(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

(3) เรื่องสำนักงานศาลปกครองเพิกถอนสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านและเรียกคืนเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วในอดีตครั้งเคยเป็นข้าราชการฝ่ายศาลปกครองถือเป็นการกระทบต่อสิทธิของผู้ฟ้องคดีหรือไม่

เรื่องนี้ผู้ฟ้องคดีได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครั้งแรกที่สำนักงานศาลปกครองในภูมิภาค 11(ลพบุรี) แต่สำนักงานศาลปกครองในภูมิภาค 11 (ลพบุรี) ยังไม่เปิดทำการ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) จึงมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ในส่วนกลาง ของสำนักงานศาลปกครองไปพลางก่อนจนกว่าสำนักงานศาลปกครองในภูมิภาคเปิดทำการ

ต่อมามีคำสั่งมอบหมายให้ผู้ฟ้องคดีช่วยปฏิบัติงาที่ศาลปกครองสูงสุด และภายหลังจากระเบียบคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง พ.ศ.2545 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2545 ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำขอใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตามระเบียบดังกล่าวและได้รับอนุมัติให้เบิกค่าเช่าบ้านตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2545 จากนั้น เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2545 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งย้ายผู้ฟ้องคดีให้ไปดำรงตำแหน่งพนักงานคดีปกครอง 3 สำนักงานศาลปกครองระยอง และต่อมา มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับมาปฏิบัติงานตำแหน่งพนักงานคดีปกครอง 4 สำนักงานศาลปกครองกลางโดยผู้ฟ้องคดี ได้รับอนุมัติให้เบิกค่าเช่าบ้านตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2547 จนกระทั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีโอนไปรับราชการที่กรมป่าไม้เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2550

หลังจากนั้น คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในการขอเบิกค่าเช่าบ้านของข้าราชการฝ่ายศาลปกครองได้ตรวจสอบพบว่า ข้าราชการฝ่ายศาลปกครองจำนวน 41 ราย รวมทั้งผู้ฟ้องคดี เป็นผู้ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเงินและต้นทุน จึงมีหนังสือสำนักงานศาลปกครอง ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เพิกถอนคำสั่งอนุมัติสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านและเรียกคืนเงินที่เบิกจ่ายไปทั้งหมด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2545 ถึงเดือนมกราคม 2546 และตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 รวมระยะเวลา 45 เดือน รวมเป็นเงิน 88,895.16 บาท

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)