วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กับพวก โดยกล่าวหาว่ากี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ เส้นเงินยาเสพติด และการรับสินบนของตำรวจ ข้าราชการท้องถิ่น และนักการเมืองมูลค่า 2,500 ล้านบาท รวมทั้งการล้มคดีเว็บพนันออนไลน์ ต่อนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอบคุณนายอัจฉริยะ ที่เข้ามายื่นหนังสือเรื่องที่เกี่ยวกับนักการเมืองคนหนึ่งคือนายชนนพัฒฐ์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าไปเกี่ยวพันในเว็บพนัน ซึ่งเว็บพนันกับสแกมเมอร์ก็เป็นเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา เซิร์ฟเวอร์บัญชีม้าอาจจะเป็นแหล่งเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราติดตามอย่างใกล้ชิดถือว่ามีความสำคัญกับชาติบ้านเมือง เพราะนายกรัฐมนตรีก็ประกาศว่าปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศแต่เป็นปัญหาอาชญากรรมที่เป็นวาระใหญ่ของโลกถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา เรื่องที่ได้ยื่นมาวันนี้คงไม่ช้าแน่นอน ในฐานะกรรมาธิการนอกจะเอาข้อมูลมาพิจารณาแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ดูเบื้องต้นมีนักการเมืองหลายคนถูกเชื่อมอยู่ บางคนเป็น สส. ในปัจจุบันด้วย ฉะนั้นเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้จึงต้องให้ความเป็นธรรมในการชี้แจง และคาดหวังว่าหน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเมื่อเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ ก็เป็นห่วงว่าจะมีการล้มคดีหรือไม่กระบวนการยุติธรรม แทนที่จะเอาคนไม่ดีเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาดำเนินคดีกลับเป็นการฟอกขาวให้กับคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำลายหลักนิติรัฐหลักการเชิงกฎหมายและทำลาย ความเชื่อมั่น ของประชาชนอย่างยิ่ง ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม สส. จึงไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองหรือสิทธิพิเศษใด ๆ เป็นโอกาสดีที่ต้องเร่งสร้างความกระจ่างไม่ว่าจะผิดหรือไม่ผิด อย่างน้อยก็จะได้จบภายในเดือนพ.ย.นี้
เมื่อถามว่าการติดตามเรื่องสแกมเมอร์ในกรรมาธิการเคยมีชื่อของนายชนนพัฒฐ์เข้ามาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าบางทีเว็บพนันกับสแกมเมอร์ก็แยกออกจากกันยาก หนึ่งในกระบวนการของสแกมเมอร์ไม่ใช่แค่โทรมาหลอกให้โอนเงินแต่มีหลากหลายรูปแบบ หลอกให้ลงทุนหลอกให้รัก หรือหลอกให้เล่นการพนัน มีโอกาสที่จะเรียกนายชนนพัฒฐ์มาชี้แจง เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนแต่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ข้อมูลที่นายอัจฉริยะนำมาเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ได้เลยในทางกระบวนการไม่ต้องใช้เวลานาน เมื่อข้อมูลชัดเจนขนาดนี้แม้จะต้องให้ความเป็นธรรมแต่ข้อมูลก็เพราะมากในการดำเนินการขั้นตอนต่อไป คาดหวังว่าจะไม่ชักช้า
เมื่อถามว่าจะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่เพราะขณะนี้พรรคกล้าธรรมกับพรรคประชาชนกำลังมีปัญหากันอยู่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน พรรคประชาชนอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน ตนก็อยู่ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ ก็ต้องตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่การทำงานของรัฐบาล แต่ในกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องที่จะชี้หน้าว่าพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง หรือใครคนใดคนหนึ่ง แล้วมาบอกว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ต้องว่ากันด้วยพยานหลักฐานตำรวจหรือ DSI ไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายค้านแต่ขึ้นกับฝ่ายรัฐบาลที่ต้องทำให้องค์กรเหล่านี้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด พร้อมตั้งคำถามไปยังรัฐบาลและหน่วยงานรัฐอย่าง DSI ว่าทำงานถึงไหนแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน
"ที่บอกว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน กรรมาธิการไม่เป็นกลางต้องพูดตรง ๆ ว่า ในกรรมาธิการมีทุกพรรค พรรคกล้าธรรมก็อยู่ในนี้การที่บอกไม่เป็นกลางคงไม่ใช่ รวมไปถึงเป็นความพยายามเบี่ยงประเด็น โดยเอาเรื่องทางการเมืองแบบนี้มาดิสเครดิตกัน ไม่ได้สนใจมองในเรื่องรายละเอียดพยานหลักฐาน ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานถ้าเอาผิดได้ ก็ว่าไปตามกระบวนการสิ่งที่เรียกร้องสูงสุดคือต้องการกระบวนการยุติธรรมที่เป็นปกติสำหรับทุกคน ไม่ได้ต้องการรังแกใคร ผมเป็นฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่สามารถไปสั่งการอะไรใครได้ " นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีกลไกอื่นเพื่อเชิญรัฐมนตรีมาชี้แจงอีกหรือไม่เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครมา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยู่ในช่วงหารือ ในช่วงเป็นสมัยประชุมคงไม่ง่าย แต่การไม่มาชี้แจงอาจส่งผลเสียกับผู้ที่ไม่มาชี้แจงเอง ดังนั้นการตรวจสอบของเรายังคงเดินหน้าต่อไป บางคนอย่างนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดคลัง ได้รับการยืนยันว่าจะมาชี้แจงก็จะได้เห็นเป็นตัวอย่างว่าการมาชี้แจง มันดีต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องสแกมเมอร์และดีต่อตัวผู้ชี้แจงยังไง
เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลออกมาชี้แจงว่าไม่พบนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ประเด็น คือหนึ่งรัฐบาลมี 7 รายชื่อแล้วใช่หรือไม่ สองที่ตรวจสอบว่าไม่พบก็ต้องตั้งคำถาม เพราะหากย้อนไป 5 ปีที่แล้วก็ไม่พบชื่อ "ก๊กอาน" และก่อนหน้านี้ถ้าไปตรวจสอบก็ไม่พบชื่อ "ลี ยงพัด" แต่วันนี้กลับเจอ ดังนั้นปัญหา คือหน่วยงานราชการที่ผ่านมาแค่เช็คในเรื่องของเคสไอดีซึ่งแน่นอนว่าคงไม่เจอ ยังไม่ได้ตั้งต้นยังไม่เริ่มนับหนึ่งแต่วันนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้ามาส่อไปว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ จะเดินได้ใช้อย่างไร ซึ่งข้อมูลของนายอัจฉริยะที่มายื่นหากนับรวมกันอาจเกิน 7 คน และเชื่อว่าหากไล่กันมากกว่านี้ อาจมีชื่อมากกว่าที่ปรากฏอยู่ในแผนผังของนายอัจฉริยะ ดังนั้นการที่รัฐบาลบอกว่ายังไม่เจอเป็นการรีบสรุปเกินไป
เมื่อถามว่ามองการจัดการเรื่องนี้ของรัฐบาลอย่างไรเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ที่มีการแก้ไขกฎหมาย นายรังสิมันต์ กล่าวว่าประเทศไทยได้รับความเสียหายกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องเงินยังมีเรื่องค้ามนุษย์ตามมาด้วย ความเชื่อมั่นด้านการเงินกับประเทศต่างๆ ก็เสียหาย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฝ่ายค้านและตนที่เป็นกรรมาธิการถึงได้เรียกร้องเรื่องนี้นี่คือวาระสำคัญ
"จริงๆ ก็มีสัญญาณบวกว่านายกฯก็ดูเหมือนมีท่าทีจะเอาจริงมากขึ้น อย่างน้อยทางการพูด แต่สิ่งที่เราต้องการเห็นคือรูปธรรม วันนี้รูปธรรมยังไม่มี แผนงานที่ชัดเจนยังไม่มี การสร้างความเชื่อมั่นยังไม่มี ประเด็นคือประเทศไทยเมื่อได้รับผลกระทบขณะนี้ใกล้กับแหล่งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำและจะต้องเป็นคนที่สร้างรูปธรรมให้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่เกิด ในฐานะที่ติดตามเรื่องเหล่านี้รู้สึกผิดหวัง เพราะประเทศอื่นที่อยู่ไกลกว่าเรา ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์เกาหลีใต้หรือสหรัฐอเมริกา ทำไมมีความคืบหน้ามากกว่าผมยืนยันว่าในแง่ของข้อมูลเรามีไม่แพ้ชาติอื่น แต่ปัญหาที่ทำให้เราไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้คือการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่รัฐบกพร่องไป " นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ยาก ซึ่งเรื่องนี้ที่ยากเพราะติดอยู่กับปัญหาภายในประเทศและยากเมื่อมีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินต่าง ๆ ทำให้การยึดอายัดต่อไปในอนาคตยากลำบากมาก ดังนั้นการทำหน้าที่ของเราจะต้องนำไปสู่การสร้างแรงกระตุ้นเหมือนคนกำลังจะตายต้องมีไฟฟ้าช่วยกระตุ้น เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่ การประชุมกรรมาธิการแต่ละครั้งก็เหมือนการหาข้อมูลเพิ่มเติม และยืนยันว่าหน่วยงานรัฐมีข้อมูลแต่ปัญหาคือมีข้อมูลแล้วจะดำเนินการอะไรหรือไม่ เท่าที่เห็นหน่วยงานที่เริ่มนับหนึ่งมีแค่ กลต. แต่หน่วยงานอื่นยังไม่เห็น
ขณะที่นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่มายื่นเป็นเรื่องของ นายชนนพัฒฐ์ เป็นข้อมูลจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ นอกจากนี้ยังมีทั้งตำรวจ ข้าราชการและสส. ทั่วพื้นที่ประเทศไทยเกี่ยวข้องด้วย ตนได้เดินทางไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่เห็นถึงการเอาจริงเอาจัง ตนอยากเห็นการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น
นายอัจฉริยะ ยังโชว์แผนผัง เส้นเงินบัญชีม้า พร้อมระบุว่าตำรวจแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แค่นำข้อมูลข่าวสารมาเปิดเผย ตนอยากเห็นมิติการตรวจสอบนี้ ไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเหตุนำตนไปดำเนินคดี ตนยังไม่เห็นความหวังที่นายกรัฐมนตรี จะทำความจริงให้ปรากฏ ท่านบอกว่ายึดทรัพย์ 35,000,000,000 มีข้อมูลหมด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่ตนคิดว่าโลกได้วิวัฒนาการไปแล้ว เราเปิดชื่อได้หมด
“คดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาคุ้มครองมาตรา 329 ให้กับผู้บริสุทธิ์ ในการเปิดข้อมูลให้ประโยชน์ตกต่อสาธารณะ แต่หากจะฟ้องร้องผม ผมไม่ได้แคร์ ผมไม่ได้สนใจ เพราะเป็นคนกล้าท้าชน ต่อให้เป็นคุณธรรมนัส ฟ้องผม ผมก็พร้อม จะให้ไปพะเยาผมก็พร้อม ” นายอัจฉริยะกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี