วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ไม่ห่วง‘ทรัมป์’เสนอตัวคนกลาง 'หนู'เสียงแข็ง เขมรต้องปฏิบัติตาม4เงื่อนไข

ไม่ห่วง‘ทรัมป์’เสนอตัวคนกลาง 'หนู'เสียงแข็ง เขมรต้องปฏิบัติตาม4เงื่อนไข

วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : 'หนู'เสียงแข็ง ทหารกัมพูชาเริ่มขยับกำลัง แนวหน้าออนไลน์ ไม่ห่วง‘ทรัมป์’ ยันไทยพร้อมขึ้นโต๊ะเจรจา เสนอตัวคนกลาง อุ่นเครื่องรถถัง-ปรับฐานที่มั่น เขมรต้องปฏิบัติตาม4เงื่อนไข
  •  

ไม่ห่วง‘ทรัมป์’เสนอตัวคนกลาง
'หนู'เสียงแข็ง
เขมรต้องปฏิบัติตาม4เงื่อนไข
ยันไทยพร้อมขึ้นโต๊ะเจรจา
ทหารกัมพูชาเริ่มขยับกำลัง
อุ่นเครื่องรถถัง-ปรับฐานที่มั่น

“นายกฯหนู”มอง “ทรัมป์”เสนอเป็นตัวกลางหย่าศึก “ไทย-เขมร”เป็นเจตนาดี แต่คู่สัญญาต้องทำตาม 4 ข้อตกลง ถ้าทำได้ไทยจะเจรจาด้วย ปัดไม่เกี่ยว ชงโนเบลทรัมป์ ลั่น 10 ตค.ไม่ยอมให้ใครมาป่วน-รุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมใช้กม.เข้ม โฆษก ทร.ชี้สิ้นเดือนตค.ถนนชายแดนไทย-เขมรด้านโป่งน้ำร้อน เมืองจันท์เสร็จใช้เคลื่อนพลได้ ‘เขมร’ขยับแรง! ‘กองทัพภาคที่2’พบปรับฐานที่มั่น-เตรียมเส้นทางยุทธวิธี-อุ่นเครื่อง‘รถถัง’

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อต่างประเทศระบุนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเสนอเป็นตัวกลางลงนามสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชาว่า คนที่เข้ามาเป็นตัวกลางถือว่ามีเจตนาที่ดี แต่คู่สัญญาก็ต้องปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ทำข้อตกลงกันไว้ ที่ผ่านมาไทยเป็นฝ่ายถูกรุกราน ถูกกระทำก่อน ซึ่งไทยพูดออกไปชัดเจนแล้ว หากจะเจรจาต้องปฏิบัติตามข้อตกลงพื้นฐาน คือ การถอนกำลัง และอาวุธ การจัดการบุคคลที่มารุกรานประเทศไทย ให้ออกนอกเขตอธิปไตยของประเทศ และเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่เป็นอันตรายต่อประเทศไทยออกจากพื้นที่


ย้ำถ้าเขมรทำตามข้อตกลงไทยพร้อมเจรจา

“หากปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดประเทศไทยก็พร้อมจะเจรจา เพราะบ้านเราติดกัน ส่วนคนกลางอยู่ไกลคนละทวีป แต่หากสามารถโน้มน้าวให้ประเทศกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงเหล่านี้ได้ และเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยมั่นใจว่าจะไม่ถูกรุกราน ประเทศไทยจึงจะเริ่มเจรจาต่อไป”นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้กัมพูชาเสนอรางวัลโนเบลให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเป็นข้อได้เปรียบ และแฝงประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า สนใจเฉพาะประโยชน์ของประเทศไทย เรื่องอื่นใครจะได้รางวัลหรืออะไรก็แล้วแต่ หากปรากฏเป็นข่าวหรือรับรู้ เราก็ยินดีปรีดาด้วย แต่สิ่งนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่าต้องทำสิ่งนี้หรือทำสิ่งนี้ ย้ำว่าไม่มีแน่นอน

ลั่นไม่มีวันยอมให้เขมรล้ำอธิปไตย

ส่วนที่มีข้อกังวลว่าวันที่ 10 ตุลาคม เขมรจะขนคนเข้ามาเติมในพื้นที่ชายแดนจ.สระแก้ว นายอนุทิน ย้ำว่า เรามีกฎหมาย และประชุมเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว หากกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย แต่ไม่ต้องไปกำหนดวัน ประเทศไทยไม่มีวันยอมขอตอบสั้นๆ แบบนี้

ตร.เตรียมคฝ.พร้อมรับสถานการณ์

ด้านพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรด้านจ.สระแก้ววันที่ 10 ตุลาคมว่า ในส่วนตำรวจเตรียมกำลังพลควบคุมฝูงชนไว้เพื่อรองรับสถานการณ์แล้ว แต่ต้องรอคำสั่งจากทางทหารว่าจะให้ปฏิบัติอย่างไร เนื่องจากเป็นพื้นที่ประกาศเป็นกฎอัยการศึก โดยอำนาจของตำรวจแล้วดำเนินการได้ทั้งสองส่วนคือ ใช้มาตรการผลักดันหรือควบคุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งการดำเนินคดีใช้กฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวกับป่าไม้ แต่ในส่วนระหว่างการคุมตัวเพื่อดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับ จะเป็นการเพิ่มภาระที่พื้นที่ต้องรองรับและอาหาร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการแก้ไข

ผบ.ทร.ตรวจชายแดนจุดสร้างรั้ว

พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือกล่าวถึงกรณีพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ลงพื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด เพื่อติดตามสถานการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เป็นการเข้าไปเพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุด ทั้งด้านการข่าวและความพร้อมถ้าเกิดเหตุการณ์จำเป็นต้องใช้กำลัง อีกทั้ง ยังติดตามการแก้ปัญหารุกล้ำชายแดนบริเวณจันทบุรีและตราดในพื้นที่ 17 จุดที่เป็นประเด็น รวมถึงในจ.ตราดจากผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดและจันทบุรี เรื่องการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตย อย่างสิ่งปลูกสร้างสามหลัง การขุดคูเลต ป่ายาง และฐานที่มั่นทหาร โดยได้แก้ไขตามลำดับ เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งผบ.ทร.กำชับให้ดำเนินการต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายสูงสุดคือ ต้องการให้สิ่งที่รุกล้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่เส้นปฏิบัติการบนแผ่นดินไทย นอกจากนี้ ยังติดตามนโยบายตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในการติดตั้งรั้วแนวชายแดน โดยผบ.ทร.ลงพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 52-58 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดแรกที่มีรั้วได้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายให้ความยินยอมและมีปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งอะไรที่ทำได้ ก็ควรทำก่อน อีกทั้ง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ยังกำชับให้เร่งสำรวจและออกแบบว่ารั้วที่จะสร้างจะมีลักษณะเช่นไร เพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ สร้างความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่อุ่นใจและปลอดภัยในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังเป็นการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ ต้องตรึงกำลังส่วนหนึ่งไว้

เปิดใช้ถนนชายแดนเมืองจันท์ได้สิ้นตค.

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าการสร้างถนนชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยว่า อยู่บริเวณพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ใกล้ด่านบ้านแหลม ที่เกิดจากการลุกล้ำอธิปไตย ทั้งพื้นที่รูปตัวยูและพื้นที่รูปตัว ก. ซึ่งมีลักษณะเป็นจงอยยื่นเข้าไปฝั่งเขมร โดยฝ่ายตรงข้ามดัดแปลงภูมิประเทศ ขุดคูเลต เพื่อให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและตัดพื้นที่ส่วนที่เป็นจงอยออกไป จากที่ทหารไทยตรวจพบ จึงพยายามปรับภูมิประเทศให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการถมพื้นที่คู ซึ่งหลังประชาชนทราบก็ร่วมมือกับทหารใช้กำลังทรัพย์ เครื่องมือหนัก และแรงงานช่วยถมคู ให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นของไทยเหมือนเดิม พร้อมยังเล็งเห็นว่าในพื้นที่ตัวยูและพื้นที่ตัวก. เป็นพื้นที่ยากลำบากในการเข้าถึง และส่งกำลังบำรุง รวมไปถึงการดำเนินยุทธวิธี ทุกภาคส่วนจึงรวมตัวกันในการระดมทุน ผบ.ทร.จึงได้ขอบคุณประชาชนที่ยังช่วยงานราชการทหารในการสร้างถนน 15 กิโลเมตร ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 13 กิโลเมตร คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ ทหารสามารถ ใช้ถนนดังกล่าวเคลื่อนกำลังพลทางยุทธวิธีได้

ส่วนที่ประชาชนอาจไม่เข้าใจถึงการทำงานของกองทัพจนเกิดกระแสทางสังคมในหลายเรื่อง โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่ากองทัพเรือจะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ซึ่งเรามีอำนาจและหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย จึงขอให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว

ผบ.ทสส.ตรวจฐานภูมะเขือ

วันเดียวกัน พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ โดยเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการชายแดนฟังรบรรยายสรุปภารกิจของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลการจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จากนั้นเดินทางไปฐานภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับทราบภารกิจของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กรมการสื่อสารทหาร หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และกอง 6 ศูนย์รักษาความปลอดภัย วางแผนแนวคิดการปฏิบัติของหน่วยต่อไปในอนาคต และให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตย ซึ่งผบ.ทสส.ย้ำผู้บังคับหน่วยดำรงความพร้อมของทรัพยากรที่มีอยู่ ให้รับมือต่อสถานการณ์อยู่เสมอ ภายใต้ความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ รวมทั้งต้องติดตามข้อมูลข่าวสารและผลการหารือในเวทีระดับต่างๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อนำมาขับเคลื่อนงานตามนโยบายให้มีประสิทธิภาพ และย้ำผู้บังคับหน่วยใส่ใจกำลังพล มาตรการพิทักษ์กำลังรบ ให้บรรลุเป้าหมายรักษาอธิปไตยความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

‘เขมร’ปรับฐานที่มั่น-เตรียมเส้นทางยุทธวิธี

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาประจำวันว่า ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา พบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย 2 ลำ , ตรวจพบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกทรายเต็มคัน คาดว่าเป็นการนำส่งฐานปฏิบัติการปรับปรุงที่มั่น , ตรวจพบการปรับปรุงซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคาใหม่โรงเก็บรถถัง, ตรวจพบกลุ่มควันสีขาวจับตัว เป็นก้อน 3 จุด คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องรถถังอยู่กับที่ นอกจากนี้ ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์จากฝั่งตรงข้าม บริเวณหน้าบังเกอร์ระยะห่างออกไปประมาณ 80 ม. ทางทิศตะวันตกของปราสาทตาเมือน คาดว่าเป็นการเสริมการตั้งรับและขยายแนวสังเกตการณ์ และเตรียมเส้นทางยุทธวิธี ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์

ยันต้องฉีกMOUทิ้ง-ครม.เคาะได้เลย

ที่รัฐสภา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลมีแนวคิดจัดทำประชามติการยกเลิก MOU 43 ว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) สามารถยกเลิก MOU 43 ได้ โดยอาศัยอนุสัญญาว่าด้วยไทย-ฝรั่งเศส 1969 มาตรา 60 ซึ่งระบุว่าการยกเลิกสนธิสัญญาจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำได้ทันที หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดละเมิดสนธิสัญญาอย่างร้ายแรง ดังนั้น ไทยต้องแสดงให้เห็นว่า ไทยถูกกระทำอย่างร้ายแรงช่วงที่ผ่านมา เช่น เหตุเขมรใช้อาวุธสงครามโจมตีไทย ก็อาศัยจังหวะใช้มติคณะรัฐมนตรีให้เร็ว ไม่จำเป็นต้องจัดประชามติ ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 ระบุ การยกเลิกสนธิสัญญาทำได้ โดยครม. แต่การ โยนให้ประชาชนออกเสียงประชามติในวันเลือกตั้ง เท่ากับว่ารัฐบาลไม่ตัดสินใจ และโยนภาระให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งผลประชามติก็ไม่ได้มีผลผูกพันการตัดสินใจของรัฐบาล หรือหากรัฐบาลจะเดินหน้าจัดการออกเสียงประชามติ ตนในฐานะผู้ไม่เห็นด้วยกับ MOU 43 จะรณรงค์ให้ดีที่สุด เพื่อให้ยกเลิก MOU43 ปกป้องอธิปไตย บีบให้กัมพูชาเข้าสู่กรอบการเจรจาใหม่ ที่เป็นธรรม และทันสมัย

ชี้เขตแดนไทยปักปันเสร็จตั้งแต่ร.5ไร้ปัญหา

นายปานเทพกล่าวต่อว่า ส่วนหากยกเลิก MOU 43 แล้ว จะใช้กลไกใดเจรจาระงับข้อพิพาทดินแดนไทย-เขมรนั้น เขตแดนไทยตกลงเสร็จตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 บริเวณช่องบกถึงช่องสะงำ จังหวัดอุบลราชธานีบริเวณขอบหน้าผา ซึ่งไม่มีเขตแดน และใช้หน้าผาเป็นสันปันน้ำ มองด้วยตาเปล่าก็ทราบ และจบไปนานแล้วตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่มาเปลี่ยนด้วย MOU43 รวมถึงแผนที่แนบ ทั้งที่ไม่ควรมีปัญหาแล้ว เพราะก่อนปี 2542 กลับไปถึงรัชกาลที่ 5 สยามและเขมรก็อยู่ได้โดยไม่มี MOU แม้แต่ฉบับเดียว แต่การมี MOU ตลอด25 ปีที่ผ่านมา เขมรรุกล้ำแผ่นดินไทยทุกพื้นที่ตามเขตชายแดน บริเวณสันปันน้ำ การใช้แผนที่ 1:200,000 ทำไทยเสียเปรียบ

ย้ำโอกาสนี้เหมาะเลิกMOU43ที่สุด

นายปานเทพยังกล่าวถึงข้อห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ตามที่ระบุใน MOU43 ว่า ไทยอาจใช้วิธีประท้วง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เขมรใช้พลเรือนนำหน้า อำพรางทหารอยู่ด้านหลัง รุกแผ่นดินไทย และอ้างว่า ไม่ผิดตาม MOU 43 ข้อ5 ซึ่งไทยนิ่งเฉย และบางส่วนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ จึงไม่มีคนไทยเข้าไปในพื้นที่ แต่เขมรกลับตัดไม้ ทำลายป่า และมีสิ่งปลูกสร้าง ตามแนวชายแดนไทย และตลอด 25 ปี เขมรรุกรานชายแดนไทยตลอด เมื่อไทยใช้กำลังปะทะ เขมรก็จะประท้วงว่า ผิดเงื่อนไขข้อ 8 ของ MOU43 ที่ต้องเจรจา ปรึกษาหารือด้วยสันติวิธี ซึ่งเป็นกับดัก 2 ชั้นของเขมร ทั้งรุกทางกายภาพ ที่หากไทยไม่ยินยอมก็จะพาไปเวทีโลก เพื่อยึดแผนที่ 1:200,000 ที่กัมพูชาได้เปรียบจากคดีเขาพระวิหาร และมีการระบุไว้ในเอกสารประกอบ MOU43 และหากไทยหลงประเด็น และปล่อยให้เขมรรุกล้ำแผ่นดินไทย เพื่อรอการตกลงเขตแดนและกัมพูชาถอยออกไป ก็ต้องระวังรัฐธรรมนูญมาตรา 2 ของเขมรที่ระบุอธิปไตยของเขมรเป็นไปตามแผนที่ 1:100,000 ซึ่งเป็นการทำรายละเอียดจากแผนที่ 1:200,000 หากใช้เวลานับจากนี้ สิ่งปลูกสร้างของเขมรจะมากขึ้น รวมถึงอาวุธ และความเสียหายจะมากตาม ดังนั้น โอกาสนี้จึงเหมาะยกเลิก MOU43 ที่สุดแล้ว และถอยออกมา แล้วใช้กลไกคณะกรรมาธิการ JBC ไทย-กัมพูชาจัดการ

ชี้ไทยสร้างรั้วชายแดนก็ผิดMOU

เมื่อถามว่า หากไม่มี MOU ฉบับดังกล่าว จะทำให้เขมรดึงเรื่องไปศาลโลกหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า จะดึงเรื่องไปได้อย่างไร ไทยถอนตัวจากสมาชิกศาลโลก ตั้งแต่ปี 2503 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2504 และคดีปราสาทเขาพระวิหารเป็นคดีสุดท้าย เชื่อว่าต่อให้ไม่มี MOU ก็ยังมีกรอบเจรจา เพราะก่อนมี MOU เรามี JBC ทำไมเวลานั้นถึงเจรจาได้ ซึ่งที่เขมรวางทุ่นระเบิด ยิงใส่คนไทย ก็ถือว่าผิดเอ็มโอยู เช่นเดียวกับไทย หากสร้างรั้วชายแดน ก็ผิดเอ็มโอยู ถ้าเราต้องการสร้างรั้ว โดยไม่ต้องละเมิดเอ็มโอยู เราต้องยกเลิก MOU แล้วมาเจรจาด้วยกลไก JBC, RBC และ GBC ต่างหาก

หนุนปิดด่านบีบเขมรเข้าโต๊ะเจรจา

ส่วนที่มีความกังวลว่าจะมีประเทศที่สามเข้ามาไกล่เกลี่ย นายปานเทพเชื่อว่า ไม่มีประเทศใดเข้ามาแทรกแซงได้ โดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอม เพราะเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องทวิภาคีที่นานาชาติคอยดูแค่ว่าอย่าปะทะด้วยความรุนแรง และอย่าเกินขอบเขต ส่วนการที่เขมรดึงสหรัฐฯเข้ามา เป็นเทคนิคของเขมร เราต้องยืนด้วยตัวเอง และอำนาจต่อรองของเราคือการปิดด่าน เพื่อกดดันทางเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และบังคับใช้กฎหมายไทยอย่างที่เราควรต้องใช้

อ้างบิ๊กเล็กยอมใช้JBCเคลียร์ปมหนองจาน

อีกด้าน มีความเคลื่อนไหวของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่โพสต์ข้อความประเด็นพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยยืนยันว่า เขตแดนพื้นที่ดังกล่าวเป็นเรื่องต้องเคลียร์ผ่านกลไก JBC เท่านั้น โดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม เองก็ลงนามแล้ว บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) นัดพิเศษ ครั้งที่ 1 ระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 68 ณ จังหวัดเกาะกง กัมพูชา โดย พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเขมร และ พล.อ.ณัฐพล รักษาการรมว.กลาโหมของไทย เวลานั้น บักทึกการประชุมระบุชัดเจนว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นบริหารจัดการชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้คณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) เป็นกลไกแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมกัน และเห็นพ้องนำเสนอเรื่องนี้ต่อการประชุม JBC ครั้งต่อไปเป็นวาระเร่งด่วน และทั้งสองฝ่ายมอบให้คณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) หารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องนี้ โดยสอดคล้องกับผลหารือภายใต้ JBC

ความล่าช้าในการประชุม JBC ซึ่งเดิมกำหนดไว้เดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ JBC ประจำประเทศไทย เขมรหวังว่าจะจัดการประชุม JBC เพื่อหารือเรื่องนี้เร็วๆนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'แม่เกตุ'ยอมรับทั้งน้ำตา! เป็นหนี้จริงลงทุน'หวย'ทำพัง ไม่เคยเข้าบ่อน แจงยิบเงินเดือน-รถเบนซ์

'ลิซ่า ลลิษา'ยืนหนึ่ง! ติดโผ'Best Dressed'ในแฟชั่นวีค ศิลปินเพียงคนเดียวใน'เคป๊อบ-ไทย'

‘วู้ดดี้’ สุดภูมิใจช่อง Life Dot คว้ารางวัล Thailand Influencer Awards 2025

'อ.จักษ์' สับพวก 'โลกสวย' ปมบ้านหนองจาน อย่ามัวอ้างสิทธิมนุษยชน ปกป้องเขมรบุกรุกผืนดินไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved