วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
รมว.กลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เตือน กัมพูชา หากบิดพริ้วไม่เริ่มถอนอาวุธหนักเก็บกู้ทุ่นระเบิดภายในสัปดาห์นี้ จะไม่มีการดำเนินการจากฝ่ายไทยยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน ขณะที่สหรัฐกดดันให้ไทย-กัมพูชาลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างประชุมASEAN SUMMIT สัปดาห์หน้า
จับตาฝ่ายความมั่นคงกัมพูชาจะร่วมผลักดันอย่างจริงจังหรือไม่ตามข้อตกลงชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกันในการประชุม GBC ไทย-กัมพูชาที่มาเลเซีย เมื่อวานนี้ ให้ กัมพูชาถอนอาวุธหนักและเก็บกู้ทุ่นระเบิดก่อนการประชุม ASEAN SUMMIT ที่มาเลเซียสัปดาห์หน้า หากยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมจากกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว จะไม่มีการลงนามใดๆในข้อตกลงร่วมที่รัฐบาลมาเลเซียและสหรัฐร่วมผลักดันให้ผู้นำไทย-กัมพูชาลงนามในข้อตกลงสันติภาพ
สื่อต่างประเทศรายงานตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อ้างการให้สัมภาษณ์ของรมต.ตปท.มาเลเซีย MOHAMAD BIN HASAN เปิดเผยนายกรัฐมนตรีไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และผู้นำกัมพูชา ฮุน มาเนต จะร่วมกันลงนามในข้อตกลงสันติภาพ PEACE AGREEMENT โดยมีปธน.สหรัฐ DONALD TRUMP ร่วมเป็นสักขีพยานระหว่างการประชุมASEAN SUMMIT 26-28 ต.ค. ขณะที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตแก้ว รมว.กต.กล่าวยอมรับในเรื่องนี้ว่า ผู้นำไทยและกัมพูชา.จะมีการลงนามร่วมกันใน"ประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา"ระหว่างการประชุม ASEAN SUMMIT พร้อมชี้แจงถึงความคืบหน้าในเรื่องเงื่อนไขสี่ข้อที่สามารถตกลงกันได้ในระดับหนึ่งในการประชุมGBC เมื่อวานนร้โดยมีแผนดําเนินการ และ กรอบเวลาที่ชัดเจน

รมว.กลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ กล่าวเมื่อวานนี้ หลังการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา.ที่มาเลเซียย้ำจุดยืนของรัฐบาลไทยต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงร่วมกัน ทั้งเรื่องถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และเรื่องจัดระเบียบชายแดนที่ จว.สระแก้ว พร้อมคาดการณ์หากรัฐบาลกัมพูชาดำเนินการอย่างจริงจังอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องการถอนอาวุธหนักและเก็บกู้ทุ่นระเบิดก่อนการประชุมที่มาเลเซีย "เราจะพิจารณาในเรื่องการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพชาได้แสดงความจริงใจ ในการปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ในครั้งนี้ โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันน่าสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ"
พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกันนั้น "จะต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังจากฝ่ายกัมพูชา หลังการประชุมครั้งนี้ก่อนมีการลงนามใน JOINT DECLARATION(คำประกาศร่วมกัน) การที่จะมีการดำเนินการไปสู่การยุติการเป็นปรปักษ์ต่อกันนั้น สิ่งที่ทาง GBC กำหนดไว้คือจะต้องมีการปฎิบัติทั้งสี่ข้อนี้อย่างเป็นรูปธรรม" พร้อมย้ำหากไม่มีการดำเนินการใดๆที่เป็นรูปธรรมก่อนการประชุมASEAN SUMMITในเรื่องถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด จากฝ่ายกัมพูชาก็จะไม่มีการลงนามในข้อตกลงใดๆกับฝ่ายกัมพูชาตามที่ได้มีการเตรียมการไว้
"การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับฟี่ น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนไหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธ ที่มีอํานาจการทําลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุมตําบลกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อ ชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่มิใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้าน เรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล" รมว.กลาโหมในตอนหนึ่งกล่าวระหว่างการแถลงข่าว

ผลการประชุมGBCไทย-กัมพูชาเมื่อวานนี้ได้ข้อยุติร่วมกันให้ผู้บัญชาการกองกำลังทั้งสองฝ่ายในพื้นที่ชายแดนของกองทัพภาค2 และกองกำลังภูมิภาคที่4ของกัมพูชาปรึกษาหารือกันในวันที่25 ต.ค.ให้เริ่มถอนอาวุธหนักจากพื้นที่ชายแดน โดยมีผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT)ร่วมสังเกตการณ์ในการถอนอาวุธหนักเพื่อลดความตึงเครียดและการเผชิญหน้าในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของฝ่ายไทย ในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในจว.สระแก้วให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมภายในวันที่ 25ต.ค.เช่นกัน ส่วนในเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ จะให้มีการจัดตั้งชุดปฎิบัติการร่วม (JOINT TASK FORCE)ของทั้งสองฝ่ายภายใน2สัปดาห์ เพื่อดำเนินการประสานการปฎิบัติในการปราบปรามร่วมกัน และเรื่องการจัดระเบียบชายแดนที่จว.สระแก้ว บริเวณหลักกม.ที่42-47 บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน ผลการประชุม JBC ที่จันทบุรีได้ข้อสรุปให้มีการลงสำรวจจัดทำหลักเขตร่วมกันในจุดที่มีปัญหา
พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงการประชุม GBC ในครั้งนี้ มีตัวแทนจากรัฐบาลมาเลเซียและสหรัฐร่วมเป็นสักขีพยานสังเกตการณ์ข้อตกลงที่มีการลงนามร่วมกัน ซึ่งได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ร่วมประชุมเพื่อป้องกันการบิดพริ้วจากฝ่ายกัมพูชาในการไม่ปฎิบัติตามข้อตกลง ที่ไทย-กัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงทั้งสี่ข้อตั้งแต่การประชุมGBCสมัยพิเศษครั้งที่1ที่เกาะกงกัมพูชาเมื่อวันที่10ก.ย.68 โดยมีการกำหนดกรอบเวลาให้ดำเนินการภายใน1เดือน แต่ตลอดช่วงเดือนเศษที่ผ่านมากัมพูชาบิดพริ้วไม่ยอมปฎิบัติตามข้อตกลงในทุกเรื่องที่ได้ตกลงร่วมกัน ฝ่ายไทยได้ร้องขอให้มาเลเซียและสหรัฐส่งตัวแทนร่วมสังเกตการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา ศึ่งการประชุม GBC วาระพิเศษครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่สโมสรนายทหารของกองทัพมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

ระหว่างร่วมสังเกตการณ์ประชุมที่มาเลเซีย "แนวหน้ามั่นคง"ได้สอบถามนายทหารความมั่นคงระดับสูงจนท.กระทรวงการต่างประเทศ และจากสภาความมั่นคงแห่งชาติถึงการลงนามที่จะมีขึ้นของผู้นำจากไทยและกัมพูชาระหว่างการประชุมASEAN SUMMIT ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียและสหรัฐต้องการให้เรียกข้อตกลงดังกล่าวว่า"ข้อตกลงสันติภาพ PEACE AGREEMENT" นั้น ฝ่ายความมั่นคงไทยและกระทรวงการต่างประเทศเห็นสอดคล้องกัน ไม่เห็นด้วยกับการใช้ชื่อเรียกข้อตกลงสันติภาพตามข้อเสนอของมาเลเซีย-สหรัฐ โดยเห็นว่าควรเลือกใช้คำที่มีความหมายเป็นกลางเช่นคำประกาศกัวลาลัมเปอร์ (KUALA LUMPUR DECLARATION) ว่าด้วยความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาหรือ ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ (KUALA LUMPUR ACCORD )
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี