'อนุทิน’ยิ้มรับกระแส‘ภูมิใจดูด’  ภท.เนื้อหอม!  เล็งผลเลิศเป็นพรรคอันดับ1

'อนุทิน’ยิ้มรับกระแส‘ภูมิใจดูด’ ภท.เนื้อหอม! เล็งผลเลิศเป็นพรรคอันดับ1

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

'อนุทิน’ยิ้มรับกระแส‘ภูมิใจดูด’

ภท.เนื้อหอม!

เล็งผลเลิศเป็นพรรคอันดับ1

สารพัดนักการเมืองแห่ไหลซบ

‘ธรรมนัส’โวลั่นมี80สส.ในมือ

‘อิ๊งค์’ฝันนำพท.กลับมายิ่งใหญ่

เนื้อหอม! คนเพื่อไทย-2 ลูกชายบ้านใหญ่“รัตนเศรษฐ”เปิดตัวสวมเสื้อ“ภท.”เร่งระดมสรรพกำลังสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าด้าน “อนุทิน”มารับด้วยตัวเอง ลั่นเปิดกว้างอ้าแขนรับเพิ่ม เล็งผงาดขึ้นพรรคอันดับ 1 ชี้เป็นเรื่องดี“อิ๊งค์”ลุยงานการเมืองหนัก-แต่ละพรรคต้องคิดนโยบายแข่งกัน“อนุทิน”ชื่นมื่นต้อนรับ “เอกนัฏ-จุติ” นำสส.รทสช. แสดงเจตจำนงร่วมงานภท.สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้ากธ.คึกคักเปิดตัว15ว่าที่ผู้สมัครสส.‘ธรรมนัส’โชว์พลัง! โวมี‘80 สส.’ร่วมอุดมการณ์‘กล้าธรรม’สู้ศึกเลือกตั้ง‘เพื่อไทย’โหมโรง‘ยกเครื่องเพื่อไทย’‘อิ๊งค์’ปลุกใจกลางเวที“เลือดเพื่อไทย ไม่มีวันเหือดแห้ง”ประกาศยกเครื่องพรรค-ยกเครื่องประเทศ ปลุกพาพท.กลับมายิ่งใหญ่-เปิดตัว185ผู้สมัครทั่วประเทศล็อตแรกตั้ง‘สุริยะ’ผอ.คุมศึกเลือกตั้ง ลั่นปชน.กระแสตก พท.กระแสพุ่ง โวกวาด สส.ได้ 200สส.

เมื่อเวลา14.00น.วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีบรรดานักการเมืองทยอยหลั่งไหลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง โดยนายอนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมาให้การต้อนรับด้วยตัวเอง


อดีตพท.-2ลูกชายบ้านใหญ่ซบภท.

โดยมีทั้งสส.สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายพงศกร อรรณนพพร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายทวิรัฐ และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกชายของนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายอัครวัฒน์ กุลเฉลิมพัฒน์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีม ซึ่งนายอนุทินได้ตรวจสอบใบสมัครและลงชื่อรับสมัครสมาชิกก่อนมอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทยและสวมใส่ ให้ด้วย

ขณะที่ นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เดินทางมาเพื่อแสดงเจตจำนงว่าจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยการเลือกตั้งครั้งหน้า

ย้ำเตรียมพร้อมจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง

จากนั้นนายอนุทินกล่าวว่าเป็นการยืนยันอย่างหนึ่งว่ารัฐบาลชุดนี้จะยุบสภาในระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน หลังจากวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาถือว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องมีการเตรียมพร้อมบริหารจัดการไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในต้นปีหน้า

เมื่อถามถึงครอบครัวรัตนเศรษฐจะมาทั้งหมดเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นครอบครัวเดียวกันทั้งหมด ตนกับนายพงศกรรู้จักกันมา 30 กว่าปี ก่อนที่ลูกชายและลูกสาวจะเกิดด้วยซ้ำ ทำงานการเมืองมาด้วยกัน สมัยพรรคชาติพัฒนา เคารพนับถือกันตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ จึงถือเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ส่วนนายทวิรัฐ และนายตติรัฐ เปรียบเหมือนลูกเหมือนหลาน เพราะเป็นลูกชายของนายวิรัช ซึ่งเราก็รู้จักกันมานาน รู้จักกันมาแต่ไหนแต่ไร

ลั่นเปิดกว้างอ้าแขนรับเพิ่ม

เมื่อถามว่า เหมือนจะตีตลาดโคราชในเลือกตั้งครั้งหน้าเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคที่ทำงานให้เห็น และตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เราอาจเป็นพรรคที่มีหลายรูปแบบ มีคนรุ่นใหม่ดูแลบริหารจัดการ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ทำงานให้กับประเทศ แต่เราก็ยังจำเป็นต้องมีผู้แทนราษฎรที่มีความคุ้นเคยกับพื้นที่ ใกล้ชิดกับประชาชน สส.พรรคภูมิใจไทยที่เข้ามา จุดแข็งของพรรคภูมิใจไทย เข้าถึงสส.ทุกคน และความต้องการและเสียงของเขา ได้รับการตอบสนอง

“ทั้งนี้เราเป็นพรรคที่เปิดกว้างพร้อมรับผู้ที่มีความสนใจที่จะมาทำงานรับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ไม่มีข้อจำกัดและไม่มีกำหนดคุณสมบัติใดๆ ยกเว้นว่าคนคนนั้นไร้ซึ่งจริยธรรมและเข้ามาหาประโยชน์ส่วนตัวเราไม่รับ ทำเพื่อพี่น้องประชาชนก็ยินดีต้อนรับทุกท่าน ย้ำว่าใครมาอีกก็จะทราบเองไม่ควรไปประกาศก่อนที่เจ้าตัวจะมาปรากฏตัว ถ้าทุกคนมีความพร้อมก็จะมาเปิดตัวให้ทุกคนรับทราบ”นายอนุทินย้ำ

รับเล็งผลเลิศผงาดพรรคอันดับ1

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้า จะเป็นพรรคอันดับหนึ่งเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราเล็งผลเลิศ ต้องฝากนโยบายของพรรค ผ่านผู้สมัคร สส.ของพรรค ไปแจ้งให้กับประชาชนรับทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและไว้วางใจในการเลือกพรรคภูมิใจไทยมารับใช้ประชาชน

เมื่อถามว่าจะมีใครมาเพิ่มเติมในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า“เราเปิดกว้าง ตัวผมเองอยู่ในสภา ถ้าสังเกตผมเดินไปทุกโต๊ะ เวลาเจอกันทักกันหลายท่านก็บอกว่า เดี๋ยวเที่ยวหน้ามาอยู่ด้วยนะ ชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย หัวหน้ามีที่ให้หรือไม่ผมก็ต้องเรียนว่าคนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นผู้แทนแล้ว มีประวัติด่างพร้อยตรงไหน มีความตั้งใจทำงานให้ประชาชน ผมก็ยินดีต้อนรับ ”

ทุ่มเททุกความสามารถรับใช้ปชช

เมื่อถามว่ามาเยอะขนาดนี้พรรคภูมิใจไทยจะใหญ่ขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามองว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถทำงานให้กับบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ยิ่งมีโอกาสทำงาน ทุกคนก็รู้สึกว่าอยากจะทุ่มเททุกความสามารถ ที่มีอยู่รับใช้ประชาชน มีคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย ที่เขาไม่ต้องกังวลกับชีวิตส่วนตัว และประโยชน์ส่วนตัว อย่างนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าเรามีคนที่อยู่มีประสบการณ์อยู่ในวงการ เมื่อถามว่าการเลือกตั้งที่โคราชตั้งเป้าสส.กี่ที่นั่งนายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องตั้งเป้าเต็มที่ พรรคจะให้การสนับสนุนอย่างเป็นกำลัง ในการที่จะทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

ชี้เรื่องดีทุกพรรคตื่นตัวแข่งขัน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการแถลงแคมเปญ ยกเครื่องเพื่อไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี ที่เป็นการแข่งขันให้ทุกพรรคมีความตื่นตัว พรรคเพื่อไทยเปิดตัวเต็มที่ มีพรรคไทยก้าวหน้าของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ก็เปิดตัวพรรคกล้าธรรมก็เปิดตัว พรรคประชาธิปัตย์ก็อาจจะได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ของประชาชน และเป็นประโยชน์ของแต่ละพรรคว่า ไม่มีอะไรที่เป็นของตาย เราจะต้องคิดนโยบายกลยุทธ์วิธีที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ดีกว่าพรรคอื่นๆ และคนที่จะได้ประโยชน์คือประชาชน เมื่อถามว่า ในช่วงนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ลุยงานหนักเหมือนกัน นายอนุทินกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องดีแล้ว ท่านคนเก่ง

รอวัดใจย้ายพรรคก่อนเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงที่มีการเปิดตัวนายโกศล ปัทมะสว.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยพร้อมกับการเปิดแคมเปญของพรรคเพื่อไทยวันนี้นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ท่านตัดสินใจแล้ว สิ้นสุดและต้องรอให้สภาชุดนี้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญและต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน และถ้ามีการย้ายพรรคมาสมัครใหม่ ต้องทำภายใน 30 วัน แต่ต้องมีเวลาทำความเข้าใจให้ประชาชน ทั้งตัวผู้สมัครและตัวพรรค ที่ต้องไปแนะนำและฝากเนื้อฝากตัวกับประชาชนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งกับผู้สมัครที่เพิ่งย้ายเข้ามาและทำอย่างตรงไปตรงมา

‘กลุ่มเอกนัฏ’เข้าภท.ร่วมประชุม

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)เปิดเผยว่าในวันเดียวกันนี้สมาชิกกลุ่มนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ประกอบด้วย ตนเอง นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายชุมพล จุลใส อดีตสส.ชุมพรหลายสมัยจะเดินทางไปประชุมสส.ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรคภูมิใจไทยในช่วงบ่าย

ปัดสมัครเป็นสมาชิกพรรค

สาเหตุที่ไปประชุมที่พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ โดยจะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการทำงานในสภาฯให้ราบรื่น เพราะเรามีเวลาแค่ 4 เดือนจึงอยากให้การทำงานกระชับ ยืนยันไม่มีประเด็นทางการเมือง และการเดินทางไปพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ไม่ได้ไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากยังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่

“อนุทิน”ชื่นมื่นต้อนรับ‘เอกนัฏ-จุติ’

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้การต้อนรับ นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นำ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในกลุ่มของตนเองมาแสดงเจตจำนง อาทิ นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี,นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ,นายอนุชา บูรพชัยศรี สส.บัญชีรายชื่อ เข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ยังไม่มีการสมัครสมาชิก เนื่องจากหลายคนยังคงดำรงตำแหน่งสส.อยู่

ขณะที่นายอนุทิน ทันทีที่ได้พบหน้ากับกลุ่ม สส.ของนายเอกนัฏได้กล่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า “Can I say welcome all” จากนั้นได้ชวนขึ้นไปพูดคุยยังห้องประชุมด้านบนที่ทำการพรรคภูมิใจไทย

‘กล้าธรรม’.คึกคักเปิดตัว15ว่าที่ผู้สมัคร

เวลา 14.00 น.ที่พรรคกล้าธรรม(กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม และนายหิมาลัย ผิวพรรณ สมาชิกพรรค แถลงเปิดตัว พร้อมสวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคกล้าธรรม จำนวน 15 คน

โดย ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่สามารถเปิดตัวได้ ซึ่งบางคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นผู้นำในรัฐบาล เมื่อถึงเวลาจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง ะวันนี้ขอต้อนรับว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่พรรคกล้าธรรม ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้วในสมัยที่ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐด้วยกัน ที่ผ่านการเลือกตั้งปี 2562 มาด้วยกัน ซึ่งพรรคกล้าธรรมพยายามหาจุดยืนให้แต่ละท่านได้ทำงาน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งนี้

ล่านพร้อมสนับสนุนทุกเรื่อง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคกล้าธรรมไม่มีฐานันดร แต่คือคนในครอบครัวเดียวกัน และพร้อมจะสนับสนุนทุกเรื่อง หลังจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม และนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ จะหารือเพื่อวางยุทธศาสตร์สำหรับการเลือกตั้งต่อไป สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ ตั้งแต่จ.ชุมพรจนถึงจ. นราธิวาส จะรอเปิดตัวอีกครั้งซึ่งขณะนี้พรรคกธ.ผู้สมัครเกือบครบทุกเขตแล้ว

เปิด15รายชื่อเด็กเก่า‘พปชร.-รทสช.’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส.เป็นกลุ่มที่ถูกทาบทามโดยนายหิมาลัย จำนวน 7คนได้แก่ 1.พล.ท.สิทธิชัย คัตตะพันธ์ อดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 2.นายสุรชาติ ศรีบุศกร สส.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 3.จ.ส.อ.พัฒนปกรณ์ ดอนตุ้มไพร อดีตผู้สมัคร สส.สุโขทัย พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) 4.น.ส.ปวีนา วัชราวรกุล อดีตผู้สมัคร สส.พรรครทสช.5.นายธีววงศ์วรรดิ์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรี เทศบาลนครนนทบุรี พรรคประชาชน 6.นายชินกร ก้าววิทยาคม บัญชีรายชื่อ (ชนเผ่า ชาติพันธุ์) อดีตผู้สมัคร สส.เชียงราย พรรคอนาคตใหม่ และ 7.นายนิโรธ สุนทรเลขา อดีต สส.นครสวรรค์ พรรคพปชร.และอดีตประธานวิปรัฐบาล

8. น.ส.มนธิชา ไชยบาล ผู้แทนมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า 9. น.ส.เพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา จ. ลำปาง 10.นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง 11.นายวุฒิชาติ เกรียงเกศร 12.นายคำถีร์ ชื่นบาน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี 13.นายชิงชัย ก่อประภากิจ อดีตผู้สมัคร สส.ตาก พรรคพลพปชร.14.นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ อดีตผู้สมัครสส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย(พท.)หลานชายของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตสส.เชียงราย พรรคพท. และ15.นายชูพงษ์ คำจวง อดีตนายก อบจ.สกลนคร

‘ธรรมนัส’ชี้มีผู้สมัครเกือบครบทุกเขต

ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้าว่า พรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคการเมืองใด แต่เป็นพรรคที่ยืนหยัดบนอุดมการณ์ของตนเอง โดยมีเป้าหมายคือการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน วันนี้เราเพิ่งเปิดตัวผู้สมัครใน 15 เขตของภาคเหนือตอนล่างเท่านั้น ยืนยันว่าผู้สมัครของเรามีเกือบครบทุกเขตแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ซึ่งเราจะทยอยเปิดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มอบหมายให้ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม เดินสายลงพื้นที่และจัดทีมผู้สมัคร เชื่อมั่นว่าขณะนี้มีอดีต สส. และว่าที่ผู้สมัครหลายรายเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคแล้ว และได้จัดคนลงสมัครครบทุกเขตเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในเร็วๆนี้ พรรคจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพิ่มเติม โดยเฉพาะบุคคลสำคัญในแวดวงการเมือง ซึ่งจะเปิดตัวครั้งใหญ่ครอบคลุมหลายภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคอีสาน รวมถึงภาคใต้

โวมี80 สส.ร่วมอุดมการณ์‘กธ.’

เมื่อถามว่า มองว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตัวเลขเวลานี้ เรามี สส.ปัจจุบันที่เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ประมาณ 80 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อทั้งหมด แต่เชื่อว่าจะเป็นพลังสำคัญในการแข่งขันเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า คาดหวังว่าพรรคกล้าธรรมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคกล้าธรรมเติบโตทีละก้าว เราไม่ได้เร่งรีบ แต่มั่นคงเหมือนบางพรรคที่เริ่มจากเล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยาย จนประสบความสำเร็จ เชื่อว่าภายใต้การนำของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค เชื่อว่าเราจะสามารถนำพาพรรคกล้าธรรมก้าวสู่ชัยชนะ มี สส. ครอบคลุมทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศได้

‘เพื่อไทย’โหมโรง“ยกเครื่องเพื่อไทย

วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทยจัดงานใหญ่“ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย”เพื่อแสดงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้หลังการยุบสภา โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมงาน ประกอบด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นต้น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นครั้งแรกหลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่หัวใจของพรรคเพื่อไทยได้สื่อสารกันแบบใจถึงใจ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยถูกกระทำให้เป็นฝ่ายค้าน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกจองจำโดยคดีที่ตั้งต้นที่รัฐประหาร พรรคเพื่อไทยเราโดนกระทำมาโดยตลอดพรรคเพื่อไทยก็ต้องสรุปบทเรียนเพื่อปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อะไรบ้างที่จะทำให้เราปรับตัว เพื่อรับมือกับคนรุ่นใหม่รับมือกับเหตุการณ์บ้านเมือง การเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง พรรคเพื่อไทยต้องยกเครื่องครั้งใหญ่โดยการยกเครื่องโครงสร้างพรรค เพื่อให้ศักยภาพของแต่ละคนถูกนำมาใช้อย่างเต็มความสามารถ อำนาจการตัดสินใจ และทิศทางการเมืองของพรรค จะอยู่ที่หัวหน้าพรรค และกก.บห.พรรค

เลือดเพื่อไทย ไม่มีวันเหือดแห้ง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่าหลายคนประเมินว่าพรรคเพื่อไทยมาถึงทางตันแล้ว เลือดกำลังไหลจนหมดสิ้น แต่ขอยืนยันว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้น เลือดเพื่อไทยจะไม่มีวันเหือดแห้ง เราทุกคนอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ แต่เพราะเราเชื่อเหมือนกัน เราคือพรรคเพื่อไทยเราเป็นพรรคการเมืองที่มีผลงานมากที่สุด และพรรคนี้โดนรัฐประหารไปแล้ว 2 ครั้ง ถูกยุบพรรคไปแล้ว 2 ครั้ง ปลดนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง 6 คน โดยที่ผู้ก่อรัฐประหารไม่ต้องคดี แต่ผู้ก่อตั้งพรรคถูกจองจำ

“จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คือนโยบายที่ทำได้จริง การเอานโยบายดีๆถึงมือประชาชน เราชื่อว่าการผลักดันนโยบายเป็นสิ่งสำคัญ เราเชื่อว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน ดิฉันพร้อมสู้และพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสู้ ประเทศไทยยังคงต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ ต้องการการเมืองที่เป็นความหวังของประชาชน”

พร้อมเปิดชื่อ3แคนดิเดตนายก

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า เชื่อมั่นในตัว สส. ทุกคน มั่นใจว่าจะสามารถนำข้อมูลจากประชาชนสร้างนโยบายพรรค โครงสร้างใหม่นวัตกรรมทางนโยบายของพรรคคือการตั้ง Moonshot Forumจะเริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนขยายสู่ทุกภูมิภาค เพื่อระดมความคิดจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา นำไปสู่การออกแบบนโยบายใหม่ของพรรคโดยตรงไม่ได้แค่พูดสวยหรู แต่จะทำให้เกิดขึ้นจริง แต่ไปนี้พลังของพรรคเพื่อไทย จะแน่วแน่ มั่นคง โปร่งใส

ขณะเดียวกันพรรคพร้อมเปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้งสามรายและจะเปิดตัวพร้อมกันในเวลาที่เหมาะสมมั่นใจว่าจะถูกใจพี่น้องประชาชนทุกระดับ

ตั้ง “สุริยะ” ผอ.คุมศึกเลือกตั้ง

“ขอบคุณทุกคนที่อยู่กับเรา ที่นี่เป็นมากกว่าบ้าน ที่นี่จะไม่มีวันทิ้งไปไหน ในฐานะหัวหน้าพรรค ดิฉันมั่นใจว่าถ้าทุกท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจ ชัยชนะจะเป็นของเรา และได้จะโอกาสเข้าไปทำเพื่อประชาชน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการปราศรัย น.ส.แพทองธารได้ประกาศแต่งตั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค และยืนยันความพร้อมเต็มที่ สำหรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน พร้อมประกาศว่า”ไม่ว่าจะอีก 2 เดือน หรือ 4 เดือน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว”โดยมีเสียงปรบมือจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย

ปลุกกลับมายิ่งใหญ่-เปิดตัว185ผู้สมัคร

ก่อนปิดเวทีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้กล่าวขอบคุณผู้สมัครล็อตแรกทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ว่า“นี่ไม่ใช่แค่โอกาสในการลงสมัคร ส.ส. แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ศักยภาพตัวเอง และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะนักการเมืองที่ทำงานเพื่อประชาชน”

พร้อมทิ้งท้ายว่า“การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงเป็นความหวังของประชาชนได้หรือไม่ ดิฉันสัญญาว่าจะทุ่มเทอย่างถึงที่สุด เพื่อให้พรรคของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

จากนั้น ทางพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศเปิดผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครสส.จากทั่วประเทศล็อตแรกจำนวน185 คนบนเวทีในงานครั้งนี้ด้วย

‘สุริยะ’ชี้ปชน.กระแสตกโวพท.กวาด200สส.

ที่พรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกฯและรมว.คมนาคม ฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตนได้ดูข้อมูลจากกระแสโซเชียลมีเดีย เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังพรรคประชาชนไปสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯกระแสทางพรรคประชาชนตกลงอย่างมากจากเดิมมีผู้กดถูกใจประมาณ 8 หมื่น ตอนนี้เหลือแค่หมื่นเดียวที่ผ่านมาแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยก็เป็นคู่แข่งโดยตรงกับแคนดิเดตของพรรคประชาชนโดยตรง

“การที่กระแสพรรคประชาชนตกลง เราก็จะได้สส.เพิ่มเติมขึ้น ตนเชื่อมั่นในเรื่องนี้และตั้งเป้าสส.พรรคเพื่อไทย จะได้ไม่น้อยกว่า 200 คน บวกลบ 10% แล้วคอยพิสูจน์กันตอนเลือกตั้ง ขอความเชื่อมั่นรอดูพิสูจน์คำพูดของตนว่าจะจริงหรือไม่จริงคาดการณ์ว่ากระแสของพรรคประชาชนที่ตกลงไป ประเมินว่าจะได้ สส.ไม่เกิน 100 ที่นั่ง ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่มี สส.เดิม 70 ที่นั่ง เมื่อรวมกับ สส.ที่ดึงมาจากพรรคอื่น น่าจะมี สส. ประมาณ 120 ที่นั่ง”นายสุริยะ กล่าว

หลังนายสุริยะให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น น.ส.แพทองธารที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้วก่อนกล่าวว่า ดิฉันมีความภูมิใจที่ได้แต่งตั้งท่านสุริยะ เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ก่อนที่จะหันไปพูดกับนายสุริยะว่า“เยี่ยม ดีใจ และมีกำลังใจเลยค่ะ“

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top