เชื่อกองทัพ-รัฐบาลเตรียมยุทธการเด็ดผลักดันกัมพูชารุกล้ำดินแดน ขอ ปชช.อดทนรอน้ำยาฝ่ายความมั่นคง 7 วัน ระบุเพื่อไทยเปลี่ยน “หัวหน้า” เท่ากับยกเครื่องพรรคจริง ชี้ “ท็อป”เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เป็นไปได้ถึง 80-90%
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเรียกร้องให้ประชาชนอดทนอดกลั้นกับการผลักดันกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยออกไป เพราะเชื่อว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงยังมีน้ำยาทางยุทธการ เพียงรอโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น
"ขอให้ประชาชนมีความอดทนกันพอสมควร เมื่อการขัดใจขัดความรู้สึกเกิดขึ้นในวันนี้ (10 ต.ค.) มากมาย แต่เชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพพูดไม่ได้นั้น จะไม่คิดอ่านอะไรกัน บ้างครั้ง 100 คำพูดก็ไม่เท่าหนึ่งการกระทำหรอก"
อีกทั้งกล่าวว่า มาตรการผลักดันกัมพูชาออกจากรุกล้ำดินแดนไทยนั้น เชื่อว่าภายใน 7 วันตั้งแต่ 10 ต.ค.นี้ ฝ่ายความมั่นคงเตรียมมาตรการเข้มข้นชนิดเห็นหน้าเห็นหลังไว้ทำยุทธการกันแล้ว เพราะถ้าไม่ทำอะไรประชาชนอาจมีความรู้สึกเชื่อมั่นรัฐบาลและกองทัพลดน้อยลงและจะเป็นปัญหาใหญ่ด้านอารมณ์ของคนไทย
ดังนั้น ถัดจากวันที่ 10 ต.ค.ไป นั้น รัฐบาลจะปล่อยให้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นภาระทางอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนไม่ได้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีอะไรเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ ที่จะเป็นภารกิจตามแผนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำหนดไว้ภายใน 7 วันต่อไปนี้ หากรัฐบาลไม่ทำอะไร ก็อาจล้มลงชนิดคาดไม่ถึงเช่นกัน
"ขอให้ประชาชนอดทนอดกลั้นกับยุทธการของฝ่ายความมั่นคง และประชาชนอย่าได้เข้าไปร่วมปฏิบัติภารกิจทางการทหาร ส่วนความรู้สึกและการแสดงออกด้วยความรักชาตินั้นเป็นหน้าที่ของประชาชน ของคนไทย ดังนั้น ขอให้ประชาชนแสดงออกทางอารมณ์อยู่ในพื้นที่ของไทย" นายจตุพร ย้ำ
ส่วนการยกเลิก MOU 43-44 นั้น แม้เป็นช่องทางการเจรจากัน แต่ไร้การปฏิบัติแล้วไทยจะกอด MOU 43-44 ไว้ทำไม เมื่อเกิดการละเมิดและไทยไม่สามารถรักษาบูรภาพดินแดนได้ จึงเป็นข้อตกลงที่ล้มเหลว ก็ต้องฉีกข้อตกลงนี้เสีย เพื่อให้เกิดการเจรจากันใหม่กับข้อตกลงใหม่
นายจตุพร กล่าวถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยว่า ในทางการเมืองกระแสนี้ไม่ใช่โคมลอย และมีความเป็นไปได้สูงถึง 80-90 % ซึ่งเท่ากับยกฐานะการเมืองให้นายวราวุธ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้านายสมศักดิ์ เทพสุทิน กับนายสุริยะ จึงรุ้งเรืองกิจ ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว นายสุริยะ มีโอกาสเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกคนหนึ่งได้ด้วย แต่ที่ผ่านมาทั้งสองคนนี้มักย้ายไปอยู่พรรคมีโอกาสเป็นรัฐบาลเสมอ
"ถ้าพรรคเพื่อไทยดึงนายวราวุธ (มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ) ไม่ได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้พรรค เพียงเป็นสีสรร อีกอย่างบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นครปฐมจะมาร่วมด้วยหรือไม่ ก็เป็นกระแสการเมืองให้ปั่นเล่นได้อีกแบบหนึ่ง"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยถ้าจะยกเครื่องพรรคใหม่กันจริงๆ แล้ว ไม่ควรออกมาเปิดตัวด้วยสภาพทำนองนี้ และโพเดียมพูดของหัวหน้าพรรคก็เป็นแค่กระถางต้นไม้สมัยใหม่เท่านั้น หากต้องการยกเครื่องกันจริงก็ต้องเปลี่ยนตั้งแต่หัวหน้าพรรคเลย เพราะอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นำพรรคไปสู่ความเสียหาย
"ถ้าจะยกเครื่องจริง อุ๊งอิ๊งต้องขอโทษประชาชนกรณีตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว และบริหารประเทศก็นำนโยบายหาเสียงมาปฏิบัติไม่ได้จริง จนกระทั่งมาถึงเรื่องไทย-กัมพูชา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องขอโทษประชาชน ส่วนเรื่องกับคนเสื้อแดงนั้น อะไรที่ประกาศแล้วทำไม่เป็นจริงต้องขอโทษเป็นที่สุด เพราะพวกเขาไปต่อสู้ให้ จนตาย บาดเจ็บ ติดคุกเป็นจำนวนมาก"
อีกทั้งกล่าวว่า ในทางการเมืองนับต่อนี้ไป พรรคเพื่อไทยไม่ง่ายที่จะกลับมายิ่งใหญ่ได้รับเลือกเป็นพรรคอันดับได้แล้ว โดยเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยจะได้รับเลือกน้อยลงกว่าเท่าตัวที่มีอยู่ขณะนี้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยอาจจะได้เสียง สส.เติบโตไปเป็นเท่าตัวเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี