“วราภัสร์”นำคณะกมธ.พัฒนาสังคมฯวุฒิสภา ลงพื้นที่เรือนจำกลางโคราช เพื่อติดตามการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง

“วราภัสร์”นำคณะกมธ.พัฒนาสังคมฯวุฒิสภา ลงพื้นที่เรือนจำกลางโคราช เพื่อติดตามการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 15.28 น.

“วราภัสร์”นำคณะกมธ.พัฒนาสังคมฯวุฒิสภา ลงพื้นที่"เรือนจำกลางโคราช" ติดตามการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง

 วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่เรือนจำกลางนครราชสีมา คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา นำโดย นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางลงพื้นที่เรือนจำกลางนครราชสีมา ติดตามการคุ้มครองสิทธิและการจัดสวัสดิการผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิง หญิงที่มีบุตร กลุ่มหลากหลาย ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งมาตรการฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังเพื่อกลับคืนสู่สังคม โดยมีนางสาวจันทร์จิรา หวังวรวัฒนากุล ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราช สีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ                   พร้อมรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเรือนจำกลางนครราชสีมา ว่าปัจจุบันมีผู้ต้องขังหญิง 425 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 9 คน ผู้พิการ 6 คน ผู้ป่วยจิตเวช 37 คน ผู้ต้องขังกินยาเป็นประจำ 53 คน และเด็กติดมารดา 4 คน โดยการดำเนินงานของเรือนจำเป็นเป็นไปตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ซึ่งครอบคลุมทั้งกระบวนการรับผู้ต้องขัง การตรวจค้น ชี้แจงระเบียบ และการจัดสวัสดิการพื้นฐาน รวมถึงการฟื้นฟูและพัฒนาทักษะอาชีพ ให้กับผู้ต้องขัง รวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โดยมีการเตรียมตัว 6 เดือนถึง 1 ปีก่อนพ้นโทษ การศึกษา เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ อันเป็นการลดโอกาสในการกระทำผิดซ้ำ พร้อมกันนี้ จะมีการติดตามดูแลหลังปล่อยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง  ส่วนปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่ควบคุมผู้ต้องขังจิตเวชร่วมกับผู้ต้องขังทั่วไป การขาดงบประมาณจัดหาของใช้จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังสูงอายุ หญิงและเด็ก เช่น นม แพมเพิร์ส ชุดชั้นใน ผ้าอนามัย เป็นต้น ปัญหาการปล่อยตัวผู้ต้องขังตามหมายศาลในช่วงเย็นซึ่งส่งผลให้ผู้พ้นโทษไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ทัน ปัญหาข้อจำกัดของผู้คุมที่จะต้องนำผู้ต้องขังที่เป็นคนพิการออกไปตรวจร่างกายเพื่อทำบัตรประจำตัวคนพิการ รวมถึงเด็กที่ติดมากับมารดา หรือเด็กที่ญาติไม่สามารถรับไปดูแลได้ ซึ่งคณะกรรมาธิการเห็นควรส่งเสริมความร่วมมือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนงบประมาณและสิ่งของจำเป็นในการดำเนินงาน รวมทั้งควรมีการพิจารณาหารือแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขังให้เหมาะสมและปลอดภัย


ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยและให้กำลังใจผู้ต้องขังหญิงในแดนหญิงจำนวนกว่า 400 คน พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมพื้นที่ภายในแดนหญิง ได้แก่ ห้องนอนผู้ต้องขัง ห้องแม่และเด็ก ห้องอเนกประสงค์ และห้องให้คำปรึกษา ซึ่งคณะกรรมาธิการจะได้นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top