นายกฯ เผย “ทรัมป์” ส่งหนังสือเชิญไทยร่วมลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา จ่อตอบกลับ ยืนยันความพร้อม หากเขมรทำตาม 4 ข้อเสนอ ปัดไทยล่าช้าแก้ข้อพิพาท 2 ชาติ โยนกองทัพใช้กฎหมายจัดการสถานการณ์บ้านหนองจาน
วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 09.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงภารกิจการเดินทางต่างประเทศในเดือนนี้ว่า ได้นัดหมายกันว่าจะไปเยือนที่ประเทศลาวในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ เพราะมีหลายประเด็นที่จะต้องพูดคุยกัน และหลังจากนั้น จะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีโอกาสได้พบกับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราได้แจ้งเงื่อนไขของเราไปแล้ว 4 ข้อที่จะทำให้เกิดการพูดคุยต่อได้ ซึ่งขอให้ทางกัมพูชาได้ปฏิบัติ คือ การถอนอาวุธหนัก ให้ฝ่ายไทยไม่รู้สึกว่ามีอันตรายต่อประชาชน รวมถึงการถอนทุ่นระเบิดและเรื่องสแกนเมอร์ รวมถึงการจัดการในพื้นที่ที่คนของกัมพูชาเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เมื่อถามถึงเส้นตายการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วใน วันที่ 10 ตุลาคมนี้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีคำว่าเดทไลน์ เพราะจะต้องปฏิบัติก่อน ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอตัวเป็นประธานการลงนามสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้มีหนังสือมาที่ตน และตนกำลังจะทำหนังสือแจ้งกลับ เพื่อแสดงความจำนงในการที่จะเห็นทั้งสองประเทศสามารถเจรจาหาข้อยุติในข้อพิพาท ซึ่งตนจะส่งข้อความกลับไปว่าหากฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม 4 ข้อที่ฝ่ายไทยยื่นเสนอไป ไทยก็พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น เพราะ 4 ข้อนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ที่สำคัญมีความเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่าจะทันหรือไม่ เพราะทรัมป์ยื่นข้อตกลงว่าจะให้ไทยลงนามในสิ้นเดือนนี้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องไปถามกัมพูชา เราพร้อมปฎิบัติ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แค่โทรศัพท์สั่งให้ปฏิบัติ 4 ข้อ
เมื่อถามถึงข้อกล่าวอ้างว่าของนายกฯ กัมพูชา ที่ระบุการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัพูชา บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว มีความล้าช้า เพราะต้องผ่านที่ประชุม GBC ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ลงนาม นายกฯ กล่าวว่า ไทยไม่ได้ล่าช้า แต่ฝ่ายล่าช้าคือกัมพูชา และไทยเป็นผู้ถูกรุกราน เป็นผู้ถูกกระทำ ฉะนั้น คำว่าล่าช้าไม่มี
เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะต้องบริหารสถานการณ์ตรงนั้น ซึ่งได้มีการหารือกับฝ่ายกองทัพ กองทัพก็รับไปในเรื่องของการใช้กฎหมาย กฎอัยการศึกในการบริหารสถานการณ์ตรงนั้น ฝ่ายปกครองต้องร่วมกับตำรวจและกรมป่าไม้
เมื่อถามถึงการยกเลิกเอ็มโอยู 2543 และ 2544 นายอนุทิน กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ข้อดีข้อเสียการยกเลิกเอ็มโออยู่ 2543 และ 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องของทางสภาที่จะดำเนินการพิจารณาศึกษาอยู่ เราก็ฟัง เพราะทั้ง 2 สภา ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทีละประเด็น ถึงจะนำไปสู่จุดนั้น แต่ว่า 4 เดือนนี้อย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรยาวๆ 4 เดือนนี้เราต้องทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายให้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี