'ทัพไทย'เปิดหลักฐาน AOT-TH ยันชัดเขมรฝังทุ่นระเบิดใหม่ในเขตแดนไทยทั้งหมด

'ทัพไทย'เปิดหลักฐาน AOT-TH ยันชัดเขมรฝังทุ่นระเบิดใหม่ในเขตแดนไทยทั้งหมด

วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 07.55 น.

'กองทัพไทย'เปิดหลักฐาน AOT-TH ยันชัดทุ่นระเบิด PMN-2 ภูมะเขือเป็นของใหม่ ทำทหารไทยเสียขา พบเขมรฝังทุ่นใหม่อื้อในเขตแดนไทยทั้งหมด ยังเก็บกู้ไม่ได้ เสี่ยงอันตราย ยันมีหลักฐานทางกายภาพ พิกัดภูมิศาสตร์ ภาพถ่าย วิดีโอ เป็นเชิงประจักษ์

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2568 กองบัญชาการกองทัพไทย ออกประกาศเปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย (ASEAN Observer Team- Thailand: AOT-TH) ต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ โดยผลการสังเกตการณ์ยืนยันชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดที่พบเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ที่ถูกฝังใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าตามที่กองทัพกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด


คณะ AOT-TH ได้ลงพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุ และจากการประเมินสภาพหน้าดิน รูปแบบการวางทุ่น และร่องรอยการฝัง พบว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ถูกฝังในช่วงเหตุปะทะล่าสุด ลักษณะตรงกับทุกเหตุการณ์ก่อนหน้าในความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทุ่นระเบิด PMN-2 ที่พบในแต่ละครั้งล้วนเป็นการฝังใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่ตกค้างตามคำกล่าวอ้างของฝ่ายกัมพูชา

จากการตรวจสอบของหน่วยวิศวกรรมร่วมกับ AOT-TH ยังพบสัญญาณบ่งชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจมีการฝังทุ่นระเบิดเพิ่มเติม และยังไม่สามารถเข้าดำเนินการเก็บกู้ได้ในทันทีเนื่องจากความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

นอกจากนี้ คณะ AOT-TH ได้ยืนยันพิกัดจุดพบทุ่นระเบิดทุกจุดด้วย GPS โทรศัพท์มือถือ (Google Map) ร่วมกับแผนที่ภูมิประเทศอย่างเป็นระบบ ผลการตรวจสอบชัดเจนว่า ทุกตำแหน่งอยู่ในดินแดนของไทยทั้งหมด ไม่มีจุดใดอยู่นอกเขตแดนไทย

ที่สำคัญ หัวหน้าคณะ AOT-TH ได้ตรวจสอบ โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของทหารกัมพูชา ซึ่งถูกทิ้งไว้ขณะถอนกำลังบริเวณภูมะเขือ ภายในโทรศัพท์พบภาพถ่าย วิดีโอ และข้อมูลการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน โดยมีภาพการวางและขุดฝังทุ่นระเบิด PMN-2 รวมถึงภาพการปฏิบัติของทหารกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ยืนยันได้ว่าทุ่นระเบิดถูกฝังโดยฝ่ายกัมพูชาในเขตแดนไทย
คณะสังเกตการณ์ยังระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยใช้เป็นฐานปฏิบัติการส่วนหน้าในช่วงการปะทะ และมีความเป็นไปได้สูงว่าทุ่นระเบิดถูกฝังในห้วงสถานการณ์ความตึงเครียดล่าสุด ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่เหลืออยู่ในพื้นที่ตามการชี้แจงของฝ่ายกัมพูชา

กองบัญชาการกองทัพไทยขอย้ำว่า ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่มาจากการสังเกตการณ์โดยตรง หลักฐานทางกายภาพ พิกัดภูมิศาสตร์ ภาพถ่าย วิดีโอ และการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ โดยคณะ AOT-TH ซึ่งมีความเป็นกลาง โปร่งใส และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลทุกขั้นตอน โดยประเทศไทยปฏิบัติตามทุกข้อตกลงภายใต้กรอบกลไกทวิภาคี ไม่ว่าจะเป็น GBC, JBC หรือข้อตกลงการสังเกตการณ์ร่วมทุกฉบับ พร้อมดำเนินงานตามหลักสันติวิธี ความโปร่งใส และมาตรฐานสากลมาโดยตลอด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างสร้างสรรค์และรักษาความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยยังพบพฤติการณ์จากฝ่ายกัมพูชาที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในหลายเวทีการหารือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเจรจาและความเชื่อมั่นในกลไกความร่วมมือ

ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยยังคงเดินหน้าตามกลไกทวิภาคีทุกระดับอย่างโปร่งใส ชัดเจน และตรวจสอบได้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏต่อประชาคมในทุกเวทีที่เกี่ยวข้อง และเพื่อปกป้องอธิปไตย-บูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างมั่นคงต่อไป
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top