วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปล่อยโทรหลอกลวงวันละ96ล้านครั้ง
รองผบ.ตร.แฉยับ
จวกเละ‘ธนาคาร-กสทช.’ลอยตัว
ซัดคนเดียวถือซิมพันเบอร์
ไม่เร่งแก้ปัญหาสแกมเมอร์
รองผบ.ตร.ปูดข้อมูลกลางวง “กมธ.ตำรวจ” บางคนถือซิมมือถือกว่าพันเบอร์ จี้รัฐออกกฎหมาย “1 คน 1 เบอร์–1 อีแบงก์กิ้ง” สางแก้“สแกมเมอร์”เด็ดขาด อัด“ธนาคาร–กสทช.”ไม่รับผิดชอบปล่อยโทรหลอกวันละ 96 ล้านครั้ง ตัวเองลอยนวล โอดตำรวจกลายเป็นกระโถนท้องพระโรง‘ธรรมนัส’โดดป้อง ‘ชนนพัฒฐ์’ ถูกขุดคดีเก่า วอนอย่าเหมารวมทุกเรื่องเป็นแก๊งสแกมเมอร์โอดลูกวัย 7 ขวบ ยังโดนโทร.ตุ๋น
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ ซึ่งมีน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม ติดตามความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจ ภายหลังการบังคับใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการประชุม พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร.และอดีตผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ กล่าวถึงปัญหาสแกมเมอร์ว่าสาเหตุหลักอยู่ที่ 3 หน่วยงานสำคัญคือ ธนาคาร, กสทช.และตำรวจ แต่ประชาชนมักเข้าใจผิดว่าตำรวจต้องรับผิดชอบทั้งหมดทั้งที่เงินอยู่ในระบบธนาคารและโทรศัพท์มือถือของเหยื่อเอง
พล.ต.อ.กรไชย กล่าวต่อว่า เคยเสนอให้กำหนดกฎหมาย 1 คน 1 หมายเลข และ 1 บัญชีอีแบงก์กิ้ง เพื่อควบคุมการโอนเงินที่รวดเร็วเกินไป แต่ข้อเสนอนี้ยังไม่ถูกนำไปปฏิบัติ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกว่า 1 เบอร์มีแค่ 1 ธนาคาร แต่ของตนมีเบอร์เดียวกลับมี 3 ธนาคาร ปัจจุบันมีบุคคลธรรมดาถือครองหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เกิน 1,000 หมายเลขต่อคนโดยซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และพบว่า เด็กอายุเพียง 12 ปีก็สามารถเปิดบัญชีอีแบงก์กิ้งได้ และ กสทช.ไม่เคยกำหนดข้อจำกัด จึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ซิมและบัญชีม้าโอนเงินหลอกเหยื่อ โดยเฉพาะการใช้เครื่อง SIM BOXที่ตนเคยจับได้กว่า 200 เครื่องในปี 2565 เครื่องหนึ่งมี 32 ซิม โทร.ได้วันละ 16,000 ครั้ง เดือนละกว่า 4.8 แสนสายรวมทั้งหมดโทร.ได้กว่า 96 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักของแก๊งสแกมเมอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน คนที่ถือเบอร์ในไทยมีราว 40 ล้านคน แต่มีคนถูกหลอกกว่า 10 ล้านคน แค่โอนคนละพันบาทก็ทำเงินมหาศาลแล้ว ปัจจุบันสายโทร.หลอกลวงจำนวนมากถูกยิงสัญญาณจากประเทศเพื่อนบ้านไป-กลับหลายประเทศก่อนกลับเข้ามาไทยทำให้ติดตามหา IP ได้ยาก
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เคยเสนอให้ กสทช.จำกัด 1 คนมีได้ไม่เกิน 5 เบอร์ แต่ผ่านมา 10 ปีก็ยังไม่ดำเนินการ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายบังคับใช้จริง ไม่ใช่แค่ขอความร่วมมือเช่นกรณีประเทศสิงคโปร์ที่มีบทลงโทษชัดทำให้ไม่มีปัญหาสแกมเมอร์เหมือนไทย ส่วนธนาคาร ถือเป็นต้นทางของเงิน แต่กลับใช้เวลาตรวจสอบนาน 1–2 เดือน จึงรู้ปลายทางการโอนเงิน ทำให้ยากต่อการติดตาม เช่นกรณีเหยื่อถูกหลอกโอน 7 ล้านบาทในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที หากธนาคารรับแจ้งความได้ทันทีและ บล็อกบัญชี ได้เลย เงินก็ยังคงอยู่ในระบบ ที่ผ่านมาไม่มีการออกกฎหมายบังคับ จึงไม่มีความรับผิดชอบ
พล.ต.อ.กรไชย กล่าวว่า ธุรกรรมเล็กๆ เช่น ซื้อของในเกมออนไลน์ครั้งละ 31 บาท เมื่อรวมตลอดคืนอาจถึง20,000 บาท ทำให้ยอดความเสียหายทั้งระบบสูงถึงกว่า 300 ล้านบาท โดยที่ธนาคารไม่แจ้งความ เพราะมีระบบประกันคุ้มครอง บางคนไม่รู้ตัวเลยว่าถูกดูดเงินออกไปทั้งคืน ดังนั้นต้องออกกฎหมายบังคับให้ กสทช.และธนาคารร่วมมือกับตำรวจอย่างจริงจัง หากยังปล่อยให้ทุกอย่างพึ่งเพียงคำว่าขอความร่วมมือ สังคมไทยจะไม่มีวันหลุดพ้นจากปัญหาสแกมเมอร์
“ลองถามแต่ละบริษัทที่ให้บริการมือถือจะรู้ว่าที่ขายดีที่สุดคือซิมอินเตอร์เน็ต แต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยเพราะมันคือผลกำไร เขาไม่ได้มองความเดือดร้อนของประชาชนแต่มองที่กำไรเท่านั้น โดยไม่มีกฎหมายไปบังคับ เลยปล่อยให้เขาเล่นเอาเถิดกับรัฐบาลและประชาชน แล้วตัวเองออกมาเป็นฮีโร่ ขณะที่ตำรวจกลายเป็นเหยื่อแทน ส่วนคนที่ไปทำงานเป็นสแกมเมอร์แล้วบอกว่าโดนบังคับ ผมบอกได้เลยเดินมา 100 คน มี 99.8% เต็มใจทั้งนั้น ไม่มีใครบังคับหรอก” พล.ต.อ.กรไชย กล่าว
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกรณีนายชนนพัฒฐ์นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ถูกเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับเส้นเงินแก๊งสแกมเมอร์ ว่านายชนนพัฒฐ์ ได้ชี้แจงกรณีนี้แล้วว่าเป็นเรื่องเก่า เป็นคดีที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมแล้ว เราพูดมากไปก็ไม่ดี
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้สังคมไทยมองว่าทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์หมด แต่ต้องแยกแยะ เขาพยายามชี้ให้เห็นว่าเรื่องแก๊งสแกมเมอร์เป็นความผิดประเภทหนึ่ง ส่วนพนันออนไลน์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การค้ามนุษย์เป็นอีกประเภทหนึ่ง แต่ตอนนี้ผสมกันไปหมด อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นประชาชนจะสับสน ไม่มีใครสนับสนุนแก๊งสแกมเมอร์แน่นอน เพราะลามไปถึงครอบครัว ลูกชายตนอายุ 7 ขวบ แก๊งสแกมเมอร์ยังโทร.หา เรื่องนี้เป็นภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชนนพัฒฐ์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถือว่าบริสุทธิ์แล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ก่อนเข้าสู่การเมืองแล้ว ต้องเปิดโอกาสให้เขาชี้แจง ตนไปชี้แจงแทนเขาไม่ได้ แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ได้พูดคุยกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรค เรามีทีมกฎหมายอยู่แล้ว จึงต้องตรวจสอบผู้ที่จะลงสมัคร สส.เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบกับพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้หารือผู้บริหารพรรคแล้ว เรื่องนี้เป็นปกติที่จะมีกระแสโจมตี สส.หรือสมาชิกพรรค ตนได้สอบถามนายชนนพัฒฐ์ ก็บอกว่าให้ชี้แจงได้ แต่อย่าไปโต้วาที เราเป็นนักการเมือง ต้องพร้อมให้ตรวจสอบ ผิดก็ว่าไปตามผิด อันไหนถูกก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่ามีบางพรรคตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษขึ้นมาตรวจสอบพรรคต่างๆ เพื่อโจมตีหวังผลทางการเมือง ยืนยันว่าพรรคกล้าธรรม ไม่ทำแบบนั้น และสิ่งสำคัญคือแวดวงการเมืองมันปิดกันไม่ได้ เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาฯ เชิญไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีประชุมตั้งแต่เช้า ช่วงบ่ายก็ติดภารกิจสำคัญ ไม่มีเวลา และเหลือเวลาไม่กี่เดือนก็จะยุบสภาแล้ว เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและพยายามทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี