วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"สุชาติ"ถก"ทูตศรีลังกา"ปมขอ"ช้าง"กลับไทย เผยเตรียมประสาน กต.ก่อน 8 ธ.ค.ขอเข้าพบ ปธน. ระบุยังไม่ชัดภาพว่อนโซเชียลใช่ช้างไทยหรือไม่ รับต้องคำนึงความสัมพันธ์ 70 ปีด้วย
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยภายหลังหารือกับเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย เกี่ยวกับช้างพลายศรีณรงค์ และพลายประตูผา ว่า เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทยให้ความร่วมมือ ซึ่งขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ที่ได้รับสั่งการจากนายกรัฐมนตรี โดยมีข้อสั่งการมาในเรื่องของการพูดคุยในแบบมิตรภาพที่ดี เพราะไทยกับศรีลังกามีความสัมพันธ์ยาวนานครบ 70 ปี เราได้สะท้อนความรู้สึกสิ่งที่เราได้รับทั้งหมดให้กับทางเอกอัครราชทูตทราบ และนำข้อความที่ได้หารือต้องการสื่อถึงรัฐบาลศรีลังกา
นายสุชาติ กล่าวว่า เอกอัครราชทูตศรีลังกาได้พูดถึงข้อความบนเฟซบุ๊กต่างๆ ว่า บางภาพไม่ใช่ช้าง 2 เชือกของไทย เป็นช้างที่เป็นอดีตมาแล้ว เราก็ไม่ได้ว่า ว่าใครถูกหรือผิด เพราะยังไม่ได้เดินทางไป วันนี้เราเจรจาในนามของตนเอง ห่วงใยช้าง 2 เชือก ตั้งใจที่จะขึ้นไปพบและไปเยี่ยม และมีประเด็นในการหารือเรื่องโลกร้อนที่รอความร่วมมือกันอยู่ด้วย เราจะทำข้อความผ่านกระทรวงการต่างประเทศส่งถึงศรีลังกาว่าอาจจะขอคณะสัตวแพทย์ขึ้นไปด้วย เพื่อไปตรวจสุขภาพช้างทั้ง 2 เชือก ให้คนไทยทราบข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงความเป็นอยู่ทั้งหมด ซึ่งเอกอัครราชทูตศรีลังการะบุว่า เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นก็นำข้อความต่างๆ ส่งไปทางรัฐบาลศรีลังกา โดยได้มีการจัดทีมสัตวแพทย์อาวุโสลงไปตรวจสุขภาพช้างและดูความเป็นอยู่ของวัดทั้ง 2 แห่ง ที่มีการมอบช้างไปอยู่วัดละเชือก และมีการรายงานเป็นข้อมูลช้าง ตนเองกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชก็พร้อมที่จะขึ้นไปคารวะประธานาธิบดีศรีลังกาตามข้อสั่งการของนายกฯ และนำทีมแพทย์ไปตรวจสุขภาพ ส่วนการจะได้กลับมาหรือไม่ จะต้องไปพูดคุยกันหน้างาน
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า จากหนังสือที่ดูตามเอกสารในอดีตพบว่า การส่งช้างไปเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ซึ่งการที่จะคุยกันต้องยอมรับว่าเขามีความผูกพันกับช้างทั้งสองเชือกเช่นกัน เพราะเป็นช้างที่ใช้แห่พระเขี้ยวแก้วมายาวนาน และประชาชนชาวศรีลังกาให้ความเคารพและนับถือศาสนาพุทธเช่นกัน เป็นสิ่งที่ประชาชนชาวศรีลังกาให้ความเคารพช้างทั้ง 2 เชือกด้วย เพราะการแห่พระเขี้ยวแก้วเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเขา ช้างเป็นศูนย์รวมจิตใจของเขา ทั้งนี้ หลักคือ รัฐบาลของเขาได้มอบให้กับวัดละเชือก เพราะวัดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพนับถือ เมื่อไปพบรัฐบาลศรีลังกาแล้ว ตรวจสุขภาพแล้ว ในเรื่องการเจรจา ดูต้องว่าใครถือกรรมสิทธิ์ ต้องรอให้เขาตอบกลับมา โดยได้ย้ำเอกอัครราชทูตไปว่าเป็นเรื่องของจิตใจที่ไทยผูกพันกับช้าง เวลาเราเจรจาทางการทูตเราต้องทะนุถนอมความสัมพันธ์ 70 ปี จะพูดด้วยความคิดตนเองทั้งหมดไม่ได้ ต้องฟังเขาด้วย ยืนยันว่าเราทำงานเต็มที่ ไม่ได้หยุดนิ่งและทำทุกวัน ขอคนไทยให้เวลา เพราะเรามารับเรื่องนี้ช่วงหลังรับตำแหน่ง 30 วัน ภายใน 1 เดือน เราสามารถเจรจาถึงขั้นนัดเอกอัครราชทูตมาพูดคุยด้วยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนวันที่ 8 ธ.ค.จะทำอะไรได้บ้าง นายสุชาติ กล่าวว่า จะต้องให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือไปทางรัฐบาลศรีลังกาให้ตอบรับในการขอเข้าคาราวะประธานาธิบดี พร้อมจะหารือเกี่ยวกับโลกร้อน พร้อมจะขอนำทีมสัตวแพทย์จากไทยไปด้วย เบื้องต้นมีการยืนยันว่าช้างทั้ง 2 เชือก มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่เราอยากไปดู ส่วนจะสามารถนำช้าง 2 เชือกนี้กลับไทยภายใน 4 เดือน ตามอายุรัฐบาลหรือไม่นั้น จะพยายาม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี