วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
8 พ.ย. 68 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ระบุว่า "ผมไม่ใช่ติ่งอนุทิน…แต่ต้องยอมรับว่าเขาทำงานจริง"
#อัษฎางค์ยมนาค #อ่านเกมอำนาจ
ผมไม่ใช่แฟนคลับของอนุทิน ชาญวีรกูล
ไม่ได้เลือกพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผมเห็นว่าเราควร “แยกแยะ”
ระหว่างสิ่งที่เป็นผลงานจริง กับสิ่งที่เป็นข้อวิจารณ์ทางการเมือง
เพราะหากเรามองทุกอย่างด้วยอคติ ว่าใครอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ต้อง “ผิดหมด” เราจะมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศเลย
รัฐบาลอนุทิน: 2 เดือนแรกกับผลงานที่มี “ตัวเลขพิสูจน์ได้”
รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เริ่มบริหารประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2568 จนถึงวันนี้ (8 พฤศจิกายน 2568) ครบ เพียงสองเดือนเท่านั้น แต่กลับมีความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายต่างประเทศที่ “จับต้องได้” และมีตัวเลขรองรับ
ความร่วมมือไทย–เกาหลีใต้: มูลค่าการลงทุน 9.7 แสนล้านบาท
• ไทยและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านการลงทุนรวมมูลค่า 970,000 ล้านบาท โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมายคือ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และนิคมอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ EEC
• บริษัทชั้นนำอย่าง Hyundai, SK Group และ Korea Land & Housing Corporation (LH) ยกทัพลงทุนในไทย ตั้งโรงงาน EV กลาง EEC มูลค่ามหาศาล
• ไทยยังเจรจาขยายโควตาแรงงานไทยให้ทำงานในเกาหลีใต้ได้มากขึ้น พร้อมผลักดันการลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศ จาก 15,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 30,000 ล้านดอลลาร์
ความร่วมมือไทย–สิงคโปร์: ข้อตกลง “ข้าว 1 แสนตัน” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
• ไทยและสิงคโปร์ลงนามข้อตกลงการค้าข้าว ปริมาณ 100,000 ตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ระหว่างสองประเทศ
• ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ขยายตลาดสินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้เกษตรกร
• พร้อมกันนั้น ทั้งสองประเทศยังหารือด้าน ความมั่นคง–ดิจิทัล–เศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและสแกมเมอร์ การลงนามนี้จึงมีลักษณะเป็นความสำเร็จร่วมกันของรัฐบาลซึ่งคุณอนุทินเป็นผู้ผลักดันในระดับนโยบายและเจรจาระหว่างรัฐบาล G2G (government-to-government) ขณะที่คุณศุภจีคือผู้ดำเนินการลงนามและผลักดันรายละเอียดข้อตกลงทางด้านการค้าและกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรง
ผลลัพธ์เชิงยุทธศาสตร์: ไทยกลับเข้าสู่เวทีโลก การเยือนเกาหลีใต้และสิงคโปร์ในช่วงเวลาเพียงสองเดือน ไม่ใช่เพียง “ภาพถ่ายทางการทูต” แต่คือการ ฟื้นศักยภาพของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
• ยกระดับความร่วมมือด้านแรงงาน การค้า การลงทุน และนวัตกรรม
• สร้างภาพลักษณ์ไทยในฐานะ “หุ้นส่วนที่เชื่อถือได้” ของภูมิภาค
• ดึงเทคโนโลยีใหม่เข้ามาสู่ประเทศ พร้อมโอกาสจ้างงานและถ่ายทอดความรู้
• เปิดตลาดเกษตรไทยในเชิงคุณภาพสูง
• รักษาสมดุลเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่าง เอเชีย ตะวันตก และ อาเซียน
บทสรุป: วิพากษ์ได้ แต่ต้องยอมรับ “ความจริงที่พิสูจน์ได้”
เราอาจตั้งคำถามได้ว่ารัฐบาลอนุทินมีจุดอ่อนอะไร แต่ในเวลาเพียง 2 เดือน การได้ข้อตกลงการลงทุนและการค้ารวมมูลค่ากว่า ล้านล้านบาท ถือเป็น “สัญญาณบวก” ที่ไม่ควรมองข้าม
การเมืองควรถูกตรวจสอบด้วยสติ ไม่ใช่อารมณ์ ความจริงของผลงานไม่ต้องการแฟนคลับ แต่ต้องการคนที่ยอมรับในสิ่งที่เห็น"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี