มอง‘ไฟใต้’ผ่านมุมมอง‘สว.ไชยยงค์’ BRN วางแผน 3 ทำลาย ถึงเวลารัฐจริงจัง‘การข่าว-ซีลชายแดน’

มอง‘ไฟใต้’ผ่านมุมมอง‘สว.ไชยยงค์’ BRN วางแผน 3 ทำลาย ถึงเวลารัฐจริงจัง‘การข่าว-ซีลชายแดน’

วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 09.10 น.

มอง‘ไฟใต้’ผ่านมุมมอง‘สว.ไชยยงค์’ BRN วางแผน 3 ทำลาย ถึงเวลารัฐจริงจัง‘การข่าว-ซีลชายแดน’

12 ตุลาคม 2568 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ทหารฯ วุฒิสภา เปิดเผยว่า สถานการณ์ก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้มีความถี่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) คนใหม่หรือเก่า แต่เพราะ BRN ได้วางยุทธศาสตร์ไว้แล้ว 3 ข้อหลักที่นำมาปฏิบัติการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย BRN ยึด 3 ทำลาย


1.ทำลายสิ่งสาธารณูปโภคของรัฐ อาทิ วางเพลิงหรือวางระเบิด

2.ทำลายเศรษฐกิจทางตั้งทางอ้อม การวางเพลิงต่างๆ  ต่อไปอาจจะมีการวางระเบิดร้านค้าใหญ่ๆ ใน 7 หัวเมืองเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ กอ.รมน.ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ แต่เราป้องกันไม่ได้

3.ทำลายสัญลักษณ์ของรัฐไทย

นายไชยยงค์ กล่าวว่า วันนี้เมื่อรู้ว่าแผนของ BRN อยู่ตรงนี้ จะป้องกันอย่างไร ต้องรู้เขารู้เราคือรู้ว่า BRN จะก่อเหตุอะไร อย่างไร มาป้องกัน งานป้องกันของเราที่ล้มเหลวมาตลอด คือ งานการข่าว ยกตัวอย่างวางแผนข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก มาจากรัฐกลันตัน ปล้นร้านทองในบิ๊กซี ก่อนปล้นมีการวางแผน ประสานงานกับกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ประสานงานกับแนวร่วมที่เป็นแหล่งข่าว ก่อนปล้นหน่วยงานทหาร ตำรวจ ได้เบาะแสหรือไม่ ก็ไม่มี นี่คือความล้มเหลวที่ต้องมองให้ออกไปแก้

               นายไชยยงค์ กล่าวว่า วันนี้แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ พล.ท.นรธิป โพยนอก สั่งการให้มีการปฏิบัติการด้านการข่าว ให้มีการวิเคราะห์เชิงลึก เข้าถึงกลุ่มขบวนการมากขึ้น จุดนี้ถูกต้อง ตนเห็นว่าทุกแม่ทัพพูดเช่นนี้ แต่งานการข่าวไม่ดีขึ้นเลย เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้าใจ ทำมาแล้ว 21 ปีไม่ได้ผล เราต้องการซีลแนวชายแดนมาทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุ แต่ไม่เคยซีลแนวชายแดนได้เลย

นายไชยยงค์ กล่าวว่า เรื่องสร้างความเข้าใจ ตนถามว่าสร้างความเข้าใจกับใคร ต้องให้ชัด ถ้าสร้างความเข้ากับประชาชน ไม่ต้องพูด ถ้าตราบใดอำนาจของ BRN เข้มข้น ไม่ต้องไปสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะประชาชนเข้าใจทุกเรื่อง แต่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือเพราะเขาเกรงกลัวอิทธิพลของ BRN กองทัพภาคที่ 4 หรือ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไม่เข้าใจ เขาเข้าใจมากกว่าเรา แต่เขาอยู่เป็น ตราบใดอำนาจรัฐไม่มีการสถาปนาให้มีความเข้มข้น ไม่ต้องสร้างความเข้าใจ แต่เขาไม่มาเป็นพวกเรา สิ่งที่แม่ทัพภาคที่ 4 ต้องรู้ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา เกิดเหตุทุกครั้ง ก็มีการเข้มงวด แต่มีการเข้มงวดได้กี่วัน ก็ปล่อยเมื่อเกิดช่องว่างเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีก มันก็เหมือนเดิมอีก

นายไชยยงค์ กล่าวว่า ขบวนการติดอาวุธมีเสรีในการเคลื่อนไหว เราไม่สามารถรักษาพื้นได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าโจรจะก่อเหตุพื้นที่ตรงไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร สุดท้ายแม่ทัพภาคที่ 4 พูดเหมือนคนเดิม ให้ชุมชนผ่านสภาสันติสุข ให้ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน ถามว่าวันนี้ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนหรือ เมื่อทหารแต่ละหน่วยต้องรักษาหน่วยของตัวเอง ไม่ได้ไปดูแลประชาชน

“เพราะเป้าหมายของขบวนการไม่ใช่ประชาชน เป้าหมายของขบวนการคือเจ้าหน้าที่รัฐและเป้าหมาย 3 จุดต้องไปดูแล หรือควบคุม ต้องรู้เขารู้เรา ในเรื่องรู้เขาเราไม่รู้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปล้นทอง ในการวางระเบิดสวนขวัญเมือง วางระเบิดตู้เอทีเอ็ม มีคนในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตมันเกิดจากการเกียร์ว่างหน่วยงานของรัฐในพื้นที่หรือไม่ เกียร์ว่างคืออยู่เฉยๆ ให้ขบวนการมีเสรีในการทำงาน ส่วนจะลองของหรือไม่ไปคิดเอาเอง” นายไชยยงค์ กล่าว

นายไชยยงค์ฯ กล่าวว่า เพราะอยู่ในช่วงการโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ผบ.ฉก.ก็มีการเปลี่ยน หลายๆหน่วยในพื้นที่ก็มีการเปลี่ยน กว่าคนใหม่จะทำงานเข้ารูปเข้ารอย การที่จะได้รับความร่วมมือจากประชาชน เกิดช่องว่างเราจะอุดช่องว่างอย่างไร วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ก็ลงมาในพื้นที่ พูดเหมือนกัน คือ ให้มีการปฏิบัติการให้เข้มข้น ทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์เข้มข้น โจรรู้ ในระหว่างนี้จะไม่มีเหตุไม่น้อยกว่า 7 วัน หลังจาก 7 วันไปแล้ว สถานการณ์จะกลับมาเหมือนเดิมอีก มีช่องว่างให้โจรก่อเหตุได้อีก วัฏจักรของการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะวนเวียนอย่างนี้ ถ้าเราไม่มีนโยบายเอาชนะขบวนการก่อการร้ายที่แท้จริง วันนี้ยุทธศาสตร์ชนะ BRN คืออะไร ยังไม่มีคำตอบ

นายไชยยงค์ กล่าวว่า การตั้งหัวหน้าพูดคุยสันติสุข ถามว่าจะไปเจรจากับใคร ขบวนการในการเจรจามีป้ายหมายแล้วยัง หลังจากการแต่งตั้งแล้ว มีใครบ้าง เป้าหมายสำคัญคือเจรจากับใคร ถ้าเจรจากับคนที่มาเลเซียจัดตั้งมาก็ไม่ต้องไปเจรจา ให้ไปเจรจากับคนที่มีอำนาจของขบวนการ BRN คนที่มีอำนาจของ BRN มี 2-3 คน คือ

1.ประธานขบวนการ BRN

2.เลขาธิการขบวนการ BRN

3. ผู้นำจิตวิญญาณ BRN

หากเจรจาในพื้นที่เจรจาผู้นำกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้ว แต่จะเข้าถึงหรือไม่ หากเจรจาผิดตัวก็เหมือนกับเจรจาที่ผ่านมาไม่เกิดผลประโยชน์อะไร ครั้งนี้ต้องกำหนดการเจรจาให้ถูกต้อง ไปเจรจากับใคร ถ้าไม่ใช่ตัวจริงก็ไม่ต้องเจรจา เพราะเจรจาผิดตัวไปไม่เกิดประโยชน์อะไร ไฟใต้มันก็ไม่ดับ

นายไชยยงค์ กล่าวว่าตนในฐานะกรรมาธิการทหารฯ ขอแนะนำแม่ทัพภาคที่ 4 ว่างานบูรณาการในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ยังบูรณาการไม่จริง หน่วยงานที่ทำงานบูรณาการตามตัวหนังสือ การร่วมมือแท้จริงยังไม่เกิดขึ้น ทำอย่างไรเอาฝ่ายปกครองมาร่วมในการแก้ปัญหาดับไฟใต้ ฝ่ายปกครองเป็นส่วนสำคัญในการดับไฟใต้มากๆ ตนเชื่อว่าผู้นำท้องที่ท้องถิ่นรู้เรื่องทั้งหมดในพื้นที่ปกครอง ใครคือแนวร่วมในตำบลในหมู่บ้าน คนเป็นนายอำเภอต้องมีบทบาทรู้หน้าที่รักษาพื้นที่ งานการข่าวที่ดีที่สุดมาจากผู้นำท้องที่ หากผู้นำท้องที่ให้ความร่วมมืองานการข่าวกับหน่วยงานของรัฐ ตนคิดว่าไม่มีอะไรที่ไม่รู้ เราไม่ได้ใช้ฝ่ายปกครองมาทำหน้าที่ในการร่วมกันดับไฟใต้อย่างแท้จริง สังเกตอำเภอที่เกิดเหตุเยอะๆ มีการย้าย ผกก. นายอำเภอไม่เคยถูกย้าย ผบ.ฉก.ไม่เคยถูกย้าย ผู้ว่าฯมีบทบาทในการบูรณาการในเรื่องดับไฟใต้มากน้อยเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรีในฐานะรมว.มหาดไทยดูรายละเอียดและแก้ปัญหา

นายไชยยงค์ กล่าวว่า งานการข่าวมีแต่สั่งให้ทำเข้มข้น แล้วเงินในการทำการข่าว งบประมาณการข่าวมันถึงมือเจ้าหน้าที่การข่าวหรือไม่ มีการนินทาตลอดว่างบประมาณที่ใช้ในการทำข่าวตกในมือผู้ใหญ่ ตกในมือของ ผบ.พัน , ผบ.พล. ตกอยู่นายทหารสูงๆ ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มายังเจ้าหน้าที่การข่าว  ที่ทำหน้าที่การข่าวจริงๆ  ทั้งๆงานการข่าวคือหัวใจสำคัญ มีการจะเอาชนะหากการข่าวมืดบอด งานป้องกันก็สะเปะสะปะ ต่อให้ในพื้นที่มีด่านทุก 1 กิโลเมตร ด่านนั้นตั้งเกะกะการสัญจรจนกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจ

นายไชยยงค์ กล่าวว่า มีการพูดว่าเราซีลแนวชายแดนแม่น้ำสุไหงโก-ลก ได้ผล ทำให้ขบวนการนอกกฎหมายไม่สามารถจะค้าขายในระหว่าง 2 ประเทศได้ ทำให้ผลประโยชน์ที่ขบวนการมีอยู่หายไป ทำให้ BRN หันมาปล้นร้านทอง ตรงนี้เราพูดเข้าข้างตัวเอง เหตุการณ์ปล้นร้านทองในพื้นชายแดนภาคใต้ไม่ใช่เพิ่งเกิดที่สุไหงโก-ลก ครั้งแรก มันเกิดมาแล้ว 4-5 ครั้ง การปล้นร้านทองไม่ใช่ปัจจัยโจรไม่มีเงินแล้วมาปล้นร้านทอง การปล้นร้านทองต้องการทำลายเศรษฐกิจ การค้าในพื้นที่ ทำให้เศรษฐกิจในพื้นสุไหงโก-ลก ซบเซา คือ การทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ของ BRN

ทั้งนี้ ที่ตนกล้าพูดเพราะขบวนการค้าของเถื่อนตลอดลำน้ำสุไหงโก-ลก ยังอยู่ได้ทุกขบวนการ อาทิ ขบวนการยาเสพติดจากภาคต่างลงมา จ.นราธิวาส ขบวนการค้าคนเถื่อน ก็ยังมีการเอาคนเถื่อนพักไว้ที่ อ.แว้ง ตากใบ สุไหงโก-ลก ขนข้ามไปยังประเทศมาเลเซียอย่างสะดวกโยธิน การค้าน้ำมันเถื่อน บุหรี่เถื่อนยังมีอยู่ปกติ การปล้นทองทำให้กองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ได้เงินไปใช้ฟรีๆ โดยไม่เหนื่อย การปล้นทองนาทวีทำไมไม่พูดว่าโจรมันอดอยาก คุณไม่มีปัญญาซีลช่องทางธรรมชาติตลอดแนวแม่น้ำสุไหงโก-ลก ตั้งแต่ อ.แว้ง- อ.ตากใบ ไปบอกว่าโจรมันอดอยากจึงปล้นทอง หากเรามีปัญญาซีลช่องทางเข้าออก เราสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างน้อย 50%

“เมื่อมีการก่อเหตุร้ายทุกครั้ง โจรจะหนีไปหลบช่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มาจากเราซีลแนวชายแดนไม่ได้ผล งานการข่าวไม่ดีเลย โจรเข้ามาเมื่อไหร่ ปล้นเสร็จแล้วออกทางไหน ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านไม่มีความร่วมมือที่ดีและชัดเจน ทำให้เพื่อนบ้านให้พื้นที่ ที่อยู่อาศัยของขบวนการตั้งฐานที่มั่นแล้วมาก่อเหตุในสามจังหวัดของเรา” นายไชยยงค์ กล่าว

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top