วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ยื่นคำขาด‘ฮุน เซน’! โฆษกกลาโหมลั่นต้องทำตาม 4 เงื่อนไขก่อนขอ‘เปิดด่าน’ คาดรายได้หดทำพล่าน

ยื่นคำขาด‘ฮุน เซน’! โฆษกกลาโหมลั่นต้องทำตาม 4 เงื่อนไขก่อนขอ‘เปิดด่าน’ คาดรายได้หดทำพล่าน

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.18 น.

‘โฆษกกระทรวงกลาโหม’ไม่ชี้ชัด‘ฮุน เซน’กดดันไทยเปิดด่าน 20 ต.ค.นี้ เหตุสูญเสียรายได้หรือไม่ บอกให้ย้อนมองตัวเองก่อนขอเปิดด่าน ย้ำไทยมีจุดยืนต้องรับ 4 เงื่อนไข

15 ตุลาคม 2568 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงความเคลื่อนไหวของ “ฮุน เซน” กรณีกดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ตุลาคม นี้ ว่า โดยส่วนตัวไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นใดนอกเหนือจากเงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.ถอนอาวุธหนัก 2.เก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.ปราบปรามสแกมเมอร์ และ 4.บริหารจัดการพื้นที่ ชายแดนที่มีปัญหาตามข้อเสนอจากวงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา และต้องมีกลไกความร่วมมือมาพูดคุยกัน เพื่อให้ 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นรูปธรรมก่อนจึงค่อยไปคุยเรื่องอื่น โดยไทยพูดชัดเจนว่าหากจะมีการเจรจาใดๆทางกัมพูชาต้องยอมรับในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และมีผลเป็นที่น่าพึงพอใจจึงค่อยไปคุยในประเด็นอื่น


โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงข้อสังเกตกรณี “ฮุน เซน” อาจจะสูญเสียรายได้จึงพุ่งเป้ากดดันเรื่องการเปิดด่าน ว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องการสูญเสียรายได้ของทางกัมพูชา แต่คาดคะเนได้จากผลกระทบด้านการค้าตามแนวชายแดนที่สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านของไทย แต่ย้ำว่ามาตรการปิดด่านที่ไทยดำเนินการมีความเหมาะสม และเป็นการกดดันกัมพูชาในเชิงหลักสากล

“กัมพูชาก็ต้องย้อนมองตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน ก่อนที่จะออกมาพูดว่าขอเปิดด่าน เพราะขณะนี้ฝ่ายไทยยืนยันเป็นแนวทางเดียวกันหมด ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงระดับพื้นที่ว่าต้องยึดในเงื่อนไข 4 ข้อ ก่อนที่จะไปคุยเรื่องอื่น” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

ทั้งนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันในเงื่อนไข 4 ข้อว่า กัมพูชาต้องยอมรับเรื่องนี้ก่อน จึงจะนำไปสู่การเจรจา และในระดับพื้นที่ก็ย้ำในจุดยืนเดียวกันว่าจะต้องมีเรื่องของการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน เช่น เรื่องการเก็บกู้เพื่อระเบิด และจัดการชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย แต่ทางกัมพูชากลับไม่มีแผนปฏิบัติการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม

ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้แจ้งไปทางกัมพูชา เลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากกัมพูชายังไม่ได้ส่งแผนปฏิบัติการ

ส่วนท่าทีของโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชามองว่า ทางสหรัฐฯ มี ศักยภาพในการดำเนินการ และมีประเทศพันธมิตรต่างๆ ที่จะร่วมสนับสนุน ถือเป็นสิ่งที่ดีกับภูมิภาค และสะท้อนว่าสหรัฐฯ มีความห่วงใยในภูมิภาคนี้ ซึ่งหากมองในเรื่องของเจตนารมณ์ไม่ได้มองเฉพาะเรื่องของการรักษาสมดุลก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาไทยกัมพูชาคือการสร้างความสงบให้เกิดขึ้น โดยมองว่า ปัจจัยที่จะนำไปสู่การเจรจาได้ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเศรษฐกิจในประเทศของกัมพูชาเอง ขณะเดียวกันไทยก็ต้องการคลี่คลายความตึงเครียดตามตามแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิต โดยปกติสุขไม่ต้องหวาดกลัวหรือกังวลว่าจะเกิดการปะทะ ในพื้นที่ชายแดน

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top