วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ชุดสำรวจร่วมไทย-เขมรบินโดรนสำรวจพิกัดปักหมุดชั่วคราววันแรกบริเวณหลักเขต 42 ได้ระยะทางแค่ 800 เมตรรังวัด GPS ได้ 8 จุด เหตุพบอุปสรรค“ลมแรง-ป่าทึบ” ผบ.ทร.ยันทุกเหล่าทัพเตรียมพร้อมดูแลอธิปไตยชาติ ปฎิบัติทันทีเมื่อเกิดเหตุ ยันหมวดเรือลาดตระเวนป้องกันชายแดน ตามเส้นที่ไทยประกาศไว้เมื่อปี 2516 ไม่มีการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ส่วน‘ฉก.นย.ตราด’ลั่น‘เขมร’สร้างสถานการณ์ใส่ร้าย‘นย.ตราด’ ฝ่ายมั่นคงระบุเขมรขน‘รบพิเศษ’ประชิดชายแดนตราดเรื่องปกติ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังชุดสำรวจปักหมุดชั่วคราวร่วมไทย-กัมพูชาเริ่มปฏิบัติการตามแผนงานที่ตกลงร่วมกัน โดยบินโดรน เพื่อวางภาพถ่ายทางอากาศและกำหนดพิกัด เพื่อนำไปสู่การเดินสำรวจร่วมและปักหมุดเขตแดนชั่วคราวในพื้นที่ตามแนวอ้างสิทธิของทั้งสองประเทศโดยเริ่มต้นที่ หลักเขตที่ 42 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.
ผลการดำเนินการรังวัด GPS หมุดควบคุม (GCP) ได้ 8จุด พร้อมทั้งบินโดรนถ่ายภาพได้ 1 เที่ยวบิน ระยะทาง 800 เมตร แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศมีลมแรงทำให้ช่วงเช้าไม่สามารถทำการบินโดรนได้ และ พื้นที่ในเที่ยวบินที่ 2 เป็นป่าค่อนข้างทึบ ทำให้การกรุยแนวเข้าไปยังจุด GCP ค่อนข้างลำบาก โดยวันนี้มีแผนการปฏิบัติในการรังวัด GPS และบินโดรนเที่ยวต่อไป
ด้านกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เผยแพร่ข้อมูลให้กำลังพลและประชาชน เรื่องของทุ่นระเบิด พีเอ็มเอ็น-2 ถึงรูปแบบการวางทุ่นระเบิดแบบใหม่ที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย จากหลักฐานที่รวบรวมมาจากในที่เกิดเหตุ ซึ่งในบางจุดทางเจ้าหน้าที่พบเป็นพัสดุที่ใส่ พีเอ็มเอ็น-2 นำเข้ามาก่อนวาง ทำให้รู้ว่าทุกครั้งจะมีทุ่นระเบิดในจุดที่เกิดเหตุประมาณ 6 ทุ่น ส่วนใหญ่มักพบทุ่นระเบิดใหม่ การวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา จะวางลักษณะเป็นกลุ่มจำนวน 3-6 ลูก โดยการวางจะวางในรูปแบบดักซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง แบบสลับฟันปลา ในเส้นทางที่คาดว่าฝ่ายไทยใช้ในการลาดตระเวนพื้นที่ หรือใช้การลวงให้เดินเข้าไปในเส้นทางพื้นที่สังหาร เช่น 1.ตะโกนเรียกชวนให้เกิดการทะเลาะ แล้วเดินเข้าไปเหยียบ 2.ตัดลวดหีบเพลง เพื่อให้ทหารไทยเดินเข้าไปซ่อมแซม วางใหม่แล้วเหยียบ 3.ใช้การวางก่อนถอนตัวในพื้นที่ที่ทางทหารไทยเข้ายึดครองได้ 4.กัมพูชาใช้การลาดตระเวนเข้ามาในเขตไทย เมื่อถูกให้ผลักดันออกไปนอกพื้นที่ ก็จะแอบมาวางในเวลากลางคืน เพราะรู้ว่าทหารไทยต้องเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ใหม่ในวันรุ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่ล้วนแล้วแต่ส่อเจตนามุ่งหมายเอาชีวิตต่อทหารไทย อย่างไร้มนุษยธรรม และผิดหลักสากลตามอนุสัญญาออตตาวา
น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราก) เปิดเผยถึงกรณีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT เดินทางมาลงพื้นที่บ้านทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ (19 พฤศจิกายน) รวมถึงกรณีมีเสียงคล้ายปืนและอ้างว่ามาจากฝ่ายไทยว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้สร้างสถานการณ์ขึ้นมาจริง ในส่วนของเสียงปืน ซึ่งเป็นเพียงเสียงประทัดเพียง 1 นัด ส่วนจะเป็นคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT จริงหรือไม่จริงนั้น ตนไม่ยืนยัน แต่ตั้งข้อสงสัยว่าใช้ AOT จริงมาสร้างสถานการณ์หรืออาจให้ทหารกัมพูชาแต่งกายคล้ายคณะ AOT เพื่อสร้างสถานการณ์ก็ได้ ส่วนการประท้วงนั้น ไม่จำเป็น เพราะหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดเฉยๆกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกัมพูชานำกำลังหน่วยรบพิเศษ หรือ BHQ มายังชายแดนติดชายแดนตราด ที่บ้านทมอดาจริงหรือไม่ ผบ.ฉก.นย.ตราดระบุว่า เป็นเรื่องปกติในพื้นที่ความขัดแย้ง เป็นเรื่องปกติในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมทหารปกติ อาจสร้างข่าวขึ้นมาให้ฝ่ายไทยกลัว แต่เราไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เพราะฉก.นย.ตราดก็เตรียมการพร้อมขั้นสูงสุด รับมือสถานการณ์ตลอดเวลาไม่ได้กลัวอะไร
น.อ.ธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่มีพ่อแม่สอบถามายังสื่อมวลชน ทำไมลูกชายที่เพิ่งเกณฑ์ทหารฝึกได้ 2 เดือน ถึงถูกส่งไปพื้นที่ชายแดนตราดว่า การฝึก 2 เดือนนั้นก็สามารถเข้าไปทำงานพื้นที่ชายแดนได้แล้ว แต่จะอยู่ในส่วนสนับสนุน ไม่ได้ไปอยู่ในแนวหน้าประชิดข้าศึก เพราะทุกคนที่เข้ามาเป็นทหาร จะถูกพิจารณาขีดความสามารถเป็นบุคคลไปว่าเหมาะกับการทำงานส่วนไหน
ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงการพูดคุยในที่ประชุมผู้บัญชาการทางทหารวานนี้อย่างไรในการดูแลอธิปไตยของชาติว่า เราเตรียมความพร้อม และใช้มติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ข้อสุดท้ายว่า ทุกเหล่าทัพต้องเตรียมความพร้อมปฏิบัติได้ทันทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือเมื่อสั่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมวดเรือป้องกันชายแดนมีการจัดวงรอบหรือมีการเสริมกำลังอย่างไรบ้าง ผบ.ทร. กล่าวว่า บทเรือป้องกันชายแดน จัดวงรอบการปฏิบัติทุก 6 เดือน แต่ในการปฏิบัติวงรอบ 6 เดือน การปฏิบัติจริงจะมีวงรอบภายในอีก และเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ กำลังทั้งหมดของหมวดเรือลาดตระเวนป้องกันชายแดนก็อยู่ในพื้นที่หมด ซึ่งเราปฏิบัติการตามเส้นที่เราประกาศไว้เมื่อปี 2516 เราใช้เส้นนั้นลาดตระเวนในการคุ้มครองรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลมาตลอด และไม่มีการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี