วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568
'ชยพล-รักชนก' เผยไร้คำตอบชัดเจน จาก 'ทบ.- กัน จอมพลัง' ปมเปิดรับบริจาค โวยขอเอกสารเป็น 10 รอบถูกปฏิเสธ ข้องใจโชว์เอกสาร 2 ใบ ของจริงหรือไม่ จี้ถามจัดซื้อ ‘ยุทโธปกรณ์’ เพื่อบริจาคถูกระเบียบหรือไม่ ชี้ไม่โปร่งใส อาจล็อกสเปค
30ต.ค.2568 ที่รัฐสภา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การบริหารทรัพยากรของกองทัพในเหตุการณ์ความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเชิญนายกัน จอมพลัง และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก มาให้ข้อมูล
โดยนายชยพล สท้อนดี สส.กทม พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกกมธ.การทหาร กล่าวว่า มีหลายคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และที่กรรมาธิการทหารมาคุยในเรื่องนี้เพราะสื่อสารไปในทิศทางที่ไม่เหมือนกัน ส่วนหนึ่งประชาชนที่หวังดีก็บอกว่ากองทัพขาดแคลน ในยุคทศกรที่สำคัญ แต่ทำกองทัพบอกว่าพร้อมทุกอย่างไม่มีอะไรเลยที่ขาดและไม่เคยขอ คุยพร้อมกันที่ต้องชวนทั้งสองฝากมาคุยพร้อมกันเพื่อให้เข้าใจสถานภาพของกองทัพว่ามีประสิทธิภาพพร้อมรบจริงหรือไม่ เพราะส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการของกองทัพในงบประมาณที่ให้ไปในแต่ละปีเหมาะสมหรือไม่ เราต้องการคำตอบอย่างตรงไปตรงมาจากกองทัพ แต่วันนี้อย่างที่ทุกคนได้เห็นคิดว่าน่าจะมีคำถามค้างคาใจหลายคนอยู่เพราะ คำตอบทั้งสองฝั่ง ยังไม่เหมือนกันอยู่ดี
ด้านน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวว่า นายกัน จอมพลัง มาสาย แล้วมีเวลาชี้แจงให้กรรมาธิการนิดเดียว โดยสิ่งที่ทางกรรมาธิการต้องการคือการให้นายกัน จอมพลัง ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์จากกองทัพมาทุกฉบับ ซึ่งนายกัน จอมพลัง ได้โชว์ให้เห็นเพียง 2 ฉบับและไม่ได้มีการส่งเอกสารตามมาภายหลัง ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ที่นายกัน จอมพลัง ระบุว่าไม่สะดวกที่จะส่งเอกสารให้ เพราะต้องไปสอบถามผู้ที่ส่งหนังสือต้นทางมาให้ก่อน จึงทำให้มีข้อสังเกตว่าเป็นหนังสือจริงหรือไม่ มีการปกปิดความจริงอะไร เมื่อกรรมาธิการสอบถามถึงการบริจาคนายกัน จอมพลัง พยายามเบี่ยงประเด็น ชวนลงพื้นที่ซึ่งกรรมาธิการเองได้ลงพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทและสู้รบมาก่อนแล้ว ซึ่งมองว่าไม่อยากให้เบี่ยงเบนประเด็น
น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า ส่วนเมื่อสอบถามไปยังกองทัพในการรับบริจาค จาก influencer รายอื่น ๆ ซึ่งกองทัพยืนยันว่าไม่ได้ขาดแคลนสิ่งของใด ๆ สิ่งของที่ได้รับบริจาคมารับมาเพราะว่าปฏิเสธไม่ได้ เมื่อสอบถามถึงหนังสือขอความอนุเคราะห์ โฆษกกองทัพบกก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ ว่าหน่วยในสังกัดของตนเองได้ขอความอนุเคราะห์มูลนิธิหรือไม่ ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงส่วนต่างของงบประมาณ เมื่องบประมาณถูกตั้งมาแล้วแต่กลับไปขอรับสนับสนุนจากการบริจาค นั่นหมายความว่างบที่ถูกต้องมาถูกนำไปใช้หรือหายไปไหน หรือถูกโยกไปที่ใด กองทัพจำเป็นต้องตอบคำถามเรื่องนี้
น.ส.รักชนก กล่าวว่า สำหรับมูลนิธิที่เปิดบริจาคโดยอ้างว่ากองทัพต้องการ ต้องแสดงหลักฐาน เพื่อให้รับรู้ว่าบริจาคสิ่งของอะไรให้กับกองทัพบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็นการแอบอ้าง กองทัพในการเรียกผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ แต่สำหรับในวันนี้ฝั่งของนายกัน จอมพลัง ไม่ตอบคำถามว่าได้รับหนังสือขอความอนุเคราะห์มากี่ฉบับ ซึ่งตนได้นำคำถามนี้ไปถามกองทัพทาง กองกำลังบูรพาบอกว่าไม่ได้มีการขอ ส่วนกองทัพภาคที่ 1 ไม่มีการตอบคำถาม เช่นเดียวกับโฆษกกองทัพบกด้วยเช่นกัน ที่ชี้แจงว่ายังไม่ได้เตรียมเอกสารมา ตั้งแต่ยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ขอ แต่หน่วยงานย่อยอาจจะขอ ซึ่งฟังแล้วว่าไม่ชัดเจนตามสามัญสำนึกฟังแล้วรู้สึกไม่โปร่งใส จึงทำให้เกิดส่วนต่างที่เป็นภาษีหรือเงินบริจาค
น.ส.รักชนก กล่าวว่า รู้แล้วว่าทำไมทหารชั้นผู้น้อยถึงมองนายกัน จอมพลัง เป็นฮีโร่ เพราะเนื่องจากบอกอะไรกองทัพไปก็ไม่ได้ นายพลระดับสูงไม่เคยพูดความจริงกับใคร แล้วเขาไม่สามารถส่งเสียงกลับมาได้ทำให้ขาดจึงต้องไปบอกเอกชน ตนคิดว่าต้องพูดคุยกันว่าจะปฏิรูปกองทัพอย่างไรเพื่อให้เดินหน้าได้อย่างเต็มกำลัง ขณะที่ตอนนี้จะตรวจสอบก็ตรวจสอบไม่ได้เพราะข้อมูลไม่เพียงพอ และไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขั้นตอนการซื้อยุทโธปกรณ์ที่หน่วยงานร้องขอประสานกับบริษัทผู้ผลิตโดยตรงซึ่งให้ทางนายกัน จอมพลัง เป็นผู้จ่ายเงินผิดปกติหรือไม่ นายชยพล กล่าวว่า ยอมรับว่ามีความผิดปกติ ซึ่งหน่วยงานที่ขออาศัยระเบียบข้อบังคับใดในการระบุซื้อของโดยตรงกับบริษัท ซื้อดาบเป็นแบบนี้ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง ก็จะมีช่องว่างที่ผิดปกติ โดยเฉพาะเอาช่องทางนี้ไปจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เป็นเรื่องที่ทางกรรมาธิการมีความกังวลขณะที่ทางกองทัพบกไม่มีความชัดเจนในการชี้แจงเรื่องนี้
ด้านน.ส.รักชนก กล่าวเสริมอีกว่า ตนตั้งข้อสังเกต ทั้งมูลนิธิและกองทัพปกปิดข้อมูลไม่ให้กรรมาธิการเข้าถึงเอกสาร แม้ว่าจะสอบถามเรื่องหนังสือหลายครั้งแต่ถูกปฏิเสธ หากการจัดซื้อไม่เกิดขึ้นจริงทางนายกัน จอมพลัง ต้องพิสูจน์มาว่าได้ใช้เงินในการบริจาคอย่างถูกต้อง เพราะขณะนี้ทั้งสองฝั่งให้ข้อมูลที่ต่างกัน ถ้าเชื่อข้อมูลของกองทัพ เรื่องที่นายกันจอมพลัง ซื้อของมานั้นไม่เป็นความจริง ถ้าเชื่อนายกัน จอมพลัง ก็แสดงว่ากองทัพไม่ได้พูดความจริง และการที่ในการจอมพลังเอา statement มาโชว์มีเพียงแค่รายรับแต่ไม่มีรายจ่าย แล้วยังไม่มีการเปิดเผยไฟล์ที่สามารถดูทางออนไลน์ได้ ทำให้ยังไม่รู้ว่ากองทัพขอให้ทำอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่นการซื้อยาง 40 เส้น 300,000 บาท แต่ต่อมานายกัน จอมพลัง ปฏิเสธว่าไม่ใช่เอกสารจริง รวมไปถึงการซื้อรถกระบะมือสองราคา 700,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว กลับพบว่าราคาเพียง 500,000 บาท ซึ่งเป็นรถปีการผลิตที่ใหม่กว่าด้วย
ทั้งนี้นายชยพล มองว่า ทางกองทัพเองอาจมีบริษัทและสเปคของยุทโธปกรณ์ไว้ในใจ รู้ว่าราคาเท่าไหร่ และมีบริษัทอยู่ในใจ และไปขอเงินและขอความสนับสนุนจากนายกัน จอมพลัง เพื่อให้มูลนิธินายกัน จอมพลัง โอนเงินตรงไปยังบริษัท แล้วก็ไม่มีหนังสือยืนยันว่าสามารถทำได้หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี