เริ่มสร้างรั้วชายแดน จีบีซีตกลงสำรวจ'เส้นอ้างสิทธิ์'

เริ่มสร้างรั้วชายแดน จีบีซีตกลงสำรวจ'เส้นอ้างสิทธิ์'

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.55 น.

คำแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กห. ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 1000 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย

วันนี้ผมได้มาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา นำโดย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย


การประชุม GBC ในครั้งนี้ ประเทศไทยยังคงยืนหยัดในเงื่อนไขเดิม 4 ข้อ ได้แก่ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลการปราบปรามขบวนการ Cyber Scam และการจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

ผลของการประชุมในวันนี้ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยฝ่ายไทยได้ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ฝ่ายกัมพูชา ยึดถือปฏิบัติในประเด็นเดิม แต่มีการลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้หน่วยในพื้นที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งผมจะขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน ดังนี้

ประเด็นแรกการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ทั้งสองฝ่าย ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน หรือ TOR สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT และได้มีการลงนาม โดยผู้แทนของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ AOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan ที่ได้จัดทำร่วมกัน และมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ ๒ ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ ๔ ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งขั้นต้น จะหารือกันเพิ่มเติมในวันที่ ๒๕ ตุลาคมนี้ ทั้งนี้ การถอนอาวุธหนัก ออกจากพื้นที่ขัดแย้งมีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้างยากแก่การควบคุมตำบลกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่มิใช่เป้าหมาย  ทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น

ประเด็นที่สองเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งสองฝ่าย ได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน หรือ SOPสำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนด   เขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน หลังจากนี้ชุดประสานของทั้งสองฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือ TMAC ของฝ่ายไทย  ไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้งเมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน แต่ครั้งนี้เป็น ครั้งแรกที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ และต้องไม่นำเรื่องเขตแดนมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด

ประเด็นที่สามการปราบปรามขบวนการ Cyber Scam เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจาก ฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผน   ปฏิบัติการ หรือ Action plan เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทั้งสองฝ่าย จะจัดตั้งกำลังเฉพาะกิจร่วม หรือ Joint task force ภายในสองสัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ Cyber Scam ได้ต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่ามีขบวนการบางส่วนเดินทางไป-มา ระหว่างสองประเทศด้วยวิธีต่างๆ นอกจากนี้ ได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หลักฐานพยาน เหยื่อที่ถูกหลอกลวง และผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าขบวนการ Cyber Scamเป็นภัยคุกคาม ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลกตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนั้น แผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นนั้น จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทย และกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ ที่มีประชาชน   ของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการ Cyber Scam ด้วย

และประเด็นสุดท้ายเรื่องการจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ในจังหวัดสระแก้ว ตามข้อมูลขั้นต้นที่ได้รับจากการประชุมคณะกรรมาธิการ เขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งนำโดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีผลลัพธ์เชิงบวกสำคัญที่จะสามารถทำให้หน่วยในพื้นที่นำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตน ลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ หรือ Boundary Claim โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขต ที่ 42 ถึง 47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับ ฝ่ายไทยในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับกับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้นตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดิน ของทั้งสองฝ่ายได้ต่อไป ขอยืนยันว่าการวางหมุดชั่วคราวนี้เป็นเพียง เพื่อการสำรวจเท่านั้นจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยในเรื่องเขตแดน ทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดนในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้วโดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทยเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ

ทั้งหมดตามที่กล่าวมานั้นนับเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ที่เกิดขึ้นจากการประชุม GBC ในครั้งนี้ซึ่งยังคงมีรายละเอียด หลายเรื่องที่เราจะต้องร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไปฝ่ายไทยขอยืนยันว่าเราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่องตามที่กล่าวไปแล้วจึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกันดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ในครั้งนี้โดยเคร่งครัดเพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม ผมขอยืนยันในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมว่าจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน โดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นสำคัญ

ขอบคุณครับ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top