สภาฯฉลุย! 280 เสียงเอกฉันท์ ไฟเขียว"ร่างกม.นิรโทษกรรม" เปิดทางบอร์ดฯทำแผนฟื้นฟู ส่งอัยการ-ศาล ยุติคดีใน"เยาวชน" ส่ง"วุฒิสภา"พิจารณาต่อ ด้าน"กมธ.ฯ"แจงถูกท้วงเอื้อบางกลุ่ม ยันทำร่างกฎหมายละเอียดรอบคอบแล้ว
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... ที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาด้วยความเรียบร้อย มติของเสียงข้างมากของสภาฯ ได้เห็นชอบตามที่ กมธ.เสนอ จนมาถึงร่างมาตรา 9/1 ที่ กมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ และปรับแก้ไขตามข้อหารือระหว่าง กมธ. ในช่วงพักการประชุม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธาน กมธ.ชี้แจงว่า เนื้อหาที่ปรับแก้ไข มีเพียงเล็กน้อย โดยยังยืนยันต่อหลักการที่กำหนดให้บรรดาการกระทำที่ไม่ได้รับการนิรโทษกรรม ถ้าผู้กระทำความผิดซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ไม่ว่าถูกดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ให้พิจารณาทำแผนแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูการกระทำความผิด แล้วส่งแผนพร้อมความเห็นไปยังพนักงานอัยการ เพื่อให้ใช้มาตรการและสั่งยุติคดี โดยไม่ต้องมีคำพิพากษา
“กมธ.เล็งเห็นการเปิดโอกาสให้กับเยาวชน แม้จะถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย แต่วันที่เกิดเหตุ อายุไม่ถึง 18 ปีถือว่า สภาฯ ควรพิจารณาและเห็นชอบร่วมกัน ทั้งนี้ ได้หารือกับหลายองค์กรและผู้รู้หลายคนไม่มีการขัดต่อหลักการของร่าง พ.ร.บ.ที่สภาฯรับหลักการในวาระแรก ทั้งนี้ ไม่ได้เขียนกฎหมายใหม่ หรือสร้างอำนาจให้ฝ่ายบริหารแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือมีอำนาจเหนือกว่าใช้ดุลยพินิจของฝ่ายตุลาการ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ พบว่า กมธ.เสียงข้างน้อย และ สส.ที่สนับสนุนการนิรโทษกรรมให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มองว่าเนื้อหาที่ กมธ.บัญญัตินั้นให้โอกาสกับเยาวชนน้อยเกินไป พร้อมกับเสนอแนะให้ปรับแก้ไขเพื่อให้รอบคอบ ว่า มาตรการใดที่อยากให้บังคับใช้ หรือเข้าไปสู่กระบวนการ
ขณะที่ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า กรณีที่ กมธ.แก้ไขนั้นถือเป็นการเลี่ยงบาลี และเลือกนิรโทษกรรมให้กับคนบางกลุ่มและเลือกทิ้งคนอีกกลุ่มหนึ่งไว้ข้างหลัง ทำให้นายณัฐวุฒิ ชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาเลี่ยงบาลี แต่ต้องการทำให้กฎหมายเดินหน้าและผ่านความเห็นชอบของ สว.เนื่องจากไม่มีเวลาแล้ว เหลือวันเดียวที่ต้องให้ผ่านและทำรายงานเพื่อส่งให้ สว.ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) เพื่อให้เข้าพิจารณาได้ทันสมัยประชุมนี้
“ผมเสนอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือกันและสร้างความชัดเจนในความเข้าใจตรงกันว่า เมื่อผ่านไปสู่ สว.แล้วจะพิจารณาผ่านไปได้ เพราะหากถูกส่งกลับมายังสภาฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกตีตก และหลายพันคนที่เข้าข่ายนิรโทษกรรมจะถูกตีตกไปด้วย” นายณัฐวุฒิ ชี้แจง
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ดี หากไปต่อไม่ได้ จะมีคำอธิบายกับคนจำนวนไม่น้อยอย่างไร และในร่างกฎหมายไม่ได้ทอดทิ้งผู้ที่กระทำผิดฐานอื่นๆ ตนคิดต่อไปด้วยว่าหากกฎหมายนี้ผ่าน โดยนิรโทษกรรมความผิดอื่นที่ถูกยกเว้นไว้ หากผมเป็นทนายจะนำไปยื่นปล่อยตัวชั่วคราว เพราะมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพราะรัฐสภาเห็นชอบร่างกฎหมาย หากตรวจสอบผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีที่ต้องคดี ที่มีได้ 20 คน โดยแบ่งเป็นอายุ 14 ปี 6 คน ที่เหลืออายุ 15 - 17 ปี ทั้งนี้ ไม่มีใครถูกจำขัง บางคนคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งถูกดำเนินการตามสิทธิของกฎหมาย บางคนอยู่ในระหว่างพิจารณาและเข้าเกณฑ์มาตรา 9/1 ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในมาตราดังกล่าวได้ใช้เวลาอภิปรายนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะลงมติตัดสิน โดยพบว่าเสียงข้างมากเห็นด้วยที่ กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่
จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณาบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ซึ่ง กมธ.แก้ไขเพิ่มคดีความผิดรวม 34 กรณี ซึ่งรวมถึง คดีสำคัญทางการเมือง อาทิ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 124 ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และสว. ส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง การเลือกตั้งไม่เป็นธรรม และคุณสมบัติอันเป็นเท็จ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ความผิดตามประกาศและคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกาศและคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และประกาศและคำสั่งหัวหน้า คสช.เป็นต้น
ทั้งนี้ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายให้ตัดบัญชีแนบทางออก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา อย่างไรก็ดี นายนิกร จำนง กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า การพิจารณาของ กมธ.มีประเด็นเพิ่มเติมได้ คนที่โดนคดีเสนอเองและพิจารณาเติมให้ มีบางประเด็นที่ทักท้วงกรณีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จึงพิจารณาเว้นคดีที่โกงเลือกตั้ง เท่าที่ทำมาละเอียดที่สุดและใช้เวลาพิจารณาครอบคลุมที่สุด หากจะมีปัญหาหรือผิดพลาด 0.01% อาจจะมีขึ้นได้ แต่บุคคลที่โดนคดีพยายามติดต่อให้ความเห็นมา ในนาม กมธ.ทำดีที่สุดแล้วละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว
ขณะที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอให้เพิ่มต่อท้ายด้วยประโยคว่า “รวมถึงคดีมาตราอื่นที่เป็นคดีการชุมนุมทางการเมืองหรือแสดงออกทางการเมืองที่ไม่กล่าวตามบัญชีแนบท้ายนี้” อย่างไรก็ดี นายนิกร ชี้แจงว่า หากเขียนปลายเปิด เหมือนตีเช็คเปล่าอาจเกิดผลเสียมากกว่า จึงยืนยันตามการพิจารณาของ กมธ.
จากนั้นในเวลา 18.53 น.ที่ประชุมได้ลงมติร่าง พ.ร.บ.ฯ สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ ในวาระ 3 ว่าจะเห็นชอบทั้งฉบับหรือไม่ โดยมติที่ประชุม 280 เสียงต่อ 0 เห็นชอบร่างฯ ทั้งฉบับ งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 โดยขั้นตอนจากนี้จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป จากนั้นประธานฯ ได้สั่งปิดประชุมในเวลา 19.03 น.
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี