมาจากภาคเอกชน ไม่ต่างจากผู้สถาปนาพรรคอนาคตใหม่ เมื่อตัดสินใจทำงานการเมือง รู้ถึงข้อจำกัด ต้องเคลียร์ตัวเองให้เกลี้ยง ตนใช้เวลา 21 ปีในการเมือง ซึ่งการออกจากการเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนหลายแห่ง ไม่เฉพาะบริษัท ซิโน-ไทย เท่านั้น และเมื่อมีการเลือกตั้ง 2562 รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสเข้าทำงานในสภาฯ อย่างยั่งยืน สิ่งล่าสุดที่ทำเมื่อปีนั้น คือ ขายหุ้นในบริษัท ซิโน-ไทย ผ่าน กลต.จนหมด และไม่มีการถือหุ้นใดๆ ที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ กฎระเบียบที่ทำงานการเมือง

"ผมไม่เกี่ยวข้องกิจการภาคเอกชนใดๆ ตั้งแต่ลาออกมาทำงานภาคการเมือง และเมื่อพ้นตำแหน่งทางการเมืองปี 2549 ตนไม่ได้กลับเข้าไปทำงานภาคเอกชนอีก กรณีนี้บริษัทรับจ้างที่ผมทำงาน 20 ปีก่อน การปกป้องเพื่อให้ประโยชน์ไม่มี ผมและซิโน-ไทย เหมือนไม่รู้จักกัน รู้แค่เป็นบริษัทก่อสร้างและทำธุรกิจอยู่ แต่เมื่อผมอยู่ในภาครัฐ ไปตรวจดูได้ว่า ไม่มีตรงไหนที่ตนเคยใช้ความเกี่ยวข้อง อิทธิพล การโน้มน้าวใดๆ ช่วยเหลือบริษัทนี้ ผมสบายใจที่จะตอบว่า ผมให้สัตยาบรรณว่า นอกจากจะให้อิสระในการตรวจสอบ รวมถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบความเสียหาย ที่เป็นสิทธิ์ของ รมว.คมนาคม การตรวจสอบต้องเน้นประโยชน์ของรัฐของราชการเป็นสำคัญ" นายอนุทิน ชี้แจง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในการตรวจสอบหากพบว่าเป็นความบกพร่องจากการก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ ซึ่งในขั้นตอนนั้น รฟม.มีบริษัทตรวจการจ้างดูแล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีทางที่มนุษย์หน้าไหนเอื้อประโยชน์ให้คนที่ทำผิด ผู้รับจ้างเหนื่อยแน่ ต่อให้เคลียร์ตัวเองได้ ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม หากพิสูจน์พบว่าบกพร่องรุนแรง มีขั้นตอนจะต้องเสียค่าชดใช้ตามสัญญาที่กำหนดไว้ชัดเจน เท่าที่ทราบ คือ สิ้นสุดเดือน ส.ค.70 หากส่วนที่เสียหายที่ต้องซ่อมเมื่อวันสัญญาสิ้นสุด ทำไม่เสร็จ ค่าปรับเดินแน่นอน

"ผมขอให้ความมั่นใจ เรื่องพวกนี้ ผมไม่เคยเสียหาย มีแต่เสียเพื่อนหลายคนแล้ว เพราะไม่ได้ใช้อิทธิพล หรือใช้อำนาจใดๆ ช่วยเหลือ หากใครขอผมจะเจอแต่ความว่างเปล่า แม้จะส่งไลน์มา ผมกดทิ้งไม่อ่าน และจะบล็อกด้วย เพราะผมยึดถือการปกป้องประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งการตั้งกรรมการนั้นยืนยันว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ มีแต่จะกระทืบ และผมเองจะติดตามงานอย่างใกล้ชิด และทุกครั้งหลังประชุมจะเปิดเผยทุกครั้ง" นายกฯ กล่าว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top