แนวหน้าวิเคราะห์ : ผ่าปม‘พรรคส้ม’พลิกเกมกล่อม‘เพื่อไทย’เบรกซักฟอก ผวายุบสภา ดับฝันแก้ รธน.

แนวหน้าวิเคราะห์ : ผ่าปม‘พรรคส้ม’พลิกเกมกล่อม‘เพื่อไทย’เบรกซักฟอก ผวายุบสภา ดับฝันแก้ รธน.

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 07.00 น.

สถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยช่วงนี้สั่นสะเทือนสมการอำนาจอย่างที่ไม่เคยได้เห็นในทางการเมือง เมื่อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พยายาม“กล่อม”พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ชะลอการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยขอให้รอให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาผ่านวาระ 3 เสียก่อน

โดยนายณัฐพงษ์ ยอมรับได้เข้าไปคุยกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจว่า เซ็นMOAเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้า อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่การตัดสินใจ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ถ้ายื่นไปก็พร้อมทำหน้าที่เต็มที่ แต่ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย


ขณะเดียวกัน นายจุลพันธ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่านายณัฐพงษ์หัวหน้าพรรคประชาชนได้มาขอให้เพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกจริงหลังผ่านวาระ3ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าการหารือไม่ได้ข้อสรุป

“พรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องของจุดยืนว่าเราจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล แต่นายณัฐพงษ์และพรรคประชาชนได้ร้องขอให้ชะลอ เพื่อให้รอการลงมติวาระ3 ซึ่งยังไม่มีข้อตัดสินใจ หรือข้อสรุป หลังจากนี้ไม่เกินก่อนเปิดสมัยประชุมคงจะได้ติดต่อประสานงานและพูดคุยกันกับนายณัฐพงษ์และทีม เพื่อสรุปในเรื่องของทิศทาง”

สถานการณ์นี้ จึงไม่ใช่แค่การต่อรองระหว่างสองพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นการชี้ชะตาเส้นทางแก้ไขรธน. และอาจกำหนดอนาคตการยุบสภาของรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ด้วยที่เคยประกาศไว้ว่าถ้ารอไม่ไหว อาจจะประกาศยุบสภา วันที่ 12 ธันวาคมนี้

ล่าสุด ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ได้เห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธันวาคม เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ วาระ 3 เมื่อเปิดสมัยวิสามัญในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2568 เสร็จสิ้นแล้ว รัฐธรรมนูญ มาตรา 2560 กำหนดให้ต้องรอไว้ 15 วัน เพื่อให้รัฐสภาได้ลงมติในวาระ 3 ในวันที่ 29 ธันวาคม 2568 เพื่อให้เสร็จทันปีนี้

ที่น่าสนใจ ทำไม ปชน. ต้องเร่งให้แก้รัฐธรรมนูญผ่านก่อนซักฟอก?

พรรคประชาชนได้วางยุทธศาสตร์ชัดเจนว่า ภารกิจสูงสุด คือ“ดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จในชั้นวาระ 3”ซึ่งถือเป็นเป้าหมายเชิงโครงสร้างที่ใหญ่กว่าการซักฟอกรัฐบาลในรอบนี้

แรงจูงใจหลักของ ปชน.ได้แก่

กลัวรัฐบาลยุบสภาก่อนวาระ 3 เพราะหากสภาถูกยุบก่อนการลงมติวาระ 3แล้ว การแก้รธน.จะ ตกไปทันที ต้องนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดในสภาชุดหน้า นี่คือ สิ่งที่ปชน.มองว่าเป็น“ฝันร้ายที่สุด”

การยื่นซักฟอกอาจเป็นชนวนเร่งยุบสภา

หากเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านเดินหน้าเต็มที่ รัฐบาลอาจตีความว่าเป็นแรงกดดันและใช้เป็นเหตุยุบสภาเพื่อหนีการปะทะการซักฟอก จึงเป็น“ความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น”ในมุมปชน.อาจจะสูญเปล่าไม่ได้อะไรเลย

เป้าหมายสำคัญ แก้รธน.คือผลงานทางการเมืองที่จับต้องได้

หากวาระ 3 ผ่าน นั่น คือ เครดิตสูงสุดของพรรคปชน. ในฐานะ“พรรคแก้รัฐธรรมนูญ”โดยไม่ว่าต่อไปจะเป็นฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล ก็ยังกลายเป็นมีผลงานชิ้นใหญ่ติดตัวไปเพื่อนำหาเสียงในการเลือกตั้ง

ทำไม เพื่อไทย ไม่ให้คำตอบชัดเจน?

แม้พรรคเพื่อไทยยังมีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีต่อปชน.แต่ก็มีเงื่อนไขทางยุทธศาสตร์ที่ทำให้“ยังไม่ปิดดีล”ได้แก่

เพื่อไทยต้องรักษาภาพผู้นำฝ่ายค้าน

เพื่อไทยถูกคาดหวังจากสังคมว่า ต้องใช้เครื่องมือการซักฟอกเพื่อถ่วงดุลในการตรวจสอบรัฐบาลหวังปุกหมุดติดชนักปักหลังพรรคภูมิใจไทย เพื่อเรียกคะแนนนิยมก่อนยุบสภาเพื่อไปการเลือกตั้ง หากยอมถอยตามแรงกดดันมากเกินไป ท่ามกลางกระแสตกขณะนี้ อาจยิ่งทำให้เสียฐานเสียง

เพื่อไทยจำเป็นต้องวางตำแหน่งในสนามเลือกตั้งล่วงหน้า  การยื่นซักฟอกเป็นเวทีสำคัญที่พรรคใช้ขยายบทบาท อาจไม่อยากปล่อยโอกาสจังหวะนั้นไปได้

เพื่อไทยไม่อยากถูกมองว่าผูกพันตนเองกับปชน.มากเกินไป เพราะสถานะของ ปชน.ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็น“ฝ่ายค้าน–ฝ่ายค้ำ–หรือฝ่ายค้านแท้” ในอนาคต

 สรุปจริงๆแล้ว พรรคปชน.อยากเป็นอะไร? ฝ่ายค้าน? ฝ่ายค้ำ? หรือ แค่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ?

จากท่าทีอย่างต่อเนื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ปชน. ไม่ได้ตั้งใจเป็นฝ่ายค้านแท้แบบแข็งกร้าวแต่ก็ไม่ต้องการถูกตีตราว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ จึงเกิดภาพว่าเป็น ฝ่ายค้าน แบบ“ค้ำเชิงเงื่อนไข”

โดยมี“เงื่อนไขใหญ่ เพียงหนึ่งเดียว”คือ แก้รัฐธรรมนูญต้องผ่าน

หลังจากนั้น พรรคปชน.มีแนวโน้มกลับไปท่าที “ฝ่ายค้านมากขึ้น” โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทิน กล่าวง่าย ๆ คือ ปชน.ยอมค้ำรัฐบาลเฉพาะช่วงแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ยอมค้ำตลอดไป นี่คือเหตุผลที่ช่วงนี้ ต้องกล่อม พรรคเพื่อไทย หวังไม่ให้ยื่นซักฟอกก่อนวาระ 3

หากยุบสภาก่อนวาระ 3 กลายดับฝันแก้รัฐธรรมนูญไปทันที?

ถ้ายุบสภาจริง ผลกระทบใหญ่หลวง  ร่างแก้ไข รธน.จะตกไปทันที ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมดในสภาชุดใหม่และนั่นหมายถึงโอกาสต่ำมากที่ร่างจะแก้ “ทันปี 2570” ตามเป้าหมายหลายฝ่าย

ขณะที่สภาใหม่หลังการเลือกตั้ง อาจมีสมการพรรคการเมืองเปลี่ยนไป ไม่มีใครการันตีว่า ปชน. หรือพรรคที่สนับสนุนแก้รธน.จะมีเสียงมากพออีกครั้ง ส่วนฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้รธน.ปี2560 จะได้เปรียบทันที เพราะยุบสภา คือ กดปุ่มรีเซ็ต กระบวนการทั้งหมด

สรุปคือถ้ายุบสภาก่อนลงมติวาระ 3 จะดับฝันแก้รธน.ดับทันที นี่คือสิ่งที่ พรรค ปชน.กังวลอย่างยิ่ง และเป็นที่มาของท่าทีเชิงประนีประนอมในช่วงนี้ สรุปภาพรวมทิศทางการเมือง พรรคประชาชนกำลังเดินเกมแบบ“ยอมชะลอการตรวจสอบเพื่อแลกผลประโยชน์ทางโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่กว่า” คือรัฐธรรมนูญใหม่ ในอีกด้านหนึ่ง

เพื่อไทย ต้องหาสมดุลระหว่างภาพผู้นำฝ่ายค้าน vs. การไม่ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว

สมการที่น่าจับตา คือ หากเพื่อไทย“ยอมชะลอ”การยื่นซักฟอก โอกาสแก้ รธน.วาระ 3 ผ่านสูงขึ้น หากเพื่อไทย“เดินหน้า”ยื่นซักฟอกเต็มรูปแบบ เสี่ยงถูกใช้เป็นชนวนเหตุยุบสภา หากยุบสภาก่อนเดตไลน์  การแก้รัฐธรรมนูญ จะจบสิ้นลงทันที ดังนั้น ทิศทางต่อไปขึ้นกับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยว่า จะให้ความสำคัญกับ‘ยุทธศาสตร์พรรค” หรือ “ยุทธศาสตร์โครงสร้างประเทศ”มากกว่ากัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top