‘โฆษกรัฐบาล’แจง ‘ผู้นำสหรัฐฯ-มาเลเซีย’เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

‘โฆษกรัฐบาล’แจง ‘ผู้นำสหรัฐฯ-มาเลเซีย’เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.55 น.

"โฆษกรัฐบาล"แจง"ผู้นำสหรัฐฯ-มาเลเซีย"เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ย้ำชัดเจรจาภาษียังเดินหน้าต่อไป ขอสื่อแสดงความรับผิดชอบ เสนอข้อมูลคลาดเคลื่อน ไม่เกี่ยวเรื่อง"ชายแดน" เผยพรุ่งนี้หน่วยงานเกี่ยวข้องผนึกแถลงสาง 2 ปัญหาใหญ่

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา หลังมีกระแสข่าวผู้นำสหรัฐฯ สั่งชะลอการเจรจาภาษีกับไทย ว่า สหรัฐฯ และมาเลเซีย ในฐานะผู้สังเกตการณ์ และสักขีพยานในการลงนามปริญญานำไปสู่สันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังมีความไม่สบายใจ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จึงมีหนังสือถึงไทยเพื่อขอให้ระงับการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ เอาไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจะดีขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้นำสหรัฐฯ แล้ว โดยฝ่ายไทยให้เหตุผลว่า ผู้ที่ทำผิดไม่ใช่ไทยแต่เป็นกัมพูชา ที่มีพฤติกรรมละเมิดปฏิญญา วางทุ่นระเบิดใหม่ ถือเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขในการสร้างสันติภาพ เรื่องนี้ฝ่ายไทยยอมไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะขอเดินตามแนวทางสันติวิธี ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจ เช่นหาคนออกมายอมรับผิด ขอโทษกับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ และคนไทยอย่างจริงใจ รวมถึงมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้อีก อีกทั้งยังต้องให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เมื่อผู้นำสหรัฐฯ ได้ฟังเหตุผลจากนายกรัฐมนตรีแล้วก็เข้าใจ ขณะเดียวกัน ผู้นำของมาเลเซีย ได้พูด คุยกับผู้นำสหรัฐฯแล้ว ก็ยืนยันถึงความเข้าใจนี้ด้วยเช่นกัน โดยยืนยันว่าในส่วนของภาษีจะมีการเดินหน้าเจรจากันต่อไป แยกออกจากเรื่องการจัดการปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา


นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคนต้องการเดินหน้า เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและอธิปไตยของไทย รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นหลัก หากแต่เวลาที่เกิดสถานการณ์ขึ้น ต่างกรรมต่างวาระซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด แต่บางเหตุการณ์เกิดขึ้นทันทีทันใด และจนถึงตอนนี้ ก็ได้เห็นภาพของผู้นำ ในการเดินหน้าแก้ปัญหาของฝั่งไทย

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในลักษณะท้าทายสหรัฐฯ จะเกิดผลเสียหรือไม่ นายสิริพงษ์ กล่าวว่า ความเห็นของผู้นำสหรัฐและมาเลเซีย ก็ชัดเจนแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่สาระสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯมักจะตอบคำถาม ตามคำถามของนักข่าว วันนั้นถูกถามว่าหากมีการใช้ภาษีสหรัฐมากดดัน จะทำอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงไปว่า ต้องแยกกันระหว่างเรื่องภาษีกับเรื่องชายแดน

เมื่อถามอีกว่า หากสหรัฐไม่ซื้อของจากไทย โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ได้ชี้แจงไปแล้วตามเหตุผลว่าก็ต้องหาตลาดใหม่ ซึ่งก็ตรงกับที่กระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันว่า การค้าขายกับสหรัฐมีความจำเป็น และในขณะเดียวกันก็ต้องมีการหาทางเลือกอื่นเพิ่มเติมด้วย เพื่อขยายตลาดส่งออก

เมื่อถามว่า มีกรอบระยะเวลาที่กัมพูชาขอโทษคนไทยหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีกำหนด ทุกเรื่องดำเนินการไปจนกว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของไทย รวมถึงเงื่อนไขของไทยก็ไม่ได้มีกำหนดเวลาเช่นกัน

เมื่อถามว่า ไทยจะมีการตอบโต้ข่าวปลอมจากกัมพูชาอย่างไร นายสิริพงษ์ กล่าวว่า ไทยมีหน้าที่ในการนำเสนอข้อเท็จจริง หากกัมพูชานำเสนอข่าวที่เป็นเท็จไทยก็มีหน้าที่ความกระจ่างให้เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ากัมพูชาจะปล่อยข่าวปลอมอะไรออกมาอีกและไม่รู้ว่าจะป้องกันข่าวปลอมเหล่านี้ได้อย่างไรแต่สิ่งที่ทำได้คือต้องโต้ตอบให้เร็วที่สุด โดยกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินหน้าทำความเข้าใจกับนานาประเทศ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนก็รับทราบเรื่องราวเหล่านี้แล้วแม้แต่คณะผู้สังเกตการณ์ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ เช่นเดียวกับสำนักข่าวมาเลเซีย ที่ให้ข้อมูลผิดพลาดก็ออกมาขอโทษแล้ว ถือว่าไทยทำงานได้อย่างรวดเร็ว และหวังว่าจากนี้สื่ออื่นๆก็จะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง และครบถ้วน

เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเสียหายหรือไม่ และไทยจะเรียกร้องอะไรหรือไม่ นายสิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับสื่อที่นำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือบิดเบือน ควรออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบ และขอโทษ พร้อมแก้ไขข่าวให้ถูกต้อง เราก็หวังว่าสื่อต่างๆจะแสดงข้อมูลที่ครบถ้วน เช่นข่าวเมื่อวานนี้ที่ระบุว่าสหรัฐฯ ระงับภาษี แต่ในความเป็นจริงหากอ่านทั้งหมดจะพบว่า นายกฯ ได้พูดคุยกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนเกิดความเข้าใจตรงกันแล้ว จึงหวังให้สื่อนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ย.) เวลา 14.00 น.จะมีการแถลงแผนและแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้ร่วมแถลงประกอบด้วย โฆษกรัฐบาล, โฆษกกระทรวงกลาโหม, โฆษกทุกเหล่าทัพ, โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (เพื่อแถลงแนวทางด้านการต่างประเทศ), และคาดว่าจะเป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ (เพื่อแถลงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา)

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top