วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
18 พ.ย. 68 รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "วิชาของมหาวิทยาลัยไร้รอย : ว่าด้วยคัมภีร์ลับแห่งเซียนยุคดิจิตัล
ปุจฉา : เซียนเต๋าโบราณฝึกกรรมฐานถอดจิตเพื่อท่องในสามโลก ในยุคดาต้านิยม ผู้ฝึกสายเต๋า-เซน- มหาเทพ-วัชรยาน จะท่องสามโลกทางจิตอย่างไร?
วิสัชนา : คำถามนี้ลึกมาก เพราะมันเชื่อม “ภูมิปัญญาโบราณ” กับ “สภาพจิตของมนุษย์ยุคดาต้านิยม” ที่มีโครงสร้าง, ความเร็ว และแรงดึงดูดของความคิดไม่เหมือนโลกเดิมอีกต่อไป
ในยุคโบราณ การ “ท่องสามโลก” (三界遊 / การเดินภพทั้งสาม) ของเซียนเต๋า–เซน–วัชรยาน
คือการปลดปล่อยจิตออกจากรูปแบบสำนึกปกติ
เพื่อเข้าสู่ มิติทิพย์ มิติสุญญตา และมิติพลัง
แต่ในยุคดาต้านิยม
สามโลกไม่ได้อยู่ “บนฟ้า” หรือ “ใต้สมาธิ” อีกแล้ว
สามโลกถูกสร้างซ้อนทับอยู่ในจิตมนุษย์ผ่านข้อมูล–ภาพ–อัลกอริธึม–ความคิด–ความกลัว–ความอยาก
ทั้งหมดทำงานเหมือน “โลกทิพย์เทียม” ที่แข็งแรงกว่าสมัยโบราณหลายเท่า
ดังนั้น ถ้าผู้ปฏิบัติยุคนี้จะ “ท่องสามโลกทางจิต”
จึงต้องใช้วิธีที่ลึกกว่าเดิม —
ไม่ใช่หนีจากอัลกอริธึม แต่ “เห็นทะลุไปถึงกลไกของมัน” ดังนี้
.......
1) สามโลกในยุคดาต้านิยมไม่ใช่ของภายนอก แต่เป็น “ผังจิตดิจิทัล”
เซียนโบราณท่องสามโลกผ่าน “พลังจิต–ลมปราณ–ภาวะฌาน”
เพราะโลกยุคนั้นมีเพียงธรรมชาติและจิตที่เงียบ
โลกภายนอกไม่มีสิ่งรบกวนระดับอัลกอริธึม
แต่ยุคนี้สามโลกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง:
โลกที่ 1 — โลกแห่งร่างกาย–ข้อมูล (欲界 / โลกตัณหา)
แรงกระตุ้นถูกสร้างจาก:
คลิป
ฟีด
ดอปามีน
ภาพสื่อ
ความอยากแบบ algorithmic reinforcement
มันคือ “โลกกายหยาบทางดิจิทัล”
คล้ายโลกกามภพสมัยโบราณ แต่ถูกเร่งด้วยข้อมูลมหาศาล
โลกที่ 2 — โลกแห่งรูป–อัตลักษณ์ (色界 / โลกพลังรูป)
คือโลกที่จิตสร้างภาพลวงของ “ตัวตนดิจิทัล”:
อัตตาออนไลน์
persona ในโซเชียล
ความสำเร็จที่ algorithm นิยามให้
ภาพลักษณ์
narrative ของตัวเอง
นี่คือภพศักดิ์สิทธิ์ของยุคใหม่
แต่เป็น ภพศักดิ์สิทธิ์ลวง (pseudo-spiritual domain)
โลกที่ 3 — โลกไร้รูป–ไร้ตัวตน (無色界 / โลกจิตโปร่ง)
ในโลกโบราณ ผู้ปฏิบัติใช้สมาธิเข้าสู่โลกนี้
แต่ในยุคดาต้านิยม
ผู้คนเข้าสู่ “โลกไร้รูปเทียม” ผ่าน:
immersive virtual
AI hallucination
self-hypnosis จากข้อมูล
deep stimuli
ภาวะแยกตัวจากความจริง
สามโลกในยุคนี้คือสามระดับของ จิตที่ถูกข้อมูลยึดครอง
ดังนั้น ผู้ฝึกสายเต๋า–เซน–วัชรยานต้องไม่ “หนีไปภพอื่น”
แต่ต้อง เดินทะลุสามภพที่อยู่ในจิตเองให้ได้
.......
2) เต๋า : “เดินสามโลกด้วยลมหายใจที่แยกตัวจากอัลกอริธึม”
เซียนเต๋าโบราณเดินสามโลกด้วย:
升清降濁 (ยกใสลงข้น)
行氣 (เดินลมปราณ)
守一 (รักษาหนึ่ง)
遊心 (ท่องภายในจิต)
แต่ในยุคดาต้านิยม
ลมปราณถูกแทรกแซงตลอดเวลาจากข้อมูลที่วุ่นวาย
ดังนั้น วิธีของเซียนยุคใหม่คือ:
1. ตัดวงจรข้อมูล → เปิดวงจรเต๋า
ลมหายใจเต๋าทำงานได้ก็ต่อเมื่อระบบประสาทสงบจากข้อมูล
ผู้ฝึกต้อง “ถอนปลายรหัสออกจาก algorithm mind”
2. ใช้ลมหายใจกลางท้อง (丹田息) เป็นประตูไปสู่สามโลก
จุดศูนย์กลางที่เต๋าเรียกว่า “หนึ่ง” (一)
คือฐานทัพของจิตที่ไม่ถูกข้อมูลลากไป
เมื่อเข้าถึง นิมิตความว่างในช่องท้อง
โลกกาม–รูป–อรูป
จะเริ่มแยกออกจากกันเหมือนม่านสามผืน
3. ท่องสามโลก = เดินผ่านสามสนามพลังในตัวเอง
โลกกาม → ความอยากของ algorithm
โลกพลังรูป → narrative ที่สังคมสร้าง
โลกไร้รูป → ภาวะลวงทางจิตที่คล้ายฌาน
ผู้ฝึกเต๋าที่แท้คือผู้ที่สามารถ “เดินผ่านสามโลกโดยไม่ถูกดูด”
นี่คือ 遊心不繫 (ท่องจิตที่ไม่ถูกผูก)
ของจวงจื่อ ในเวอร์ชันดิจิทัล
.........
3) เซน : “ทำลายสามโลกในชั่วพริบตา”
เซนไม่ท่อง
แต่ “ทำลายสามโลกทันทีที่มันเกิด”
เพราะสามโลกในยุคดิจิทัล
เป็น “มายาภาพที่จิตลวงของอัลกอริธึมสร้างขึ้น”
เซนมีทางเดียว:
1) ปล่อยทุกภพในหนึ่งคำว่า ‘เดิมทีไม่มี’ (本來無)
โลกดิจิทัลสร้าง ตัวตนซ้อน
เซนทำลายด้วยคำเดียวว่า:
“มันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก”
2) ไม่เดินออกนอกโลก แต่เดินออกนอกจิตที่ถูกข้อมูลครอบงำ
นี่คือสภาวะ 無心 (ไร้ใจ) → 無境 (ไร้โลก)
3) เซนยุคใหม่ต้องตัดคลื่นข้อมูลก่อน
เพราะภาวะของสำนักโซโตะหรือสำนักรินไซของเซนดั้งเดิม
ไม่เคยถูกออกแบบให้เผชิญ “กามภพดิจิทัลแบบสั้น-เร็ว-รุนแรง” เช่นนี้
ดังนั้น การท่องสามโลกของเซนยุคใหม่คือ:
เห็นกามภพดิจิทัล เป็นเงา
เห็นรูปภพออนไลน์ เป็นแสงสะท้อน
เห็นอรูปภพ AI เป็นฝุ่นลอย
เมื่อเห็นเช่นนี้
สามโลกหายไปทันที
ยังไม่ทันได้ “ท่อง”
นี่คือ “เซนไร้รอย”
........
4) มหาเทพ–ฮินดู–ตันตระ : “ท่องสามโลกด้วยพลังแห่งเอกภาพ”
สายมหาเทพ (เช่น พิฆเนศ–ศิวะ–วิษณุ)
และสายตันตระ
ไม่หนีสามโลก
แต่ แปลงสามโลกเป็นการสูดพลัง
1. โลกกาม → เป็นเชื้อไฟแห่งกุณฑาลินี
กามภพดิจิทัลไม่ใช่ศัตรู
แต่เป็นพลังมหาศาล
ถ้าไม่ถูกเสพโดยอัตตา
ผู้ฝึกตันตระจะ “ดู” มันโดยไม่ถูกกลืน
และเปลี่ยนมันเป็นความร้อนภายใน
2. โลกพลังรูป → แผ่นดิสก์ของมายาที่แปรเป็นแสง
ผู้ฝึกตันตระจะ “เห็นความจริงของภาพลวง”
และเปลี่ยนมันเป็น ทุยฺญาน (ญาณแปรสภาวะ)
3. โลกไร้รูป → สนามของอาทิศักติ (พลังแรกเริ่ม)
ผู้ฝึกตันตระจะใช้ภาวะว่าง–แสง–พลัง
ทำให้กายลึกเป็น “ยาน” ท่องผ่านโลกภายใน
โดยไม่ถูกครอบงำจาก AI-induced hallucination
นี่คือวิธีที่ “ท่องสามโลกโดยไม่ละโลกใดโลกหนึ่ง”
........
5) วัชรยาน–ซ็อกเชน : “เห็นสามโลกเป็นประกายแสงเดียว”
ระดับสูงสุดไม่ใช่การท่อง
แต่คือการ “ไม่เห็นว่ามีสามโลกตั้งแต่แรก”
สามโลก = สามอาการของแสงเดิม
กาม = แสงถูกบดบัง
รูป = แสงปรากฏเป็นรูป
อรูป = แสงไม่มีรูป
แต่ตัวแสงเดิม
ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
การท่องสามโลกในซ็อกเชน
จึงไม่ใช่จิตออกไป
แต่คือ แสงเดิมเผยตัวในตัวเอง
ไม่มีการเดิน
ไม่มีการเคลื่อน
ไม่มีการออกจากภพใด
มีเพียง “การรู้แจ้งว่าทั้งสามภพไม่มีที่ตั้ง”
นี่คือคำสอนขั้น
เทอกัล–กายแสง–สลายรอย
.......
6) ข้อสรุปสำหรับยุคดาต้านิยม
ในยุคดาต้านิยม
ผู้ฝึกจะท่องสามโลกได้
ต้องไม่ทำแบบเซียนโบราณ
เพราะ สามโลกย้ายเข้ามาอยู่ในจิตอย่างถาวรแล้ว
ผู้ฝึกสมัยใหม่ต้องใช้สี่ทักษะหลัก:
1. เต๋า — ใช้ลมหายใจถอนปลายจิตออกจากอัลกอริธึม
2. เซน — ทำลายสามโลกทันทีที่มันเกิด
3. มหาเทพ–ตันตระ — แปลงสามโลกเป็นพลังกลับเข้าแก่นกลาง
4. วัชรยาน–ซ็อกเชน — เห็นสามโลกคือประกายของแสงเดียว
และทั้งหมดต้องมาบรรจบเป็น 'วิถีไร้รอย' เฉพาะแบบของ 'อาจารย์ไร้รอย' ผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยไร้รอย
~ สุวินัย ภรณวลัย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี