วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ย้ำ‘ทรัมป์’ไม่ใช้‘ปฏิญญา’เป็นเงื่อนไขถกภาษี
‘อนุทิน’คุย‘อันวาร์’
ขอให้ไทยลุยเก็บกู้ระเบิด
พณ.พร้อมเดินหน้าเจรจา
รบ.แถลงข้อข้องใจ17พ.ย.
พท.อัดสื่อสารไม่รอบคอบ
นายกฯอนุทิน ระบุ“อันวาร์” ย้ำคุย “ทรัมป์” ยันสหรัฐจะไม่นำประเด็นการระงับปฏิญญาของไทยแก้ไขปัญหาชายแดนเขมร มาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ พร้อมหนุนไทยเดินหน้ากู้ระเบิด รมช.กลาโหม-ทบ.’วอนปชช.-กำลังพล มีวินัยบนโลกออนไลน์ งดเผยแพร่ข้อมูลทางทหาร ดานชายแดนสุรินทร์ ยังตึงเครียด
เมื่อวันที่ 16พฤศจิกายน2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หลังจาก อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย โทรศัพท์มาหารืออีกครั้ง หลังจากเพิ่งหารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายอันวาร์ อิบราฮิม ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ นายอนุทิน คุย ทรัมป์-อันวาร์ ย้ำ ไทยพร้อมร่วมมือสร้างสันติภาพ ฝาก 2 ผู้นำแจ้งเขมร ให้ปฏิบัติตามข้อตกลง
โดยนายอนุทินระบุว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซียซึ่งเป็นประธานของ ASEAN ด้วย ได้โทรศัพท์มาหาผมอีกครั้งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พฤศจิกายน
ในเนื้อหาของการสนทนา ท่านได้แจ้งยืนยันกับผมว่า ท่านได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรั้มป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับผมแล้วก่อนหน้านี้ ท่านประธานาธิบดีทรั้มป์มีความเห็นตรงกันกับจุดยืนของผมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian demining เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งในปฏิญญาที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกัน ท่านจึงได้ขอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุดเพราะมีความเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตคนของทั้งสองประเทศและประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยืนยันฝากนายกรัฐมนตรีอันวาร์ให้มาแจ้งผมอีกครั้งว่า “สหรัฐอเมริกาจะไม่นำประเด็นการระงับปฏิญญาของไทยมาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้”
ผมยังได้ถามท่านนายกอันวาร์ว่า ผมสามารถโพสต์ข้อความนี้ได้หรือไม่ ท่านตอบว่า โพสต์เลยอนุทิน แล้วท่านก็จะโพสต์ยืนยันจากช่องทางการสื่อสารของท่านเช่นกัน จึงขอกราบเรียนมายังพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้เพื่อให้รับทราบโดยทั่วกันนะครับ อนึ่ง จดหมายจากผู้แทนการค้าสหรัฐที่ระบุเรื่องการหยุดเจรจากับไทยได้ถูกพิมพ์ขึ้นก่อนที่ผมจะได้คุยโทรศัพท์กับท่านประธานาธิบดีทรั้มป์เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายนครับ ดังนั้นข้อมูลของผมจึงมีความเป็นปัจจุบันมากกว่าครับ
พร้อมเจรจาการค้าสหรัฐ
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ชี้ไทยพร้อมเดินหน้า เจรจาภาษีสหรัฐ หลังระดับผู้นำหารือเชิงบวก ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่า รัฐบาลไทยพร้อมเดินหน้าการดำเนินงานต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐ สำเร็จลุล่วงภายในกรอบเวลาเดิม รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เช่นเดียวกับรัฐบาลทุกประเทศ ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ก็ตระหนักถึงความสำคัญของการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ ซึ่งมีน้ำหนักเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญเช่นกัน จึงได้เดินหน้าดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมของไทยอย่างรอบด้าน เพื่อให้สามารถเร่งสรุปผลการเจรจาได้ตามกรอบเวลาเดิม
สร้างเอกชนไทยเข้มแข็ง
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งรัดการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาให้บรรลุผลโดยเร็ว พร้อมเดินหน้ามาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเอกชนไทย และเร่งแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีหรือการส่งผ่านสินค้า (transshipment) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลและภาคเอกชนของสหรัฐฯ ว่าไทยดำเนินงานด้วยความโปร่งใสและเป็นไปตามมาตรฐานสากล
ไทยเชื่อมั่นว่าทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งหวังให้การเจรจาสัมฤทธิผลโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ผนวกกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ จะช่วยเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักของไทย และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุล ความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่ดี พร้อมเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยการขยายตลาดใหม่ ลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง ผ่านกลยุทธ์เชิงรุกทั้งการเปิดตลาด การจับคู่ธุรกิจ และการส่งเสริมให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์สูงสุดจากผลการเจรจา
ท้ายที่สุด รัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าผลักดันการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการคุ้มครองผลประโยชน์ของภาคการส่งออกของไทย การขยายตลาดใหม่ และการยกระดับศักยภาพสินค้าไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
งดเผยแพร่ข้อมูลทางทหาร
กองทัพบก (ทบ.) แจ้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน รวมถึงกำลังพลทุกนาย งดเผยแพร่ภาพหรือข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญถูกนำไปวิเคราะห์ต่อยอด จนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทหารในพื้นที่และความมั่นคงของประเทศ สำหรับกำลังพลทุกระดับชั้น จำเป็นต้องยึดถือหลักปฏิบัติ Operations Security (OPSEC) ในระดับสูงสุด ห้าม เผยแพร่ข้อมูลยุทโธปกรณ์ แผนปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ หรือการเคลื่อนย้ายกำลัง ห้าม ถ่ายภาพที่มีพิกัด GPS หรือภาพที่เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธการ แม้ข้อมูลบางอย่างอาจ “ไม่ใช่ความลับ” แต่เมื่อนำไปรวมกับข้อมูลอื่น ก็อาจกลายเป็น “ภาพรวมยุทธการ” ที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้ต่อรองหรือโจมตีเราได้ทันที เป็นเหตุผลที่กองทัพทั่วโลกรวมถึงกองทัพไทย ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อมาตรการ OPSECและเป็นหน้าที่ของทุกคน ทั้งทหารและประชาชน ในการร่วมกันปกป้องประเทศบนสมรภูมิข้อมูลข่าวสาร ความมั่นคงของชาติ เริ่มต้นที่วินัยของเรา ร่วมกันใช้โซเชียลมีเดียอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลแนวหน้า และเพื่อให้ประเทศไทยมั่นคง แข็งแกร่ง บนพื้นฐานของความรับผิดชอบร่วมกัน
พร้อมรบในทุกมิติ
ขณะที่ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลหัวข้อ Adul A Day “รู้รบครบมิติ” ในสงครามข้อมูลข่าวสาร สวัสดีวันอาทิตย์ครับ ขอให้เป็นวันที่เรามีสติ พร้อมรบในทุกมิติของข้อมูลข่าวสารไปด้วยกันครับ ในยุคที่ภัยคุกคามไม่ได้มาแค่จากสนามรบ แต่เกิดขึ้น ตลอดเวลา บนโลกออนไลน์ ผมเชื่อเสมอว่า “นักรบยุคใหม่” ต้องพร้อมรบทั้งในสมรภูมิจริง และ สมรภูมิข้อมูลข่าวสาร (Information Battlespace) ไปพร้อมกัน ผมอยากขอพูดกับประชาชนคนไทยทุกคน เพราะในวันที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการรับรู้ ความเชื่อ และความมั่นคงของประเทศ ประชาชน ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมรบในสมรภูมิเดียวกันกับทหารแล้ว พวกเราทุกคน สามารถเป็นผู้ปกป้องชาติในมิติใหม่ของสงครามข้อมูล
พราะฉะนั้น วินัยบนโลกออนไลน์จึงสำคัญที่สุด มีวินัยในการเสพข่าว มีสติในการสื่อสาร มีความรับผิดชอบในการแชร์ ใช้โซเชียลมีเดียอย่างรู้เท่าทัน ใช้มันเป็น เครื่องมือ เป็น อาวุธ ที่เพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจ แต่อย่าลืมว่า อาวุธทุกชิ้น หากใช้โดยไม่รอบคอบ อาจย้อนกลับมาทำร้ายเราเองได้ โซเชียลมีเดียก็เช่นกันความหวังดีที่ไม่รอบคอบ…อาจกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงโดยไม่ตั้งใจ
วันนี้ เราเป็น “เพื่อนร่วมรบ” ในสงครามข้อมูลข่าวสารแล้วนะครับ เราต้องร่วมกันรักษาความจริง รักษาความมั่นคง และรักษาประเทศไทยของเราด้วย “ข้อมูลที่ถูกต้อง” “สติ” และ “วินัย”
ชายแดนสุรินทร์ยังตึงเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารเขมรได้ถ่ายคลิป ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับ ทหารไทย และพูดว่า ไทยรุกล้ำแผ่นดินเขมร โดยจุดตรงนี้อยู่บริเวณใกล้กับ ปราสาทคนา ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ สถานการณ์ดังกล่าวอยู่ในความตึงเคลียด เขมรได้ถืออาวุธปืน RPG เข้าไปจ่อทหารไทย พร้อมพูดภาษาเขมรว่า “เมื่อก่อนทหารไทยอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงได้ลงมาอยู่ตรงนี้ ดูเจตนามันว่ามันลงมาทำไม ไอ้คนที่ใส่แว่นตาทำไมมันดูใหญ่โตจัง มาอยู่อะไรตรงนี้พรมแดนเองอยู่ข้างหลังโน่น ข้าวของเองทำไมไม่ไว้ฝั่งนั้น รีบออกมาคุยต่อหน้ามา มายืนตรงนี้มาเจอหน้ากันหน่อย พรมแดนของพวกเองอยู่ทางนั้น ปัญหาเพราะพวกเองเอาลวดหนามมาใส่ฝั่งเขาเองทำมีปัญหา ออกมา มาคุยกัน มา มาคุยต่อหน้ากัน มันพูดเป็นภาษาไทย พวกเราฟังมันไม่ออกนี่แหละ ห้ามมาเกะกะอยู่หน้าพรมแดนอีก”
จากเนื้อหาภายในคลิป เป็นการเผชิญหน้าที่ตรึงครียด เป็นอย่างมาก เนื่องจากทหารเขมร ที่เดินเข้ามาหา ทหารไทย นอกจากจะพูดว่า ไทยรุกล้ำดินแดนเข้ามาแล้ว ยังถือปืน RPG เข้าไปคุมเชิงจ่อใส่ทหารไทยอีกด้วย ก่อนจะมีการเจรจาและต่างคนต่างแยกย้าย ซึ่งเห็นได้ว่า เขมรมีนิสัยที่ก้าวร้าว ชอบยั้วยุหาเรื่องทหารไทยหน้าแนวอยู่ตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี