"3 สมาคมอนุรักษ์ฯ"ผนึกยื่น"กมธ.ที่ดินฯ" ค้านแหลก"ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้านที่ดิน" หวั่นเปิดช่อง"นายทุน"ฮุบป่า ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ-กระทบยุทธศาสตร์ชาติป่าไม้ จี้ถอนหรือยุติการพิจารณา ด้าน"พูนศักดิ์"ยันร่างกฎหมายมีเป้าช่วยผู้ยากไร้ รับบางมาตราน่ากังวล พร้อมรับฟังข้อเสนอทุกฝ่ายรอบด้าน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายพสิษฐ์ เอี๋ยวพานิช นายกสมาคมอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อุชุกร ทรงวรัชญ์ เลขาธิการภาคเครือข่ายรักประเทศไทย และตัวแทนสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ ยื่นหนังสือขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. .... ต่อ นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า พวกตนเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้เสนอโดยพรรคประชาชน และนำไปเป็นนโยบายของพรรคด้วย ซึ่งถือเป็นความห่วงใยที่ดี และขอชื่นชมที่เป็นห่วงเป็นใยต่อราษฎร และจากที่ดูหลักการและเหตุผลแล้วเหมือนจะเน้นไปที่ผู้ยากไร้ ผู้ที่ประกาศกฎหมายที่ดินไปทับที่ดินที่ทำกินอยู่ก่อน แต่เมื่อดูจากรายมาตราโดยเฉพาะมาตรา 5 และ 6 แล้วเรามีความห่วงใยอย่างยิ่ง เพราะมีใช้คำว่า “บุคคล” หากมีการกำหนดคำนิยามว่า “เป็นผู้ยากไร้” ก็จะ สามารถแยกกลุ่มออกมาได้
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่าตนไม่ได้มาคัดค้านเสียทีเดียว แต่ห่วงว่าจะเกิดกลุ่มพวกนายทุน หรือพวกที่ไม่หวังดีกับทรัพยากรธรรมชาติเข้ามาครอบครอง เพราะมีบทเรียนมาแล้วมากมาย นอกจากนี้ยังจะมีการนิรโทษกรรมทะลุซอย เพราะกำหนดเริ่มตั้งแต่พ.ศ.2497 ก่อนประกาศใช้กฎหมายฉบับนั้น และมาถึงปัจจุบันด้วย และที่อันตรายที่สุดคือไปถึงอนาคตจนกว่าร่างนี้จะประกาศใช้ ซึ่งยังไม่รู้อีกกี่เดือน ขณะนี้จะเห็นว่าประชาชนเริ่มมีการบุกรุกเพราะเขาหวังว่าแม้จะถูกจับก็อาจได้ที่ดินนี้ เพราะจะมีการนิรโทษกรรมยกเว้นความผิด และที่อันตรายต่อมาคือเมื่อนิรโทษกรรมแล้วสามารถกลับไปอยู่ในที่ดินที่เขาถูกจับกุมและได้สิทธิ์นั้น รวมถึงเครือข่ายครอบครัวเต็มที่ พวกตนจึงรับไม่ได้จริงๆ และมีความห่วงใยอย่างยิ่ง
นายพสิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เนื้อหาในร่างยังจะไปก้าวก่ายอำนาจของศาล เพราะแม้แต่คนที่อยู่ระหว่างการสอบสวนคดีเก่า รวมถึงในอนาคตก็มีการนิรโทษกรรมยกเว้นความผิดหมด และยังห่วงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญแน่นอนโดยที่ผ่านมาเราได้เรื่องไปยังประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และประธานกรรมธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา และยังเฝ้าดูว่าหากร่างนี้ผ่านสภาวาระ 2 และ 3 และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ทาง 3 เครือข่ายจะต่อต้านและบอกกับประชาชนว่าร่างนี้เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
“หากท่านเป็นห่วงราษฎรยากไร้ในการทำกิน เรากล้าบอกได้เลยว่าสมาคมเรามีที่ดินที่พร้อมจะเยียวยาให้อย่างเป็นระบบ ที่จังหวัดน่าน 1 พันกว่าไร่ จากที่ได้ทำโครงการคืนพื้นที่ป่า เรายินดีที่จะรับราษฎรที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการถูกนโยบายรัฐประกาศทับที่ดิน พร้อมที่จะมาร่วมมือให้ปลูกไม้เศรษฐกิจ จึงขอให้ถอนร่างหรือพิจารณายุติเรื่องนี้”
นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้ยังขัดแย้งกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติหรือยุทธศาสตร์ชาติ เรื่องนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่เราต้องมีป่าไม้น้อยกว่า 40% ตอนนี้เราเหลือป่าเพียง 100 ล้านไร่ ขาดอีก 28 ล้านไร่ ดังนั้นหากมีการใช้กฎหมายนี้เชื่อว่าจะไม่มีทางไปสู่เป้าหมายนั้นได้ จะเห็นว่าหน้าฝนดินโคลนถล่มซ้ำซาก หน้าแล้งควันพิษ การท่องเที่ยวพังพินาศ งบประมาณของรัฐส่วนใหญ่ก็ลงไปเรื่องของการเยียวยาช่วยเหลืออุทกภัย น้ำแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก หากมาช่วยฟื้นฟูในพื้นที่ภูเขาหัวโล้นทั้งหมด ทั้งชนกลุ่มน้อยหรือผู้ยากไร้ และพวกตนยินดีจะรับฟังอย่างเปิดกว้างและช่วยเหลือ และพร้อมที่จะเข้าร่วมในการทำงานไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา หรืออนุกรรมาธิการ โดยพร้อมจะให้ข้อมูลในทางที่เป็นประโยชน์ทุกด้าน
ด้าน นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า โอกาสดีที่ได้รับฟังความเห็นจากผู้แทนทั้ง 3 สมาคมยืนยันว่าเราต้องการจะนิโทษกรรมให้กับประชาชนที่ยากไร้ หรือเป็นบุคคลที่อยู่มาก่อนมีการประกาศเขตป่า แต่ตรงนี้ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ต่างๆ ตามที่กฏหมายระบุไว้ว่าทุกคนที่เข้าไปอยู่แล้วจะได้สิทธิ์นี้ แต่ต้องพิจารณารูปแบบหรือแนวทาง ในการจำแนกบุคคลว่าปี พ.ศ.ไหนจะเข้าสู่กระบวนการใด โดยทางชั้นกรรมาธิการกำลังพิจารณาอยู่ โดยจะนำความเห็นเหล่านี้ผนวกเข้ากับการพิจารณาของกรรมาธิวิสามัญ ขอให้สบายใจได้ว่าแนวทางของเราไม่ได้ต่างกัน เรื่องการอนุรักษ์พื้นที่ป่าเราก็มีแนวทางเช่นเดียวกับท่าน อยากให้มีพื้นที่ป่าในขนาดที่เหมาะสม ตัวเลข ณปัจจุบันตนมองว่าดีแล้ว แต่ทำอย่างไรถึงจะรักษาสภาพป่าตรงนี้ไว้ได้ในอีก 30 - 40 ปี ที่ผ่านมามีการพูดเรื่องนี้มานานถึงรูปแบบการรักษาป่า ตอนนี้เรากำลังพยายามใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเสริมเพื่อดูสภาพการทำลายของพื้นที่ป่าในปัจจุบัน หรือทำอย่างไรที่จะรู้ว่ากระบวนการทำลายป่าไม้ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รวดเร็วขึ้น
“คณะกรรมาธิการที่ดิน สภาฯ กำลังดำเนินการร่วมกับกรมป่าไม้ โดยประชุมร่วมกันหารูปแบบกลไกในการที่จะช่วยรักษาพื้นที่ป่า ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างพื้นที่อนุรักษ์ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าเหล่านี้หลังจากได้รับสิทธิ์ ในกรณีที่เขาไม่ได้มาแสดงตน ขณะเดียวกันหากอยู่หลังประกาศพื้นที่ป่าก็ต้องมีรูปแบบในการพิจารณาว่าต้องดำเนินการอย่างไร ส่วนเรื่องคดีความตนยืนยันได้เลยว่าไม่ได้มีประเด็นที่ว่าเราจะไปส่งผลถึงกับคดีความที่อยู่ในชั้นศาลต่างๆแต่อาจจะมีบางข้อที่มีความกังวล ซึ่งเราจะรวมความเห็นของพวกท่าน เพราะเราก็กังวลเหมือนกันว่ากฎหมายบางมาตรามีความไม่ชัดเจนที่อาจจะมีการตีความไปในรูปแบบอื่น หรือหากจะมีกลุ่มทุนได้รับผลประโยชน์ เราก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน” นายพูนศักดิ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี