ภราดร เผย นายกฯ สั่งตั้งคณะกรรมการถอดบทเรียน รับมือมหาภัยในอนาคต ก่อนยุบสภา

ภราดร เผย นายกฯ สั่งตั้งคณะกรรมการถอดบทเรียน รับมือมหาภัยในอนาคต ก่อนยุบสภา

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.12 น.

“ภราดร” เผย นายกฯตั้ง คกก.ถอดบทเรียนรับมือมหาภัยในอนาคต เชิญนักวิชาการ-เอกชนให้ข้อคิด ระบุ รวบรวมให้เสร็จก่อนยุบสภา ลั่น ใช้วิกฤตสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศ ยัน เยียวยาศพละ 2 ล.ในพื้นที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จว.อื่นค่อยพิจารณา

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศป.กฉ. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายกฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อที่จะถอดบทเรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือมหาภัยต่างๆ ที่เราเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าภัยครั้งนี้ไม่ใช่ภัยครั้งสุดท้าย เพราะในประเทศมีการเกิดภัยและมหาภัยต่างๆ ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ ในหลายพื้นที่ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหลาย เราไม่เคยมีการถอดบทเรียนหรือสรุปบทเรียนเลย และเมื่อภัยครั้งใหม่มาเราก็ใช้ทรัพยากรของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ถือเป็นบทเรียนของประเทศนี้ โดยในการแก้ไขปัญหาในระยะยาวมีความจำเป็น รัฐบาลนี้ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญในการที่จะสรุปบทเรียนเพื่อที่จะให้ภัยครั้งนี้เป็นตำราเล่มใหญ่ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นระบบ


นายภราดร กล่าวว่า โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายกฯเป็นประธาน และมีคณะกรรมการจากทุกหน่วยงานของราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้ามาให้ข้อคิดและให้บทเรียน รวมถึงเชิญภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา นายเสรี ศุภราทิตย์ รองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) และนายแก้วสรร อติโพธิ เพื่อเข้ามารวบรวมและสรุปบทเรียน และวางแผนสำหรับการรับมือมหาภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ นำเอาหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลเรื่องของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (บีดีไอ) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งจะนำเข้ามาและวางแผน เพื่อที่จะทำให้ในอนาคตประเทศนี้มีเครื่องมือที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพในการที่จะรับมือกับภัยพิบัติตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดเหตุ

นายภราดร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. รัฐบาลประกาศความร่วมมือกับ Tomorrow.io ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในเรื่องของการพยากรณ์อากาศ โดยจะมีการวางระบบในเรื่องการแจ้งเตือน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน เพื่อที่จะเชื่อข้อมูลของภาครัฐ เพื่อที่จะอพยพประชาชนก่อนที่จะเกิดเหตุในเวลาที่เหมาะสม หรือเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องมีการวางแผนบูรณาการในเรื่องการช่วยคน โดยเฉพาะเรื่องกู้ภัยที่บุคลากรของภาครัฐจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นต้องสร้างทีมขึ้นมาเป็นทีมอาสา โดยทีมอาสาทั้งหมดจะต้องเข้ามาขึ้นทะเบียนกับ ปภ. และเมื่อมีเหตุ ปภ.จะสามารถที่จะประสานงานกับทีมกู้ภัยที่เป็นเอกชนเข้ามาช่วยเหลือประชาชน

นายภราดร กล่าวว่า สำหรับเรื่องเยียวยาที่มีปัญหาและอุปสรรคบ้าง รัฐบาลนี้กำลังจะเอาบทเรียนนี้ไปแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง แก้ไขปัญหาระบบราชการที่ติดขัดและมีเส้นทางที่ยาวนาน ยุ่งยากสำหรับประชาชน โดยจะเอาบทเรียนตรงนี้ไปสรุปบทเรียน และไปแก้ระเบียบและกฎหมายทุกข้อที่มีความจำเป็นในการที่จะช่วยเหลือชีวิตของประชาชน ซึ่งจะมีการดำเนินการเยียวยาให้กับประชาชนให้ได้รวดเร็วและสร้างความลำบากให้กับประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามที่จะใช้วิกฤตนี้มาสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศ เพื่อสร้างระบบในการป้องกันมหาภัยหรืออุทกภัยหรือภัยต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นรูปธรรม และเป็นระบบมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงสะท้อนประชาชนนอกเขต พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องเงินเยียวยาศพละ 2 ล้านบาท รัฐบาลจะมีการทบทวนการจ่ายเงินเยียวยาให้ได้อย่างเท่าเทียมหรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและหารือกันใน ครม. ในเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะเอาแต่เฉพาะในเขตที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อน คือ จ.สงขลา ถ้ากรณีจังหวัดใกล้เคียงหรือจังหวัดอื่นใดในประเทศนี้ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมและมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นก็จะต้องนำไปพิจารณากันในลำดับถัดไป

เมื่อถาม คณะกรรมการรวบรวมบทเรียนที่มีนายกฯเป็นประธาน จะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ นายภราดร กล่าวว่า จะทำให้เร็วที่สุด โดยนายกฯได้กำชับว่าพยายามทำให้เสร็จในรัฐบาลนี้ และจะต้องเป็นมติ ครม.ก่อนที่จะมีการยุบสภาให้ได้ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีเวลาในการที่จะถอดบทเรียนทั้งหมดไม่เกิน 2 เดือน ประมาณเดือนกว่าๆ ก่อนที่จะยุบสภา
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top