วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) สมัยที่ 151 ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้พิจารณาร่างญัตติว่าด้วยอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติและอาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เสนอผู้แทนรัฐสภาไทยและชาติพันธมิตร โดยขอให้บรรจุเป็น "วาระเร่งด่วน" ในระเบียบวาระการประชุมใหญ่ของ IPU
ผลการลงคะแนนของชาติสมาชิก IPU กว่า 100 ประเทศ ปรากฏว่าได้รับเสียงสนับสนุนเกิน 2 ใน 3 ของที่ประชุมฯ จึงได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน เพียงเรื่องเดียวในปีนี้
สำหรับการประชุม IPU ปีนี้มีวาระการโหวต 2 หัวข้อ ได้แก่
1. ร่างมติเรื่องการดำเนินการของรัฐสภา เพื่อต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ ภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเสนอโดยรัฐสภาไทย, อาร์เจนตินา, ชิลี, โปแลนด์และสวีเดน ได้รับการสนับสนุนจากประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา แคริบเบียน และกลุ่มทวินพลัส ซึ่งผลการลงคะแนนของประเทศสมาชิก ได้คะแนนเสียงเห็นด้วย 850 เสียง และไม่เห็นด้วย 200 เสียง
2. ร่างมติเรื่องเรียกร้องให้รัฐสภาแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และประสานงานดำเนินการเกี่ยวกับมาดากัสการ์ เสนอโดยประเทศแอฟริกาใต้ ในนามกลุ่มแอฟริกา ซึ่งผลการลงคะแนนของชาติสมาชิก ได้คะแนนเสียงเห็นด้วย 743 เสียง ไม่เห็นด้วย 158 เสียง
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทยที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU ครั้งที่ 151 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดใจถึงกรณีที่ร่างข้อมติของไทยว่าด้วยการปราบปรามสแกมเมอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ชนะโหวตในวงประชุมใหญ่ IPU ได้รับการบรรจุเป็น “วาระเร่งด่วน ” หรือ Emergency item ครั้งประวัติศาสตร์
โดย นายรังสิมันต์ ระบุว่า แม้จะได้รับความร่วมมือที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะจากประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แต่การจะชนะโหวตด้วยคะแนน 2 ใน 3 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
นายรังสิมันต์ อธิบายว่า ความยากเป็นเพราะคะแนนจากกลุ่มประเทศที่แบ่งกันตามภูมิภาค เช่น แอฟริกา ละตินอเมริกา และยุโรป แต่ละกลุ่มมีคะแนนรวมกันสูงมาก โดยเฉพาะยุโรปที่มีคะแนนมากที่สุด ไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเจรจากับประเทศต่างๆ เหล่านั้น เพื่อขอการสนับสนุน
“ต้องขอขอบคุณประเทศออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยอย่างแข็งขัน ช่วยเป็นตัวเชื่อมให้ไทยได้คุยกับกลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะโปแลนด์ที่ทำหน้าที่เชื่อมไทยกับประเทศในยุโรปชาติอื่น ๆ อีก เช่น สวีเดน และยังรวมถึงละตินอเมริกาด้วย”
นายรังสิมันต์ เล่าถึงจุดพลิกเกมที่ทำให้ร่างข้อมติของไทยกลายเป็นร่างที่ได้เปรียบ และชนะโหวตในที่สุด
“เบื้องต้นไทยโฟกัสเฉพาะเรื่องศูนย์กลางสแกมเมอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนเท่านั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่าการจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ ต้องมีการเจรจาและสอบถามความต้องการของเพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ ด้วย และเราพบว่ากลุ่มประเทศละตินอเมริกาและยุโรปต้องการผลักดันเรื่อง 'อาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ' และ 'ขบวนการค้ายาเสพติด' ซึ่งเมื่อทีมรัฐสภาไทยนำมาพิจารณาแล้ว ก็พบว่าเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของไทยด้วยเช่นกัน จึงนำประเด็นความต้องการเหล่านี้มารวมกันกับของไทย และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด”
“ทีมเลขาฯของรัฐสภาก็ร่วมทำงานด้วยกันจนดึกดื่นทุกคืน ต้องพูดคุยเจรจา เพราะการจะนำ 3 เรื่องจาก 3 ทวีปมารวมกันเป็นข้อมติเดียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถึงแม้จะมีหัวข้อใหญ่เดียวกัน แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกันมาก”
“แต่ข้อดีก็คือ เมื่อร่างข้อมตินี้ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 และได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน เมื่อถึงในชั้นของกรรมาธิการยกร่าง คงจะทำงานกันง่ายขึ้น เพราะเหมือนกับได้ทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว”
นายรังสิมันต์ ยังตั้งข้อสังเกตถึงท่าทีของกัมพูชา ว่า “หายไปไหน ทำไมไม่มาโหวต” ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็พูดทำนองว่าจะไม่คัดค้าน แต่ท้ายที่สุดก็หายไป ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการทำงานเรื่องสแกมเมอร์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ
นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นร่างข้อมติเพื่อเสนอเป็น “วาระเร่งด่วน” หรือ Emergency item ร่างแรกที่เสนอโดยประเทศไทย แล้วผ่านเข้าสู่เวทีใหญ่ IPU ได้สำเร็จ และยังถือว่าได้คะแนนโหวตสูงมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าได้ประมาณ 700 คะแนนก็มากแล้ว แต่คะแนนออกมาได้ไปมากกว่า 800 คะแนน
โอกาสนี้ นายรังสิมันต์ ยังได้กล่าวขอบคุณ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และทีมสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาทุกคนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี