แนวหน้าวิเคราะห์ : แหล่งแร่’แรร์เอิร์ธ’-สหรัฐสนใจ อยู่ในโซนไหนของประเทศไทย

แนวหน้าวิเคราะห์ : แหล่งแร่’แรร์เอิร์ธ’-สหรัฐสนใจ อยู่ในโซนไหนของประเทศไทย

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 07.00 น.

กำลังเป็นประเด็นสำคัญที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจ ภายหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ร่วมลงนาม“บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุที่มีความสำคัญในระดับโลก และการส่งเสริมการลงทุน”หรือMOU แร่แรร์เอิร์ธ โดยเว็บไชต์ทำเนียบขาวของสหรัฐ ได้เปิดเผยรายละเอียดฉบับเต็มของ“บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุที่มีความสำคัญในระดับโลกและการส่งเสริมการลงทุน”

ดังนั้นจะพาไปทำความรู้จัก แร่แรร์เอิร์ธ จากข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า แรร์เอิร์ธคือธาตุหายาก ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบต้นน้ำสำคัญยิ่งยวดในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงหลากประเภทของโลกปัจจุบันและอนาคต อาทิ ด้านโลหะผสม (metal alloy) ตัวเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมยานยนต์และปิโตรเคมี (catalyst&chemical process) อุตสาหกรรมเซรามิก/แก้ว (ceramics&glass) สารเรืองแสง (phosphors) เช่น หลอดแอลอีดี, หลอดฟลูออเรสเซนต์, การแสดงผลจอแบน เลเซอร์ แบตเตอรี่โซลิดสเตตแบบชาร์จไฟได้ (Ni-MH) ไฟเบอร์ออปติกและอื่นๆ นอกจากนี้ ธาตุหายากยังเป็นองค์ประกอบสําคัญในเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ เช่น เซลล์เชื้อเพลิงโซลิดสเตต (solid state fuel) ตัวนํายิ่งยวด (superconductors) การระบายความร้อนด้วยแม่เหล็ก (magnetic cooling) การกักเก็บไฮโดรเจน (hydrogen storage) และแม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูง (high performance permanent magnets) ซึ่งมีความสําคัญอย่างมากสำหรับเทคโนโลยีชั้นสูงต่างๆ เช่น กังหันลม (wind turbines) รถยนต์ไฮบริด (hybrid cars) ไปจนถึงไดรฟ์บันทึกข้อมูล (HD drives) ลําโพง และไมโครโฟนโทรศัพท์มือถือ โดยธาตุหายากแต่ละตัวมีการนำไปใช้ประโยชน์ที่หลากหลายแตกต่างกันไป


แม้จะเรียกธาตุหายาก (rare earth elements) แต่สามารถพบได้ในเนื้อหินเกือบทุกชนิดที่เป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก แหล่งแร่ที่ให้ธาตุหายากพบกระจายตัวทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ เช่น จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุทัยธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงาและสุราษฎร์ธานี

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีทรัพยากรแร่ที่นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ อีกมากมายในชีวิตประจำวันของเราตั้งแต่ผสมอยู่ในยาสีฟัน โถสุขภัณฑ์ จานชามเซรามิก โทรศัพท์มือถือ ยานยนต์ จนถึงโครงสร้างถนนหนทางและตึกสูงระฟ้า จากข้อมูลบัญชีทรัพยากรแร่ของไทย ปี พ.ศ.2566 ร้อยละ19 ของพื้นที่ประเทศไทยมีทรัพยากรแร่มากกว่า 40 ชนิด โดยชนิดทรัพยากรแร่ที่พบในปริมาณมากที่สุดเกือบร้อยละ60 ของทั้งประเทศ คือ เกลือหิน ที่กระจายอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย การสำรวจจุดค้นพบทรัพยากรแร่ที่สำคัญสามารถต่อยอดนำข้อมูลวิชาการเพื่อพัฒนาการสำรวจศึกษาทรัพยากรธรณีที่สำคัญอื่นๆ ในอนาคต

 ทั้งนี้ ข้อมูลประเทศผลิตแรร์เอิร์ธในโลกพบข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่า ในปี2024 มีการผลิตแร่แรร์เอิร์ธราว 390,000 ตัน REO (Tons of Rare Earth Oxides) ดังนี้ อันดับประเทศผลิตแรร์เอิร์ธ (ปี 2024) สำหรับในระดับโลก“ประเทศจีน” เป็นเจ้าตลาดแรร์เอิร์ธในระดับเกือบผูกขาด (near monopoly) โดยองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ประเมินว่า จีนครองสัดส่วนการผลิตแรร์เอิร์ธราว 61% ของทั้งโลก และ 92% ของการแปรรูป

จากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่า ในปี 2024 มีการผลิตแร่แรร์เอิร์ธราว 390,000 ตัน REO (Tons of Rare Earth Oxides) ดังนี้ อันดับประเทศผลิตแรร์เอิร์ธ (ปี 2024) จีน 270,000 ตันREO สหรัฐ 45,000 ตันREO เมียนมา 31,000ตันREO ไทย, ออสเตรเลีย, ไนจีเรีย เท่ากันที่ 13,000 ตัน REO อินเดีย 2,900 ตันREO ขณะที่ปริมาณแร่แรร์เอิร์ธสำรองของทั้งโลก อยู่ที่มากกว่า 90 ล้านตัน REO โดยประเทศไทยอยู่อันดับ 12 ที่ 4,500 ตัน REO โดย 5อันดับแรกคือ จีน 44,000,000 ตันREO บราซิล 21,000,000ตันREO อินเดีย 6,900,000 ตัน REO ออสเตรเลีย 5,700,000 ตันREO รัสเซีย 3,800,000ตันREO

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top