วิทยา รทสช. ติง อนุทิน หากชิงยุบสภาหนีซักฟอก ทิ้ง 3 ปัญหาเฉพาะหน้า อาจไม่ได้กลับมาอีก 

วิทยา รทสช. ติง อนุทิน หากชิงยุบสภาหนีซักฟอก ทิ้ง 3 ปัญหาเฉพาะหน้า อาจไม่ได้กลับมาอีก 

วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.02 น.

ผิดเจตนารมย์ฉบับประชาชน! ‘วิทยา รทสช.’ ค้านเนื้อหาร่างแก้รธน. ติงหาก ‘อนุทิน’ ชิง ‘ยุบสภา’ หนี ‘ซักฟอก’ ทิ้ง ‘3ปัญหาเฉพาะหน้า’ รอบหน้าอาจไม่ได้กลับมา

1ธ.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กมธ.เสียงข้างมากพิจารณาแล้วเสร็จและเตรียมส่งให้ประธานรัฐสภาบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาในระหว่างวันที่ 10-11 ธ.ค. ว่า ส่วนตัวมองว่าเนื้อหาที่กมธ.แก้ไขมานั้น ไม่ได้ทำให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เนื่องจากกลไกที่กำหนดให้มีคณะกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คนและกมธ.รับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน จำนวน 35 คนนั้นมีที่มาจากรัฐสภาเป็นผู้เลือก ซึ่งตนมองว่าหากเป็นเช่นนั้นการแก้รัฐธรรมนูญควรแก้ไขเป็นรายมาตราให้รัฐสภาดำเนินการแทนจะดีกว่า เพื่อไม่เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ 


“คนที่มาหยิบมาจากรัฐธรรมนูญฉบับเก่า สส.มาจากการเลือกตั้งโดยรัฐธรรมนูญที่ถูกมองว่าเป็นเผด็จการ สว. ก็มาตามรัฐธรรมนูญเผด็จการ ดังงนั้นเมื่อไปเลือกกมธ.ร่างงรัฐธรมนูญ ก็คือ หลานเผด็จการที่จะไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่  ดังนั้นเมื่อเวียนกลับมาสภา แทนที่จะคิดให้อออกว่าแก้อะไร เสนอแก้รายมาตราตามที่ผมอภิปรายว่าเซ็นเช็คเปล่าไปให้ร่างทั้งหมดดังนั้นเจตนารมณ์ที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนตามที่หวัง ก็ไม่ได้แล้ว” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณาวาระสองและวาระสามนั้น ตนประเมินว่าจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากว่าพรรคภูมิใจไทย มีข้อตกลงทางการเมืองกับพรรคประชาชนที่เมื่อรวมกันแล้วจะได้เสียงข้างมาก ขณะที่สว. เป็นที่รู้กันว่าเป็นของพรรคไหน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยสามารถกุมเสียงสว. แต่เมื่อผ่านไปแล้วเป็นหน้าที่ผู้สมัครสส. ที่ต้องอธิบายให้ประชาชนฟังก่อนทำประชามติ แล้วจะอธิบายอย่างไรว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะเขียนอย่างไร  และในเมื่อรัฐสภาเป็นคนเลือก คณะร่างรัฐธรรมนูญ สภาเขียนเองไม่ดีกว่าหรือ ดังนั้นตนจะไม่เห็นชอบร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐสภาเตรียมพิจารณา

เมื่อถามถึงกรณีของการยุบสภาระหว่างที่พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จ นายวิทยา กล่าวว่า หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล  นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.นั้น รัฐธรรมนูญไม่ได้อะไร ได้ยุบสภาอย่างเดียว หากยุบก่อน 25 ธ.ค. ก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านวาระสาม ดังนั้นเวลานี้ความรู้สึกของประชาชนอยากเร่งรัดรัฐบาลเรรื่องแก้ปัญหา 3 เรื่องหลัก คือ 1.น้ำท่วมภาคใต้ รัฐบาลจะดูแลอย่างไร เพื่อให้พ้นจากความทุกข์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  2.ปัญหาชายแดน หากยุบสภา 12 ธ.ค. แล้วมีเหตุการณ์ที่สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชาประกาศยกพลมาอะไรจะเกิดขึ้น เพราะการประกาศสงครามต้องใช้รัฐสภา เมื่อไม่มีรัฐสภา ต้องใช้วุฒิสภา เราพร้อมหรือไม่ และ 3.ปัญหาสแกมเมอร์ ทุจริตข้ามชาติ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเนื่องจากมีคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานและตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

“รัฐบาลควรทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จ ถ้าไม่ทำ ผมคิดว่ารัฐบาลลำบาก ถ้ายุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. แล้วทิ้งปัญหาทั้งหมดไว้ โดยรัฐบาลไปเผชิญหน้ากับการเลือกตั้ง ผมว่าคิดดูให้ดี ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเกิดเหตุการณ์จราจลในพื้นที่หาดใหญ่ จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะปี 2518 น้ำท่วมที่จ.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุเผาจวนผู้ว่าและ ปี2531 มีการปิดป่า จนคนตาย 300-400 คน ดังนั้นขอให้เป็นบทเรียนที่รัฐบาลนำมาพิจารณาและทำให้เกิดความกระจ่าง” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ตนมองว่าเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่รัฐบาลต้องทำ หากเล่นการเมืองมากกว่าปัญหาประชาชน เชื่อว่าจะกลับมาไม่ได้ ดังนั้นต้องแก้ปัญหาให้จบ รัฐบาลมาอย่างไร เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องรักษาของตัวเองไว้ให้ได้ หากไม่แก้อะไรเลย ทิ้งปัญหา ถ้าเกิดยุบสภาก่อน ขอถามว่าความปั่นป่วนจะเกิดอะไรขึ้น ใครมีอำนาจจริง ใครจะเชื่อว่าพวกคุณจะได้กลับมา ตอนนี้ได้สั่งกาาร แต่ตอนทำหน้าที่รักษาการ จะสั่งใครไม่ได้ ดังนั้นขอให้มากแก้ปัญหาดีกว่า เมื่อถึงเวลาผิดก็ไปว่าในสภา

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติไม่ไว้วางใจพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมด้วยหรือไม่ กล่าวว่า ตนอยากให้ตรวสอบ เร่งรัดไปแก้ปัญหา มากกว่าเล่นเกมการเมือง หรือเร่งยุบสภา เพราะยุบ หรือไม่ สภาไม่ใช่สาระสำคัญ 

เมื่อถามย้ำว่า นายอนุทิน เคยระบุว่าหากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยุบสภาหนี นายวิทยา กล่าวว่า “หนีก็หนีไป  แล้วต้องหนีทั้งชีวิต แล้วจะกลับมาเผชิญหน้าเขาได้อย่างไร ถ้ากลับมาเขาเผาหาดใหญ่ทั้งงหาดใหญ่ เผาบ้านผู้ว่าแล้ว เพราะทุกอย่างมีบทเรียน ดังนั้นควรถอดบทเรียนในอดีตมาดู”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top