'ศุภมาส'เน้นย้ำ! กรมประชาสัมพันธ์ต้องสื่อสารอย่าง'เข้าใจง่าย เข้าใจได้ และเข้าถึงใจ'

'ศุภมาส'เน้นย้ำ! กรมประชาสัมพันธ์ต้องสื่อสารอย่าง'เข้าใจง่าย เข้าใจได้ และเข้าถึงใจ'

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 17.14 น.

“ศุภมาส”เน้นย้ำ! กรมประชาสัมพันธ์ต้องสื่อสารอย่าง“เข้าใจง่าย เข้าใจได้ และเข้าถึงใจ” มอบ 4 ภารกิจหลัก สู่เป้าหมาย“สื่อของรัฐที่ประชาชนเชื่อถือและพึ่งพาได้”

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วย นางสาวพรพิมล ธรรมสาร ตรวจติดตามการดำเนินงานของกรมประชาสัมพันธ์ และมอบนโยบายการปฏิบัติงาน โดยมี นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ


นางสาวศุภมาส กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานสำคัญของรัฐบาลในฐานะ “สื่อของรัฐ” ที่ทำหน้าที่เป็นช่องทางความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชน เพื่อให้ข้อมูลและนโยบายของรัฐบาลเดินทางถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างเข้าใจ เข้าถึง และนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

“กลองดี ถ้าไม่ตี ก็ไม่ดัง นโยบายของรัฐบาลจะดีเพียงใด หากไม่มีการสื่อสาร ก็ไม่อาจไปถึงประชาชนได้ กรมประชาสัมพันธ์จึงต้องเป็นมือของรัฐบาล ที่ตีฆ้องร้องป่าวให้เสียงของรัฐดังก้องไปถึงทุกครัวเรือน” นางสาวศุภมาส กล่าว

นางสาวศุภมาส กล่าวเพิ่มเติมว่า สื่อมีเสรีภาพทางความคิด แต่ต้องมาพร้อม “ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม” เพราะสื่อมีอิทธิพลชี้นำสังคมได้ทั้งทางที่ถูกและผิด กรมประชาสัมพันธ์ต้องใช้พลังของสื่อสร้างความเข้าใจ ลดความเกลียดชัง และส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีในสังคม พร้อมยึดมั่นในภารกิจพิทักษ์สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นรากฐานของความมั่นคงของประเทศ

จากนั้น ได้มอบ 4 ภารกิจหลัก ให้กรมประชาสัมพันธ์เร่งขับเคลื่อน เพื่อยกระดับองค์กรสู่การเป็น “สื่อของรัฐที่ประชาชนเชื่อถือและพึ่งพาได้” ดังนี้

1. สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจนโยบายอย่างแท้จริง กรมประชาสัมพันธ์ต้องเป็น “สะพานเชื่อมระหว่างรัฐบาลกับประชาชน” โดยมุ่งอธิบายนโยบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย เห็นภาพชัด และทำให้ประชาชนรู้สึกว่า “รัฐบาลอยู่เคียงข้างประชาชน” พร้อมปรับรูปแบบการสื่อสารให้ทันสมัย เช่น การเล่าเรื่องราวของรัฐผ่านมุมมองของประชาชน เพื่อให้ “เข้าใจง่าย เข้าใจได้ และรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงจริง”

2. นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในการพัฒนางานสื่อสารภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์ต้องเป็น “สื่อที่ทันโลก ทันเวลา และทันสถานการณ์” โดยใช้เทคโนโลยีบริหารต้นทุนอย่างคุ้มค่า และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เช่น การใช้เครื่องมือ AI ในการผลิตและตรวจสอบข้อมูล การพัฒนาแพลตฟอร์ม PRDEE (พีอาร์ดี) ให้เป็น “ศูนย์กลางสื่อภาครัฐในยุคดิจิทัล” และการใช้ระบบ Social Listening เพื่อรับฟังเสียงของประชาชนและนำมาวิเคราะห์เชิงนโยบาย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมโครงการ “NBT Connext” ให้เป็นสำนักข่าวออนไลน์รุ่นใหม่ที่สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Facebook, YouTube, X และ TikTok

3. พัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยีและการสื่อสารยุคใหม่ บุคลากรคือหัวใจขององค์กร จำเป็นต้อง Upskill และ Reskill ทุกระดับ เพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยให้ “สถาบันพัฒนาการประชาสัมพันธ์” ร่วมมือกับ “สถาบันการศึกษา” และ “กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาความรู้ด้านสื่อ เทคโนโลยี และการสื่อสารให้กับบุคลากรภาครัฐ เอกชน และประชาชน

4. เปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับรัฐ กรมประชาสัมพันธ์ต้องเป็น “สื่อรัฐที่ฟังด้วยหัวใจ” เปิดพื้นที่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ติชม วิจารณ์ และสะท้อนเรื่องราวจากพื้นที่จริง เพื่อให้เสียงของประชาชนมีความหมาย และนำไปสู่การพัฒนานโยบายของประเทศอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

นางสาวศุภมาส กล่าวทิ้งท้ายว่า “ดิฉันเชื่อมั่นว่า กรมประชาสัมพันธ์จะเป็นสื่อที่เชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะหัวใจสำคัญของการเป็นสื่อของรัฐ คือ การทำให้นโยบายของรัฐบาลเดินทางถึงประชาชนอย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย และใช้ได้จริง ขณะเดียวกันต้องเป็นสื่อที่สะท้อนเสียงของประชาชนกลับสู่รัฐบาล เพื่อร่วมกันแก้ไขสิ่งที่ควรปรับ และต่อยอดสิ่งที่ดีให้ดียิ่งขึ้น โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุกภารกิจของเรา”

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top