วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รัฐบาล เปิดศูนย์ ‘ศปกฉ.’รับเรื่องร้องทุกข์ตลอด 24 ชม. บูรณาการช่วยเหลือน้ำท่วมใต้ ยันไม่เป็นอุปสรรคการบริหารจัดงานแน่นนอน
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศปกฉ.) แถลงเปิดศูนย์ศปกฉ. ว่า วันนี้รัฐบาลได้ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นผู้บริหารสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ได้จัดตั้ง ศปกฉ. มีตนเป็นผู้อำนวยการ มี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกฯ เป็นเลขาธิการ ศปกฉ. มีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และพล.ท.วันชนะ สวัสดี โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นโฆษก ศปกฉ. ศูนย์นี้จะบูรณาการหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อรวบรวมรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในเขตพื้นที่ ผ่านหมายเลข 1784 และ 1111 รวมถึงเพจข่าวสารต่างๆ เพื่อนำมาคัดกรองกัน สำหรับการช่วยเหลือจะแบ่งเป็นเคสสีแดง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน ผู้ที่อยู่ในที่อันตรายขั้นรุนแรงและวิกฤติ เคสสีเหลืองสำหรับผู้ที่ติดอาศัยอยู่ในบ้านเรือนสองชั้น แต่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และทรัพยากร โดยจะประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่มี ผบ.ทสส. เป็นผู้บัญชาการหน้างานดำเนินงานช่วยเหลือต่อไป
นายภราดร กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานรัฐอยู่ในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหล่าทัพต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเรื่องการอพยพและลำเลียงสิ่งของจำเป็นให้ผู้ที่อยู่ด้านใน โดยผบ.ทสส.จะเป็นผู้บริหารหน้างาน และประสานกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรวบรวมและสอบถามความต้องการของแต่ละจุดว่าต้องการแบบไหน และจะบริหารจัดการหน้างาน ส่งมาเร็วที่มีทั้งเรือและรถเข้าไปช่วยเหลือประชาชน จุดไหนที่เรือเข้าไม่ได้ก็จะใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อนำอาหารและสิ่งของจำเป็นเข้าไปดูแลได้มากที่สุด ส่วนโรงพยาบาลนายกฯได้มีคำสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการอย่างไรก็ได้ เพื่อให้โรงพยาบาลไม่ขาดไฟฟ้า พยายามดูแลชีวิตของผู้ป่วยให้ดีที่สุด หากเคสไหนไม่สามารถที่จะดำเนินการอยู่ที่โรงพยาบาลได้ โดย ผบ.ทสส.จะเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการรับผู้ป่วยออกมาเป็นเคสๆไป
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยศูนย์ดังกล่าวจะเปิด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลจากทุกแพลตฟอร์ม นำมาคัดกรอง หลังจากการเปิดศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยแล้ว หากมีข้อกังวลใจจากภาคประชาชน จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปคัดกรองแล้วจะทำให้เกิดความล่าช้าหรือไม่ ยืนยันว่าการดำเนินการในส่วนพื้นที่ก็มีการปฏิบัติการในระดับหมู่บ้านตำบล อำเภอ และจังหวัดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราได้พบคือข้อมูลมาจากหลากหลายช่องทาง ทั้งช่องทางที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ หน้าที่ของศูนย์ฯนี้คือการรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นไปจัดเรียงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าการเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือของจิตอาสาเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าไม่มีการบริหารจัดการหลังบ้านที่ดีก็จะกลายเป็นว่าทรัพยากรที่มีจะลงไปตามพื้นที่ อาจจะได้รับทราบข้อมูลตามโซเชียลมีเดีย หรือตามแหล่งข่าวเท่านั้น ดังนั้นการศูนย์ฯ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่หลังบ้านให้กระจายลงพื้นที่อย่างทั่วถึง และหลังจากน้ำลดแล้วศูนย์ฯนี้ก็จะมีหน้าที่ในการบริหารจัดการทรัพยากรข้อมูลในกรณีที่มีการช่วยเหลือจากพื้นที่ต่างๆให้ข้อมูลว่าโซนไหนยังขาดแคลนอะไร ไม่ให้เกิดเหตุการณ์บางศูนย์มีมาก บางศูนย์ยังขาดและยืนยันฯว่าศูนย์นี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการงานอย่างแน่นนอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี