ทหารเขมรเหิม  ห้ามผช.ทูตทหารดูกู้ระเบิด  บริเวณช่องสายตะกูบุรีรัมย์

ทหารเขมรเหิม ห้ามผช.ทูตทหารดูกู้ระเบิด บริเวณช่องสายตะกูบุรีรัมย์

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ทหารเขมรสกัด AOT ห้ามเข้าพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิด ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ตกลงในวง RBC แล้ว ด้าน คปท.ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ให้กำลังใจทหาร จี้รัฐบาลทวงคืนดินแดนไทย ขณะที่โฆษกรัฐบาล เผยโอนเงินช่วยผู้ประสบภัยสถานการณ์ชายแดนไทย-เขมร 10 ครั้ง เฉียด 3 แสนครัวเรือน

เมื่อวันที่ 2พฤศจิกายนมีรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการระเบิดแห่งชาติกองบัญชาการกองทัพไทย ว่า ทีม AOT ผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย ผู้ช่วยทูตทหารหลายชาติ ได้ลงพื้นที่ดูการเก็บกู้ระเบิดของTMAC แต่ถูกขัดขวางจากฝ่ายทหารกัมพูชา แม้จุดนี้จะเป็น1 ใน 13 พื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยเสนอในที่ประชุมร่วมRBC ไทย-กัมพูชาและตกลงกันไว้แล้ว


ทั้งนี้ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย (AOT) โดยมี Col.Faisal R. Hutagalungผู้ช่วยทูตทหารอินโดนีเซีย ประจำกรุงเทพฯCol.Derrick Lee ผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ ประจำกรุงเทพฯCAPT AldrinMontalvoผู้ช่วยทูตทหารฟิลิปปินส์ประจำกรุงเทพฯ และ Brigadier General Samsul Rizal Bin Muzaผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำกรุงเทพฯซึ่งทาง พล.อ.ต.ชิตพล ก่อกิจสัมมากุล นำคณะ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไปสังเกตุการณ์การปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ของ นปท.3 ที่บ้านสายโท 10 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน และปัญหาข้อขัดข้องในการเข้าปฏิบัติงานของหน่วย โดยมีอุปสรรคข้อขัดข้องที่สำคัญคือหน่วยฯ ไม่ได้รับความร่วมมือในการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่จากฝ่ายทหารกัมพูชา แม้จุดนี้จะเป็น1ใน13พื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยเสนอในที่ประชุมร่วมRBC ไทย-กัมพูชา โดยมีการลงนามนข้อตกลงกันแล้วเมื่อวันที่ 31ตุลาคมที่ผ่านมา

ด้านเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล นำพามวลชนประมาณ 3 คันรถบัส เดินทางถึงบ้านหนองจานในเวลา 10.00 น.ก่อนรวมกลุ่มหน้าด่านเพื่อจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และนำข้าวสารอาหารแห้ง ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกล่าวปราศรัยย่อยถึงจุดยืนของกลุ่ม คปท.ใช้เวลาประมาณ 30นาที

นายพิชิต เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นการยืนยันสิทธิ์และแสดงพลังว่าพื้นที่บ้านหนองจานเป็นของประเทศไทย พร้อมทั้งมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวชายแดน เพื่อเร่งทวงคืนพื้นที่ซึ่งถูกกัมพูชารุกล้ำ ที่ผ่านมามีคำถามว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำเต็มที่หรือยัง เราอยากให้เร่งรัดมากกว่านี้ เพราะการเจรจาสันติภาพของรัฐบาลอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ถูกตั้งคำถามได้

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ นายพิชิต ยืนยันว่าจะไม่พามวลชนเข้าไปในพื้นที่ด้านในเหมือนกรณีนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ที่นำกลุ่มเคลื่อนไหวเข้ามาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าการเคลื่อนไหวของทั้งสองกลุ่มมีเป้าหมายเดียวกันคือการทวงคืนแผ่นดินไทยหากสถานการณ์ยังไม่คืบหน้า อาจพิจารณารวมพลังเคลื่อนไหวโดยร่วมกันอีกครั้งในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ที่กัมพูชาอาจละเมิดข้อตกลง แม้มีประเทศที่ 3 เข้ามาสังเกตการณ์ นายพิชิตกล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้จะมีตัวกลางและการเจรจาหยุดยิงหลายครั้ง แต่กัมพูชาก็ยังละเมิดข้อตกลง รวมถึงมีการฝังทุ่นระเบิดในพื้นที่ด้วยส่วนท่าทีของรัฐบาลไทยในขณะนี้ นายพิชิตมองว่ารัฐบาลมีความเคร่งเกินไปและยังมีคำถามจากสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองจานและปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ซึ่งมวลชนเตรียมรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อทวงคืนพื้นที่ โดยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่เร่งเจรจาขอคืนพื้นที่ก่อนการหยุดยิง

ทั้งนี้ กลุ่ม คปท.คณะรวมพลังแผ่นดินและนายวีระ สมความคิด อยู่ระหว่างหารือแนวทางร่วมกันต่อท่าทีของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย โดยระบุว่า หลังจากวันที่ 17พฤศจิกายน หากยังไม่เห็นความชัดเจน อาจมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในพื้นที่ชายแดน

วันเดียวกัน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ315,476 ครัวเรือน วงเงินทั้งสิ้น 1,515.967 ล้านบาท ว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ให้การช่วยเหลือ โดยเป็นการรับลงทะเบียนค่าเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีอพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ครัวเรือนละ 5,000 บาท กรณีอพยพไม่เกิน 7 วัน ครัวเรือนละ 2,000 บาท มีครัวเรือนที่ลงทะเบียนทั้งสิ้น 325,347 ครัวเรือน

สำหรับครัวเรือนที่ผ่านคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) 297,368 ครัวเรือน และครัวเรือนที่ส่งออมสิน 296,569 ครัวเรือน โดยโอนเงินช่วยเหลือแล้วทั้งหมด 10 ครั้ง (วันที่ 6-10, 17, 20, 22, 27 และ30 ตุลาคม 2568) โอนสำเร็จ 294,658 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,316.075 ล้านบาท ลงทะเบียนไม่สำเร็จเนื่องจากไม่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ หรือบัญชีไม่ปกติ 1,167 ครัวเรือน และจะโอนเงินครั้งต่อไป ครั้งที่ 11 จ.อุบลราชธานี จ.สระแก้ว วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ 744ครัวเรือนเน้นย้ำให้ประชาชนตรวจสอบการผูกบัญชีพร้อมเพย์ หากยังไม่เรียบร้อยขอให้ติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือ ทั้งนี้ได้กำชับให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยตรวจสอบสถานะรับเงินช่วยเหลือที่http://relief68.disaster.go.th/Dashboard/BoardHelpRegister

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top