‘นันทนา’โวย‘สว.เสียงข้างมาก’จ่อฟ้องปิดปาก ส่ง‘ป.ป.ช.’เชือดจริยธรรม ลั่นไม่ยอมศิโรราบ

‘นันทนา’โวย‘สว.เสียงข้างมาก’จ่อฟ้องปิดปาก ส่ง‘ป.ป.ช.’เชือดจริยธรรม ลั่นไม่ยอมศิโรราบ

วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.28 น.

‘นันทนา’โวย‘สว.เสียงข้างมาก’จ่อฟ้องปิดปาก ส่งให้‘ป.ป.ช.’เชือด ลั่นไม่ยอมศิโรราบ พร้อมต่อสู้ส่งเสียงเพื่อประชาชน ยันไม่ด้อยค่า‘สว.ขายหมู’ เจ้าตัวบอกภูมิใจในอาชีพ ถาม‘ผิดจริยธรรม’ตรงไหน ด้าน‘วุฒิพงศ์’มองเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ใช้จริยธรรมทำลายฝ่ายตรงข้าม ชี้ควรทบทวน โอดเหลือ‘สว.อิสระ’ไม่ถึง 20 คนแล้ว ยกคำเตือนสติ‘จุดจบแต่ละคนมาถึงแน่ ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่กฎแห่งกรรมต้องโดนทุกคน’

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ต.ค.68 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงถึงการฟ้องปิดปากในวุฒิสภา กรณีที่ในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.)จะมีการพิจารณารายงานผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจริยธรรมน.ส.นันทนา ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ว่า ตนในฐานะ สว. ที่ถูกฟ้องปิดปากในวุฒิสภา มีกำลังใจต่อสู้ เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลและความฉ้อฉลทั้งหมดในวุฒิสภาเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด วันนี้กลุ่มสว.อิสระจึงมาแสดงพลังเพื่อต่อต้านการฟ้องปิดปากในวุฒิสภา ในวันพรุ่งนี้วุฒิสภาได้บรรจุวาระเรื่องด่วนดังกล่าว และให้มีการลงมติการร้องเรียนจริยธรรมของตนเป็นวันสุดท้ายของสมัยการประชุมนี้


น.ส.นันทนา กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้มาร้องต่อคณะกรรมการจริยธรรมว่าตนมีพฤติกรรมเสียดสีด้อยค่า สว. ท่านหนึ่งโดยการให้สัมภาษณ์ว่า ตนถูกโหวตออกจากกรรมาธิการพัฒนาการเมืองโดยได้คนขายหมูเข้ามาเป็นกรรมาธิการจึงขอฟ้องประชาชนว่า กระบวนการคัดสรรผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในกรรมาธิการไม่ได้คำนึงถึงฐานประวัติกลุ่มอาชีพของผู้สมัคร สว. แต่ใช้เสียงข้างมากในการโหวต ซึ่งสิ่งที่ตนเรียกคนที่เข้ามาเป็นกรรมาธิการตามอาชีพของเขาว่าคนขายหมูนั้น เป็นการด้อยค่าตรงไหน เข้าข่ายผิดจริยธรรมตรงไหน และเรื่องนี้มีการไต่สวนในศาลอาญามาแล้ว ซึ่งทนายได้ซักค้านในศาลไปแล้ว ทางสว. ก็บอกว่าตัวเองมีความภาคภูมิใจในอาชีพนี้ และเมื่อตนเรียกว่าคนขายหมูไปด้อยค่าหรือผิดจริยธรรมตรงไหน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การกระทำที่วุฒิสภาโดยคณะกรรมการจริยธรรมนั้นได้พิจารณาตามหลักการที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเพียงแค่พูดว่าคนขายหมูแล้วมีผู้มาร้องก็กล่าวหาว่าตนผิดจริยธรรม จนจะมีการลงมติให้ตนมีความผิดเพื่อนำไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาต่อ

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่นที่ได้ร้องเรียนเข้าไปในกรรมการจริยธรรมชุดนี้ เช่น นายอลงกต วรกี สว. ร้องไห้ล้อเลียนในสภาฯ และที่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. อภิปรายกล่าวหาว่าตนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำโรคจิต ก็มีผู้ไปร้องเรียนแต่ถูกยกไปอย่างรวดเร็ว แต่กรณีของตนเป็นความผิดร้ายแรง ต้องมาลงมติในวันพรุ่งนี้ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ตนไม่ยอมศิโรราบเพราะตนเองถือว่าสิ่งที่ออกมาส่งเสียงให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฮั้ว สว. เขากระโดง รวมถึงการแต่งตั้งกรรมาธิการ การกระทำต่าง ๆ เป็นผลประโยชน์ที่ ตนต้องออกมาพูด ดังนั้นการกระทำของคณะกรรมการจริยธรรมถือเป็นการฟ้องปิดปาก หากใครที่มีท่าทีกระด่างกระเดื่องก็จะโดนเชือดเหมือนที่ตนโดน เราจะปล่อยให้สมาชิกวุฒิสภา ใช้พวกมากลากไปปิดประตูตีแมวกับสว.อิสระที่คิดต่างเช่นนั้นหรือ

“คณะกรรมการจริยธรรมมี 22 คน 15 คน ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้วสว.รวมทั้งประธานกรรมการ คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งดิฉันก็ได้ร้องคัดค้านไปว่า คณะกรรมการชุดนั้นเป็นคู่ขัดแย้งกับดิฉัน เพราะดิฉันร้องให้เขาหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เขาหยุดพิจารณาเรื่องของดิฉันให้เหลือ 7 คน เขาก็ไม่ยอมให้เขาพิจารณาเขาก็ไม่ยอมยัง ยังคงดำเนินการต่อไป ซึ่งชัดเจนว่า พยายามที่จะใช้เสียงข้างมากในการลงมาในการลงมติ และเรื่องนี้ดิฉันได้ร้องคัดค้านไปยัง ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์โดยชัดเจน คู่ที่มีความขัดแย้งกับดิฉันกลับมาพิจารณา แต่มาพิจารณาคดีของดิฉันระหว่างสอบสวน ดิฉันก็โดนกลั่นแกล้ง พาพยานมาให้ปากคำ แต่กลับไม่ให้พยานเข้าไปให้ปากคำ นี่คือการกลั่นแกล้งหรือไม่ และมีการ เก็บโทรศัพท์บอกว่าเป็น ประชุม ลับ ไม่ยอมให้ทนายเข้าไปด้วย คดีอาชญากรเมื่อเขาให้การยังต้องมีทนาย และดิฉันเป็นอาชญากรระดับไหนทนายถึงเข้าไปไม่ได้ นี่คือการปิดหูปิดตาประชาชนเป็นการปิดประตูตีแมว” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวว่า นี่เป็นที่มาไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเข้ามาอยู่ในระเบียบวาระของการประชุมวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ที่ประชุมลงมติว่าตนมีความผิด ถ้าใช้เสียงสว. 3 ใน 5 คือ 120 เสียงจะผ่านได้ฉลุย เพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีหัวสว.มี 130 กว่าคน และตนจะต้องถูกเชือดส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ

ด้านนายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ สว. กล่าวว่า ตนพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจริยธรรม ในหลักประชาธิปไตยเราเคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่ควรรักษาเสียงส่วนน้อยไปด้วย ไม่ใช่ใช้เสียงส่วนใหญ่ไปกำจัดเสียงส่วนน้อย โดยเฉพาะการใช้คำว่าจริยธรรมที่กว้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เห็นว่าหลายคนโดนคำว่าจริยธรรม และความผิดไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำจึงถูกตีความกว้างใหญ่ไปหมด จึงคิดว่าหากสังคมกำลังเพิกเฉยกับความอยุติธรรมแบบนี้ เราควรจะเป็นสังคมแบบที่มีความยุติธรรมที่แท้จริง เห็นถึงความถูกต้องไม่ใช่ถูกเสียงข้างมากลากไปอย่างเดียว

ส่วน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า การดำเนินการของวุฒิสภาไม่ได้เป็นอิสระอย่างที่ควรจะเป็นแต่มีการสั่งการจากบางจุด อาจเป็นบนเขาสักแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเห็นว่าควรมีการทบทวนเรื่องจริยธรรมเพื่อไม่ให้มีการใช้เรื่องนี้มารังแกกลั่นแกล้งการเมือง ยกตอนนี้ สว.อิสระเหลือเพียง 20 คน ซึ่งน่าเป็นห่วงต่อระบอบประชาธิปไตยของไทย ส่วนตัวได้เจริญภาวนาอนุสติทุกวัน เพราะจุดจบแต่ละคนมาถึงแน่ ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่กฎแห่งกรรมต้องโดนทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่น.ส.นันทนา และสว.อิสระแถลงข่าวมีประชาชนมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า ในนามประชาชนที่เป็น FC และติดตามผลงานมาตลอดเห็นว่าตัวนี้น.ส.นันทนา โดนกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่ทำเพื่อความโปร่งใสและความถูกต้องวันนี้ จึงอยากขอเป็นกำลังใจให้นางสาวนันทนาสู้ต่อไป สู้เพื่อประชาชนและเป็นสว.น้ำดีต่อไป

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top