วันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายอัษฎางค์ ยมนาค หรือ “เอ็ดดี้” นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า รัฐบาลอนุทิน มีศุภจีเป็นจุดเด่น ทำไมปล่อยให้มีธรรมนัส เป็นจุดอ่อน คำตอบอยู่ที่ "คณิตศาสตร์การเมือง" #อัษฎางค์ยมนาค | #อ่านเกมอำนาจ
คิดดูว่า แต่งตั้งธรรมนัส ซึ่งเป็น รมว.เกษตรไปเป็นแม่ทัพโวกเวกโวยวายสั่งการแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ มันดูพิศดาลและข้ามห้วย
จึงเกิดเป็นคำถามมากมายจากชาวบ้านว่ามีคนอย่างคุณศุภจีที่ทำให้รัฐบาลดูดีอยู่แล้วทำไมต้องมีจุดอ่อนธรรมนัสเอาไว้
นี่ถือเป็นกรณีศึกษาของโมเดลการเมืองไทยแบบ "ประนีประนอมเพื่อความอยู่รอด"
คุณศุภจีคือตัวแทนของ "ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ" ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ดึงดูดชนชั้นกลางและคนเมือง และเป็นเกราะป้องกันทางการเมือง เมื่อฝ่ายค้านจะโจมตีเรื่อง
ความไร้ประสิทธิภาพ การมีคนทำงานเก่งจริงๆ ยืนอยู่แถวหน้า จะทำให้รัฐบาลมีความชอบธรรม ในการบริหารประเทศต่อไป
On the other hand ธรรมนัสในมุมมองสาธารณชน คือตัวแทนของ "การเมืองแบบเก่า" แต่ในมุมของคนจัดตั้งรัฐบาล เขาคือ "ความจำเป็น"
ธรรมนัสเป็นตำบลกระสุนตก เป็นจุดอ่อนแรกที่ฝ่ายค้านและสื่อมุ่งเป้าโจมตี ทั้งเรื่องความโปร่งใส ภาพลักษณ์สีเทา และประวัติในอดีต ซึ่งจะดึงเรตติ้งความน่าเชื่อถือของรัฐบาลให้ตกลงอย่างรวดเร็ว
การมีธรรมนัสอยู่ใน ครม. เดียวกับศุภจี ทำให้เกิดคำถามเรื่อง "มาตรฐานจริยธรรม" และทำให้นโยบายปราบปรามคอร์รัปชันดูไม่ศักดิ์สิทธิ์ทันที
คำถามสำคัญคือ ถ้ารู้ว่าเป็นจุดอ่อน ทำไม "รัฐบาลอนุทิน" ถึงต้องยอมแบกรับธรรมนัสเอาไว้?
คำตอบอยู่ที่ "คณิตศาสตร์การเมือง" และ "การแบ่งงานกันทำ"
เสถียรภาพของตัวเลข ส.ส.:
คุณศุภจี อาจจะเก่งบริหาร แต่ "ไม่มีมือในสภา" (ไม่มี ส.ส. ในสังกัด)
คุณธรรมนัส อาจจะภาพลักษณ์ไม่ดี แต่ "คุมเสียงในสภาได้" (มีกลุ่ม ส.ส. ในมือจำนวนมาก)
รัฐบาลจะอยู่รอดได้ต้องใช้เสียงโหวตผ่านกฎหมายและงบประมาณ อนุทินจึงจำเป็นต้องมี "ผู้จัดการรัฐบาล" ที่คุมเสียง ส.ส. ได้เด็ดขาด ซึ่งธรรมนัสเชี่ยวชาญเรื่องนี้ที่สุด
หน้าบ้าน ใช้คุณศุภจี ออกสื่อ พูดคุยกับนักลงทุน ต่างชาติ และแถลงนโยบายสวยหรู เพื่อตรึงศรัทธาสาธารณชน
หลังบ้าน (ผู้กองตุ๋ยเขาเก่งเรื่องหลังบ้าน) ใช้คุณธรรมนัส ดีลผลประโยชน์ เคลียร์ปัญหาระหว่างพรรคร่วม และรวบรวมเสียงโหวต เพื่อตรึงเสถียรภาพอำนาจ
กับยุทธศาสตร์ "หนามยอกเอาหนามบ่ง":
นายกฯ อนุทินอาจมองว่า การเก็บธรรมนัสไว้ใกล้ตัว (Keep your enemies close) ปลอดภัยกว่าปล่อยให้ไปเป็นแกนนำฝ่ายค้านหรือไปจับมือกับขั้วอื่น การให้ตำแหน่งคือการผูกมัดให้ธรรมนัส
ต้องปกป้องรัฐบาล
สรุป
รัฐบาลรูปแบบนี้คือโมเดล "2 ขาที่ขัดแย้งแต่ขาดกันไม่ได้"
ถ้าขาด “ศุภจี” รัฐบาลจะล้มเหลวเรื่องการบริหารเศรษฐกิจและศรัทธาประชาชน แต่ถ้าขาด “ธรรมนัส” รัฐบาลจะล้มเหลวในสภาและอาจถูกโหวตคว่ำได้ง่ายๆ
ความท้าทายของคุณอนุทินในฐานะนายกฯ คือ "การบริหารความขัดแย้ง" ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ภาพลักษณ์สีเทาของธรรมนัส กลบแสงสว่างความสามารถของศุภจี จนพังกันไปทั้งกระดาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี