ไม่เคยมีทางตัน! นายกฯลั่นไทยต้องยืนขาเดียวให้ได้ ท่ามกลาง 2 ขั้วอำนาจ

ไม่เคยมีทางตัน! นายกฯลั่นไทยต้องยืนขาเดียวให้ได้ ท่ามกลาง 2 ขั้วอำนาจ

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 18.38 น.

นายกฯลั่นไทยไม่เคยมีทางตัน เลิกเป็นกระต่ายตื่นตูม ต้องยืนขาเดียวให้ได้ ท่ามกลาง 2 ขั้วอำนาจ บอกถ้าอยากให้ ศก.ไทยดี-กฎระเบียบเสร็จ"เลือกผมกลับมาทำให้จบ" วอนปชช.ตัดสินใจเอาใครมีความตั้งใจ

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ร่วมงานสัมมนา "PRACHACHAT OUTLOOK THAILAND 2026 : ปรับ-เปลี่ยน-ไปต่อ" โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย โดย นายอนุทิน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "Change for the Future" มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า สิ่งที่เราอยู่ในวงการโลก ทำให้รู้วิธีที่จะเจรจากับพวกเขา คำว่าเจรจาเป็นศัพท์ที่ฟังดูเพราะ เพราะมันเอาประเทศกับประเทศมาพูดคุยกัน แต่ในความเป็นจริงคือต่อรองทั้งนั้น ไม่ต่างจากการที่เราต่อรองกับบริษัทคู่ค้าของเรา เป็นแบบนี้ตลอดไม่ว่าจะอยู่เวทีที่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีความมั่นคงแข็งแรงอย่างไร โลกเราทุกวันนี้อยู่กันด้วยคำว่าประสานประโยชน์ ถ้าเป็นภาษาพวกเราเรียกว่าสมประโยชน์ แต่ภาษาทางการเรียกว่าประสานประโยชน์ หรือใช้คำว่าวินวิน เพื่อทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกเหมือนตัวเองได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งสองฝ่ายได้หมดไม่มีใครเสียเปรียบ นี่คือกติกาของโลกที่เราต้องพยายามหาช่องทางที่เราหารือกับทางคู่ประเทศคู่กรณีและเดินไปด้วยกัน


นายกฯ กล่าวอีกว่า โอกาสของเราเมื่อเราดำรงตนให้เป็นพันธมิตร เราก็จะเป็นพันธมิตรกับโลกทั้งใบ โดยที่ไม่ผูกขาด เราต้องทำให้เขาเข้าใจคำว่าเราเป็นเฟรนด์กันก็จริง แต่ต้องเป็นเฟรนด์ ที่มีผลประโยชน์ด้วยกัน ต้องจับมือกันในสิ่งที่ลงตัว ก็จับมือกัน และหากไม่ลงตัว ก็ไปหาคนที่พร้อมที่จะจับมือกับเรา ซึ่งมีตลอดเวลา ไม่เคยมีทางตัน ประเทศไทยต้องเลิกเป็นกระต่ายตื่นตูม ต้องยืนขาเดียว ยืนคนเดียวให้ได้ อย่าไปเชื่อว่าต้องเอนอยู่กับฝ่ายนี้จนเกินไป เพราะวันดีคืนดีหากเขาขยับตัวนิดเดียว เราก็ล้ม หรือถ้าเราจะพยายามบาลานซ์ตัวเองเต้นตามตลอดเวลา ท่ามกลาง 2 ขั้วอำนาจ สุดท้าย 2 ขั้วอยู่ได้สบาย คนเต้นตายก่อน ฉะนั้น สิ่งที่เราต้องทำให้ได้คือเราต้องเป็นขั้วที่ 3 อยู่ของเรา อยู่ให้ได้ หาจุดแข็งและดำเนินต่อไปให้ได้ ซึ่งเราก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอดในการทำธุรกิจ ตนเคยมาจากภาคเอกชนทราบความต้องการของผู้ประกอบการ

"เราต้องเข้มแข็ง อย่ายึดติด ต้องยืดหยุ่นอะไรที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เราก็ต้องทำไป เศรษฐกิจไทยต้องมีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในรูปแบบใหม่ คนพร้อม ทรัพยากรพร้อม กฎระเบียบกำลังทำอยู่ ถ้าอยากให้พร้อม ก็เลือกผมกลับมา แล้วทำให้จบ ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งที่มันไปมันก็จะเป็นตัวฉุดรั้งหลังความเจริญ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปอยู่ ปฏิรูปพลังงาน ปฏิรูปกฎหมายที่เก่าแก่คร่ำครึ เราก็จะแก้ไขให้หมด ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้ แต่ทุกอย่างภายในเวลาอันจำกัด เราก็ปูทางเอาไว้พี่น้องประชาชนก็ตัดสินใจเอาว่าคนไหนที่มีความตั้งใจที่จะทำสิ่งเหล่านี้ และมีความกล้าหาญมากเพียงพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้" นายกฯ กล่าว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top