หมดความอดทน! ‘โฆษกกลาโหม’เปิด 5 ประเด็นหลักสำคัญ ทำให้ไทยต้องตอบโต้‘กัมพูชา’

หมดความอดทน! ‘โฆษกกลาโหม’เปิด 5 ประเด็นหลักสำคัญ ทำให้ไทยต้องตอบโต้‘กัมพูชา’

วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.50 น.

‘โฆษกกลาโหม’ชี้แจง 5 ประเด็นหลักสำคัญ ทำให้ไทยต้องตอบโต้‘กัมพูชา’ ยืนยันยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มุ่งหาสันติภาพ และทำให้ประเทศชาติมีความปลอดภัยมั่นคง

9 ธันวาคม 2568 พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม นำทีมโฆษกเหล่าทัพร่วมแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จากกรณีเหตุปะทะเมื่อวานนี้ (8ธ.ค.68) ฝ่ายกัมพูชา มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง และมีการใช้ BM 21 เข้ามาโจมตียังพื้นที่พลเรือน ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิง ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีลักษณะการเคลื่อนย้ายอาวุธยิงระยะไกล เข้ามาในพื้นที่ของไทย


ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงการณ์ ให้กับคณะทูต ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศจำนวน 73 ประเทศ ไปแล้วโดยเน้นย้ำในเรื่อง 5 ประเด็นสำคัญซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยไม่สามารถอดทนอดกลั้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้คือ 

1.สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การกระทำแบบเดิมของกัมพูชา  รุกรานไทย รวมถึงการยั่วยุในรูปแบบต่างๆ การรอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะพยายามสร้างภาพเรียกร้องสันติภาพ แต่กลับเป็นฝ่ายยั่วยุต่างๆก่อนเสมอ

2.ไทยมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตย และ บูรณภาพดินแดน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการทางทหารจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน

3.ประชาชนคนไทยหมดความอดทน อดกลั้น ต่อการดำเนินการของกัมพูชาที่ไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศไทย รวมถึง การที่คนไทยต้องเผชิญกับภัยคุกคามกับความปลอดภัยครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงต้องใช้ให้ความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สินจนกว่าอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของไทยจะไม่ถูกคุกคาม

4. ท่าทีของไทยรวมถึงการปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินไปจนกว่า กัมพูชาต้องเปลี่ยนแปลงจุดยืนเช่นการกลับเข้ามาสู่ทางเดินสันติภาพที่แท้จริง

5.ประเด็นสุดท้ายกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงต่างๆ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิง และ ถ้อยแถลงร่วมที่ได้มีการลงนาม ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งทั้ง 5 ประเด็นสำคัญที่ทำให้ไทยหมดความอดทนอดกลั้น ทำให้จำเป็นต้องตอบโต้การยิงของฝ่ายกัมพูชา

ทั้งนี้ยืนยันว่า ฝ่ายไทยดำเนินการต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรม โดยยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่มีเป้าหมายเพื่อจำกัดความรุนแรงของการปะทะโดยเน้นการคุ้มครอง พลเรือนผู้บาดเจ็บ แยกแยะเป้าหมายความเป็นสัดส่วนและความจำเป็นทางทหาร ต่างจากอาวุธที่ทางฝ่ายกัมพูชาใช้โดยสิ้นเชิง ที่ได้ส่งผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ 

สำหรับการปฏิบัติการทางฝ่ายไทย เป็นการปฏิบัติที่เน้นในเรื่องของการโจมตีเป้าหมายทางทหารเพื่อลิดรอนขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น ขณะที่การใช้อาวุธของกัมพูชายังคงเป็นลักษณะในการมุ่ง ไปยังเป้าหมายของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และสถานที่พลเรือน สถานพยาบาลต่างๆ ซึ่งเป็นการมุ่งหวังให้เกิดความโกลาหลและตื่นตระหนกของประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมเน้นย้ำว่า ไทยต้องการสันติภาพ แต่สันติภาพนั้นจะต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนเป็นสำคัญ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top