'อนุทิน'พบผู้นำท้องถิ่น-ชาวนครพนม แจ้งข่าวดี'คนละครึ่งพลัส'ผ่านครม.วันนี้ ฝาก'กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน'แจ้งลูกบ้านรีบลงทะเบียน ลั่น 4 เดือนนี้ขอปักธงสร้างรายได้ลดรายจ่าย โวฟอกไตฟรีเกิดขึ้นที่นี่ บอกผูกพันนครพนม 20 กว่าปีมาแล้วสบายใจให้สส.ประดับภท. ก่อนสวมบทสันทนาการนำร้องเพลงหากว่าเรากำลังสบาย สร้างความคึกคัก ขณะ'อดีตสส. 7 สมัย' มอบเหรียญพญาศรีสัตตนาคราช อวยพรให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2568 ที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟนครพนม (สันตยานันท์) ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย พบปะส่วนราชการและประชาชน จ.นครพนม พร้อมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาล
เมื่อเดินทางมาถึง นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีตสส.นครพนม 7 สมัย พรรคความหวังใหม่ และพรรคไทยรักไทย ได้มอบเหรียญพญาศรีสัตตนาคราช 7 เศียร รุ่นที่ 1 ปลุกเสกโดยเกจิชื่อดังหลายจังหวัดให้นายกฯ พร้อมอวยพรนายกฯว่า ต่อไปภูมิใจไทยที่หนึ่งทั้งประเทศ และให้กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ และได้นครพนมยกจังหวัด
จากนั้นนายกฯ กล่าวพบปะประชาชนว่า วันนี้ที่ตนเดินทางมานครพนม เพราะทราบว่ามีงานสำคัญ เป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดนครพนม ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทำให้เกิดความคึกคักทางเศรษฐกิจ นั่นคือพิธีเปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลก ตนโชคดีช่วง 3 ปีหลัง มีโอกาสมาชมความงามของมหกรรมไหลเรือไฟ ได้เห็นความงดงามของจังหวัดนครพนม และความงดงามของวัฒนธรรมภาคอีสาน ขอให้ทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดีเรียกแขกเยอะๆ ให้มาเที่ยวนครพนม ซึ่งไม่ใช่แค่มาสักการะพญาศรีสัตตนาคราชเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีพระธาตุพนมด้วย
“ผมขอเล่าเรื่องขำๆ ตอนนั้นอายุประมาณ 10 ขวบ พระธาตุพนมล้มลงมา ผมดูจากข่าวทีวีช่อง 7 จัดรายการร่วมกับรัฐบาลให้ทุกคนช่วยกันบูรณะพระธาตุพนม ผมก็ไปแคะกระปุก เขาบอกว่าถ้าไปบริจาค 2,000 บาท จะได้พระธาตุพนมจำลอง ที่สำคัญจะได้ออกทีวีด้วย ผมก็อยากออกทีวีบ้างก็เลยนั่งสามล้อไปบริจาคเลย ทุกวันนี้องค์พระธาตุพนมจำลองยังอยู่ที่บ้าน ถือว่าเป็นความผูกพัน และเมื่อปี 2530 ผมได้สร้างพระประธานก็ถูกเชิญมาที่ จ.นครพนม ที่วัดดงคราม อ.ธาตุพนม ถือเป็นครั้งแรกในปี 2530 ที่ผมได้มีวาสนามาที่จังหวัดนครพนม มีเวลาเมื่อไหร่จะเดินทางมานครพนมอยู่เสมอ เพราะมาแล้วสบายใจมาแล้วมีความสุข“ นายอนุทิน กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตนกับจังหวัดนครพนมมีความผูกพันกันมา 20 กว่าปีแล้ว ที่จังหวัดนี้ให้นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว เป็นผู้แทนราษฎรของพรรคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคอยู่คือพรรคภูมิใจไทย เรามีความใกล้ชิดกัน และจังหวัดนี้ก็ให้จำนวนสส.แก่เราเพิ่มมากขึ้น ผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่ให้พี่น้องชาวจังหวัดนครพนมขณะนี้ คือนายอลงกต มณีกาศ และนายชูกัน กุลวงศา และอีกคนที่ตนมีความสนิทสนมด้วย คือนางสาวศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จ.นครพนม เป็นจังหวัดแรกที่ทำให้ประเทศไทยออกนโยบายฟอกไตฟรี ก็เพราะตนมาที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งในขณะนั้น ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นครพนมมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะตอนที่อยู่กระทรวงสาธารณสุขตนเดินทางมาบ่อย
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านกลับไปบอกลูกบ้านทุกคน ว่าวันนี้โครงการคนละครึ่งพลัส ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีสิทธิประโยชน์มากกว่าเดิม และต้องมีการลงทะเบียน ดังนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องไปแจ้งลูกบ้านว่าต้องรีบลงทะเบียน ซึ่งจะใช้ได้วันละ 200 บาท เราเสีย 200 ซื้อของได้ 400 เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกมากรัฐบาลนี้มีเวลา 4 เดือนก็จริง แต่จะพยายามทำทุกอย่างที่สร้างรายได้ลดรายจ่ายให้พี่น้องประชาชน คนที่มีหนี้เยอะรัฐบาลจะช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท ให้ได้พักหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนอีกครั้ง ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยเอสเอ็มอีต่างๆ รัฐบาลจะเพิ่มสภาพคล่องให้ ซึ่งรัฐบาลทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันกับกระทรวงการคลัง จะใช้กลไกธนาคารที่กระทรวงการคลังกำกับดูแลอยู่ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ และจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำรายละไม่เกิน 1 ล้านบาทด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่งนายอนุทินได้สวมบทผู้นำสันทนาการนำร้องเพลง“หากว่าเรากำลังสบาย” สร้างความคึกครื้นระหว่างพบประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครพนม นายกรัฐมนตรีได้ใช้รถยนต์โตโยตาอัลพาร์ด ทะเบียน ขง 8889 กรุงเทพมหานคร ในการปฎิบัติภารกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี